AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ทรงตัวสร้างฐาน
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่กำไรมีแนวโน้มเติบโต
Market Strategy
SET Index คาดแกว่งออกข้างตามกรอบ 1270-1285 จุด ปัจจัยต่างประเทศไม่ได้มีแรงกดดันเพิ่ม ทั้งในส่วนความกังวล U.S. Recession ความตึงเครียดในตะวันออกกลางและเยนแค่รี่เทรด ด้านในประเทศวันนี้จะมีความคืบหน้าทางการเมืองต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลซึ่งเรามองผลต่อตลาดหุ้นจำกัดแต่ข้อดีคือความชัดเจนเพิ่มขึ้น กลยุทธ์วันนี้เลือกหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการแนวโน้มเติบโต MTC และ CPALL
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นกลับในช่วง 0.8% ถึง 1% ตามทิศทางตลาดหุ้นโลก ขณะที่ 3 ประเด็นที่กดดันตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 5 ส.ค. เริ่มทรงตัว เริ่มจาก 1) ความกังวล U.S. Recession ไม่มีแรงกดดันเพิ่มหลังวานนี้ไม่ได้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ 2) ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ล่าสุดสถานการณ์ยังคงทรงตัวจากอิสราเอลอยู่ในช่วงเตรียมพร้อมรับมือการตอบโต้จากอิหร่าน 3) แรงกดดันจากการเร่งทำเยนแครี่เทรดชะลอลงสะท้อนจากค่าเงินเยนปัจจุบันยังทรงตัว 145 เยนต่อ USD
การรายงานงบ 2Q67 รวบรวมข้อมูลถึงวานนี้มีบริษัทจดทะเบียนรายงานแล้ว 35% ของ Market Cap ทำกำไรสุทธิดีกว่า Consensus คาด 3% ปิดความเสี่ยง Earnings Downgrade และเรายังคง EPS67 ที่ 94.7 บาท/หุ้น เติบโต 24%YoY ทำให้ระดับ PER67E ของ SET Index อยู่ 13.5 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีกว่า -1 S.D. จึงยังคงมุมมองการอ่อนตัวเป็นจังหวะซื้อสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว
ส่วนประเด็นติดตามวันนี้ศาลฯ ตัดสินคดีพรรค ก้าวไกล การรายเงินเฟ้อไทยเดือน ก.ค. และการรายงานยอดส่งออกนำเข้าจีนเดือน ก.ค.
Market Summary
SET Index ปรับลง 0.66 จุด แรงกดดันหลัก MINT -5.6% จากรายงานงบ 2Q67 ที่ต่ำคาด สร้าง Sentiment ลบต่อกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม CENTEL -4.7% และ AWC -3% กลุ่มที่ Outperform อิเล็คทรอนิกส์รีบาวน์ของ DELTA +1.6% กลุ่มโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จาก Yield ปรับลง BGRIM +3.6% GPSC +1.9% และ ITC +3.8% จากงบ 2Q67 ดีกว่าตลาดคาด ต่างชาติขายสุทธิ 724 ล้านบาท
ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPALL MTC
CPALL อีก 1 บริษัทที่คาดงบสวย
คาดผลประกอบการ 2Q67 อยู่ที่ 5.74 พันล้านบาท ขยายตัว 29%YoY แรงหนุนมาจาก SSSG ที่ +4%YoY หนุนจากสภาพอากาศร้อนและการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 700 สาขา YoY ทำให้ สิ้น มิ.ย.67 มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 14,915 สาขา
ด้าน GPM เพิ่มขึ้น 20 bps YoY มาที่ 22.2% จากสัดส่วนสินค้า High GPM ที่ขยายดี เช่น อาหารพร้อมทาน เครื่องดื่มและสินค้า personal care ขณะที่อัตราส่วน SG&A ต่อยอดขายลดลงเหลือ 19.5% จาก 19.8% ใน 2Q66 จากค่าใช้จ่ายไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงจากรีไฟแนนซ์สินเชื่อของ Lotus ซึ่งเราเห็น Upside ต่อกำไรของ CPALL จากลูกค้าและ GPM ที่ดี
หุ้นซื้อขายไม่แพงบน PER67E เพียง 22.6 เท่า ต่ำค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -1.7 S,D,
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 78.00 บาท
MTC งบดี 2Q67 คุณภาพสินทรัพย์ก็ดี
รายงานกำไรสุทธิ 1.44 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YoY และ 4% QoQ จากการเติบโตของรายได้และ Credit Cost ที่ลดลง โดยกำไรสูงกว่าที่เราคาดไว้ 2%
จุดสนใจของผลประกอบการงวดนี้มีดังนี้1) รายได้ดอกเบี้ยรับขยายตัว 10%YoY และ 2%QoQ จากการเติบโตสินเชื่อ 16%YoY และ 5%QoQ มีน้ำหนักมากกว่า NIM ลดลงมาที่ 14.2% 2) คุณภาพสินทรัพย์เราเห็นสัญญาณบวกจาก NPL ที่ทรงตัว QoQ ทั้งๆที่ 2Q เป็นช่วงเวลาที่ยากต่อการเก็บหนี้จากผลของฤดูกาลที่ค่าใช้จ่ายเยอะ (เช่นเปิดภาคเรียนและเกษตรกรเตรียมเงินเพาะปลูก) ทำให้สัดส่วน NPL ลดลง 16 bps QoQ มาที่ 2.91% Credit Cost ลดลง 8 bps QoQ มาที่ 3.08% และ Coverage Ratio สูงขึ้น 4%QoQ เป็น 125%
เราคาดว่าราคาหุ้นจะตอบสนองเชิงบวกหลังจากปรับลง 8% ในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลของกำลังซื้อที่จะกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 52.0 บาท
KEY FACTOR
ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ วันนี้ Consensus คาดว่าส่งออก และนำเข้าของจีน จะขยายตัว +9.5% YoY และ +3.2% YoY ตามลำดับ ในเดือน ก.ค. ซึ่งถือเป็นระดับที่สะท้อนภาพเชิงบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเข้าที่จะพลิกกลับมาเติบโตได้ หลังติดลบในเดือนที่ผ่านมา เป็นสัญญาณที่ดีต่อการส่งออกไทยเดือน ก.ค. เช่นเดียวกัน
ประเด็นภายในประเทศ วันนี้ 1) ศาล รธน. มีกำหนดการพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลประมาณ 15.00 ทั้งนี้ ผลกระทบต่อตลาดหุ้นน่าจะไม่มากนัก เนื่องจากไม่ว่าผลจะออกมาในทิศทางใด จะไม่กระทบต่อเสถียรภาพและการดำเนินนโยบายของรัฐบาล 2) รายงานเงินเฟ้อของไทยเดือน ก.ค. ซึ่ง Consensus ประเมินว่า CPI จะขยายตัว +0.7% YoY เร่งตัวขึ้นจาก +0.62% YoY ในเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกับ Core CPI จะเร่งตัว +0.4% YoY จาก +0.36% YoY ในเดือนก่อนหน้า
Eyes on
7 ส.ค. CPI เดือน ก.ค. ของไทย, ศาล รธน. นัดฟังคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล, ส่งออก-นำเข้า เดือน ก.ค. ของจีน
8 ส.ค. ยอดค้าปลีก เดือน มิ.ย. ของ Eurozone
9 ส.ค. CPI และ PPI เดือน ก.ค. ของจีน
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ