Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

566

 

 

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ อัพเดต Sentiment การลงทุนในภูมิภาคจาก Fund Flow

ประเด็นสำคัญ:
การติดตามกระแสการลงทุน (fund flows) ใน 5 ประเทศในสัปดาห์ที่ผ่านมา มียอดขายสุทธิ 3,708 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากยอดขายสุทธิ 3,248 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยมีแรงขายหลักจาก 2 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน 3,638 ล้านเหรียญ และเกาหลีใต้ 171 ล้านเหรียญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดไต้หวันซึ่งมีแรงขายสะสมใน 4 สัปดาห์ที่ผ่านมารวม 13,993 ล้านเหรียญ สูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2022 สะท้อนถึงสภาวะ risk-off sentiment ส่วน TIP market มีแรงซื้อสุทธิรวมกัน 101 ล้านเหรียญ โดยแรงซื้อหลักมาจากอินโดนีเซีย 171 ล้านเหรียญ ส่วนไทยและฟิลิปปินส์มียอดขายสุทธิ 47 ล้านเหรียญ และ 23 ล้านเหรียญ ตามลำดับ
สำหรับเซคเตอร์เด่นของภูมิภาคจากการจับสัญญาณด้วย Volume Index มีดังนี้ (1) ICT/ Communication & Internet (ไทยและไต้หวัน) (2) Energy (อินโดนีเซีย) และ (3) Transport & Storage (เกาหลีใต้)
แนวโน้ม:
เซคเตอร์ไทยที่น่าจับตาในระยะสั้น (เฉพาะที่ cover ในรายงาน Flow Tracker) ได้แก่
Tier 1: กลุ่มที่ Volume Index มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากระดับสูงกว่า mid-point ได้แก่ ICT
Tier 2: กลุ่มที่ Volume Index มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำกว่า mid-point ได้แก่ Commerce
Tier 3: กลุ่มที่ Volume Index มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากระดับใกล้กรอบล่าง ได้แก่ Energy & Utilities

สรุปภาพตลาดวานนี้
ทิ้งดิ่งกันทั้งโลก จากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเร็วกว่าที่เคยประเมินกัน ทำให้กลุ่มที่ยังเหลือรอดส่วนใหญ่เป็นแนว Defensive เช่น ADVANC TRUE BDMS DIF TFFIF เป็นต้น

แนวโน้มตลาดวันนี้
หยุด Short against port
เมื่อวานเปิดตลาดมา 30 นาทีแรก ดูเหมือนหุ้นไทยจะเอาอยู่ แต่สุดท้ายต้านแรงขายที่ Trigger มาจากแรงขาย Short against port ฝั่งโปรแกรมเทรดไม่ไหว เราจึงอัพเดทกลยุทธ์ระหว่างวัน “ให้ปล่อยจอย” รอดูสถานการณ์ตลาดไปก่อน และห้ามความพยายามที่จะ หาแนวรับดัชนี SET เพื่อกำหนดจุด ซื้อหุ้นรายตัว (เพราะเราซื้อหุ้นควรดูแนวรับหุ้นรายตัว ไม่ใช่ไปหาแนวรับ ดัชนีฯ) และเราไม่ต้องการให้ เกิดการซื้อ แล้ว มานั่งขายตัดขาดทุน แบบ Short against port (ขายมารับล่าง ยิ่งเป็นการซ้ำเติมตลาด)
ซึ่งเมื่อวานดูจากการ ขายสุทธิของ นลท.ต่างชาติ เพียง 72 ล้านบาท จากยอดเทรดต่างชาติ 2.9 หมื่นล้านบาท เกือบ 100% มาจากโปรแกรมเทรด แสดงว่าแรงขายคือการ “Short against port” ไม่ได้ขายหุ้นที่มีในมือออกแบบลดพอร์ต แล้วถือเงินสด หากพฤติกรรม Short against port ฉวยโอกาสเทขายตามแนวโน้มขาลงยังไม่หยุด ยังควรเลี่ยงหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก เช่น ส่งออก สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้นเป้าหมายต่างชาติ (โปรแกรมเทรด) และถ้าจะเลือกหุ้นรายตัวเล่น PE ต้องไม่แพงสอดคล้องผลประกอบการที่ดีขึ้น และ ราคาไม่ลอยสูงเกินไป มีปันผลระหว่างกาล ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักของเราช่วงนี้ (เน้นตั้งรับ ไม่หว่านกระสุนซื้อหุ้น)

กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์
แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว โฟกัสไปข้างหน้า เน้นไปที่แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการณ์ หรือ มองเห็นปัจจัยหนุนชัดเจนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนต่อผลการดำเนินงานหลังจากนี้

วิเคราะห์ทางเทคนิค
ย้อนเหตุการณ์วิกฤตการเงิน 4 ครั้งล่าสุด (ดูภาพประกอบในหน้าถัดไป)! เริ่มต้นด้วยวิกฤตตลาดแรงงาน US labor crisis 2001 / The great Recession ปี 2007-2009 / The European Crisis ปี 2010 / Covid 19 ปี2020…ส่งผลให้ หุ้นโลกปรับตัวลงแรง โดยค่าเฉลี่ย S&P 500 จะปรับตัวลงมากกว่า 30% ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐเวลานี้ มีโอกาสที่จะเกิดภาวะที่เรียกว่า "Mild Recession" หรือ ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่ยังไม่รุนแรง แต่ทำให้สินทรัพย์เกิดความผันผวนอย่างมาก (ดูคล้ายปี 2001) ดังนั้นตลาดหุ้น US ยังคงต้องระวังเนื่องจากเพิ่งจะเริ่มต้นปรับตัวลงเป็นเดือนแรก! ส่วนตลาดหุ้นไทยหลังจากหลุด low เกิดภาพ “Bearish rectangle” ประเมิน downside risk บริเวณ 1,220 จุด....แนะระมัดระวังครับ

 

 

What to watch
ไทม์ไลน์คดี การเมือง: ศาลฯนัดพิจารณาคดีถอดถอนนายก 14 ส.ค. ลงมติ 13:00 น. เป็นต้นไป, 7 ส.ค. ศาลกำหนดวัน นัดลงมติตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล เวลาบ่าย 3 โมงเป็นต้นไป
แบงก์ชาติ ปรับมาตรการช่วยลูกหนี้ ยืดจ่ายหนี้ขั้นต่ำบัตรเครดิต 8% ถึงสิ้นปี 68
สหรัฐ: กองทุนบริหารความผันผวนในสหรัฐ เริ่มทยอยขายหุ้นแล้ว เนื่องจากนักลงทุนกังวลเรื่องเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทเทคโนโลยี โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุนบริหารความผันผวนได้เทขายฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ มูลค่าราว 8.36 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่า การที่กองทุนกลุ่มนี้จะขายในปริมาณมากขนาดนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้น
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 114,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 177,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 179,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.1%
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 86% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 14% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันดังกล่าว
เงินเยนแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.25% นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ยังคงแสดงความเห็นเชิงรุกเกี่ยวกับนโยบายการเงินในระหว่างการแถลงข่าวภายหลังการประชุมเมื่อวันที่ 31 ก.ค. โดยกล่าวว่า "หากเศรษฐกิจและเงินเฟ้อมีความเคลื่อนไหวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของ BOJ เราก็จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป"
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.4 ในเดือนก.ค. โดยฟื้นตัวขึ้นจากระดับ 48.8 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 51.0 โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน

หุ้นแนะนำวันนี้ CPALL
(หลบไปพักเงินในหุ้นใหญ่ที่ ทรงออกข้าง ราคาอยู่ล่าง เบต้าไม่สูงนัก) หนึ่งในหุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายกองทุน TESG
(S 56 R 58/59 SL 55)

 

 

รายงานพื้นฐานวันนี้

Commodities
ค่าการกลั่นและส่วนต่างปิโตรเคมีเป็นขาขึ้นต่อ
ในสัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันดิบดูไบ ลดลง $1.78 WoW เป็น $79.61/บาร์เรล (ลบต่อ PTTEP) หลังประเด็นกังวลอุปสงค์โลกที่ลดลง โดยเฉพาะจากจีนที่เศรษฐกิจดูชะลอตัว
ค่าการกลั่น (อิงสิงคโปร์) ขยายตัวต่อ $0.72 WoW เป็น $4.54/บาร์เรล จากทุนผลิตภัณฑ์ (บวกต่อ SPRC และ TOP)
ส่วนต่างราคา (Spread) ส่วนใหญ่ขยายตัว หลักๆ เป็นเรื่องต้นทุนลดลง (โดยรวมบวกต่อ PTTGC มากสุด)
ราคาถ่านหิน ฟื้นตัว 4% WoW ที่ $141.47/ตัน (บวกต่อ BANPU เล็กน้อย)
ค่าระวางเรือเทกอง (BDI) อ่อนแอลง 7% WoW เป็น 1,722 จุด จากทุกกลุ่มย่อย (กดดันต่อ PSL และ TTA )
ส่วนค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ (World Container Index) ย่อตัว 1% WoW เป็น 5,736 จุด (ลบต่อ RCL เล็กน้อย)
Fundamental View: เชิงพื้นฐานเราชอบ PTTEP มากสุดสำหรับพลังงานต้นน้ำ, TOP มากสุดในกลุ่มโรงกลั่น

Construction Sector
ยังต้องลุ้นต่อทั้งกำไร และงานใหม่
เราคาดกำไรหลักรวมกลุ่มรับเหมาฯ 3 บริษัท เพิ่มขึ้น 3% YoY และ 374% QoQ โดยรายได้หลัก และ GM เฉลี่ยคาดปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ตัวช่วยผลประกอบการอย่างส่วนแบ่งกำไร-เงินปันผล จะเป็นตัวช่วยหนุนกำไรไตรมาสนี้ โดย CK คาดว่าจะเติบโตได้เด่นสุด (QoQ) ตามมาด้วย CIVIL (YoY)

CK: คาดกำไรหลัก 2Q24 ที่ 486 ล้านบาท ทรงตัว YoY เพิ่มขึ้น 301% QoQ หลักๆ จากส่วนแบ่งกำไร และปันผลรับ โดยคาดรายได้ธุรกิจรับเหมา ทรงตัว YoY ลดลง 3% QoQ แนวโน้ม 3Q24 คาดว่าจะเห็นกำไรเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จาก BEM และ CKP (High season ของธุรกิจโรงไฟฟ้าน้ำ)

STEC: คาดกำไรหลัก 2Q24 ที่ 168 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY และพลิกจากขาดทุนหลัก QoQ โดยการเพิ่มขึ้น YoY หนุนโดยรายได้, GM และเงินปันผลรับ ขณะที่ด้าน QoQ เกิดจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากงานโรงไฟฟ้า บวกกับปันผล GULF กลบผลกระทบของส่วนแบ่งขาดทุนรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง ส่วนแนวโน้ม 3Q24 คาดกำไรหลักลดลง YoY จากส่วนแบ่งขาดทุนรถไฟฟ้า และ QoQ (ไม่มีปันผลจาก GULF)

CIVIL: คาดกำไรหลัก 2Q24 ที่ 22.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% YoY (จากฐานต่ำ และ GM ที่ดีขึ้น) และลดลง 11% QoQ โดยรายได้หลักคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 18% QoQ ผลบวกจากการทยอยรับรู้งานโครงการขนาดกลาง-เล็ก ที่ได้งานมาก่อนหน้านี้ ส่วนแนวโน้ม 3Q24 คาดว่ายังประคองตัว QoQ ได้ต่อคล้ายไตรมาส 2 และจะทำจุดสูงสุดของปีช่วง 4Q24 ตามการรับรู้รายได้จากงานที่ทยอยเพิ่มกลางปี

Fundamental view: ในเชิงพื้นฐานเราชอบ CK มากสุดในกลุ่มจาก Backlog ที่แข็งแกร่ง และเชิง เก็งกำไรเราชอบ STEC จากมีโอกาสลุ้นงานทั้งรัฐ-เอกชน

 

 

Knowledge Sharing
Temu: เขย่าตลาด E-commerce ไทย
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Temu แพล็ตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์สัญชาติจีน (ตลาดหลักใน US และยุโรป) เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย ซึ่งจุดเด่นคือเน้นราคาถูก ส่งฟรี คืนสินค้าได้ ดีลตรงกับโรงงานในจีน โดยจัดส่งเร็วใน 5 วัน ซึงหากไปเทียบในต่างประเทศถือว่า Temu เติบโตได้เร็วมากในด้านของ MAU และจำนวนการ Download ทั้งในฝั่ง US และ EU ทั่วโลก กว่า 70 ประเทศ MAU ทะลุ 230 ล้าน

โดยถือว่าเข้ามาไทยในจังหวะที่ผู้บริโภคกำลังเน้นของถูกในภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เราเชื่อว่าแพลตฟอร์มนี้เตรียมพร้อมที่จะดำเนินงาน โดยขาดทุนเป็นเวลาถึงสามปีเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในตลาด ซึ่งจะจุดประกายสงครามราคาในตลาดอีคอมเมิร์ซของไทย ในระยะแรก ส่วนแบ่งการตลาดของ Temu ส่วนใหญ่คาดว่าจะมาจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่าง Shopee และ Lazada อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าปลีกรายย่อยอาจได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากกลยุทธ์การตั้งราคาที่รุนแรงและสินค้าที่มีหลากหลายของ Temu อาจดึงดูดผู้บริโภคที่คำนึงถึงราคาไปจากทั้งร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์

ผลกระทบด้านลบคาดว่าจะเด่นชัดมากขึ้นในสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร เช่น ของตกแต่งบ้าน สินค้าชิ้นเล็ก ๆ ที่เป็นของใช้ในบ้าน สินค้าไลฟ์สไตล์ และแกดเจ็ต หมวดหมู่แฟชั่น โดยเฉพาะในส่วนที่มีราคาต่ำซึ่งได้ถูกกระทบจากแพลตฟอร์มอย่าง Shein แล้ว อาจเผชิญกับความปั่นป่วนเพิ่มเติมเนื่องจากการเข้ามาของ Temu
ในด้านบวก กลุ่มโลจิสติกส์และสื่อคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากปริมาณที่เพิ่มขึ้นและการใช้จ่ายด้านการตลาดที่มากของ Temu

 

 



รายงานผลประกอบการวันนี้

MINT
ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
(0) MINT รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 2,823 ล้านบาท หักรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 3,230 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% YoY และ Turnaround QoQ เป็นไปตามที่เราคาด (แต่ต่ำกว่าตลาดคาดราว 5%) โดยพบว่าทั่งธุรกิจ รร. และอาหาร เติบโต YoY, QoQ จาก High season แนวโน้มกำไรหลัก 3Q24 เพิ่มขึ้น YoY (จาก RevPar และร้านอาหาร) แต่ลดลง QoQ เป็นไปตาม Low season ในยุโรป เรายังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 42 บาท

สรุปประเด็นจาก Quick take

BTS
บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยประเด็นสำคัญมุ่งเน้นเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่มที่เพิ่งประกาศเมื่อวันที่ 2 ส.ค.
View From Fundamental: การเพิ่มทุนดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้เกิด EPS dilution และน่าจะเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้น BTS ในระยะสั้น อย่างไรก็ตามผลกระทบดังกล่าวน่าจะลดลงในระยะยาวหาก ROCTEC (ROCTEC ได้เปลี่ยนจากผู้ให้บริการสื่อกลางแจ้งมาเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่น ICT) และ RABBIT มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น เรายังคงคำแนะนำ "ถือ"

 


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

พีที สเตชั่น จับมือ "โป๊ยเซียน" แจกยาดม 2 หมื่นหลอด เติมความสดชื่นเต็ม MAX ในแคมเปญ "เพื่อนคู่ใจทุกการเดินทาง"

พีที สเตชั่น จับมือ "โป๊ยเซียน" แจกยาดม 2 หมื่นหลอด เติมความสดชื่นเต็ม MAX ในแคมเปญ "เพื่อนคู่ใจทุกการเดินทาง"

งบหมดแล้ว By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา SET หมุนทะลุเส้น 1200 จุด อีกครั้ง ด้วยแบงก์ ,อิเล็กทรอนิกส์ และพลังงาน....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้