วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรต่ำกว่าคาด และอัตราว่างงานปรับตัวขึ้นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 64 ท่าให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ และค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,274.67 จุด -38.41 จุด-2.93% มูลค่าการซื้อขาย 58,744.07 ลบ. Program Trading +162.13 ลบ. ต่างชาติ -72.22 ลบ.TFEX -51,291 สัญญา ตราสารหนี้ -890.05 ลบ
ปัจจัยบวก
+ ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้่าหนักมากกว่า86% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 17-18ก.ย. และให้น้่าหนักเพียง 14% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%
+ สหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.4 ในเดือนก.ค. โดยฟื้นตัวขึ้นจากระดับ 48.8 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่่าสุดในรอบ 4 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 51.0
ปัจจัยลบ
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 1,033.99 จุด หรือ -2.60% ขณะที่ดัชนีNasdaq และ S&P500 ต่างก็ดิ่งลงอย่างน้อย 3% โดยตลาดถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ
- สัญญาน้่ามันดิบ WTI ลดลง 58 เซนต์ หรือ -0.79% ปิดที่72.94 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนยังคงหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ แต่ราคาน้่ามันลดช่วงลบโดยได้แรงหนุน จากการคาดการณ์ที่ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจลุกลามเป็นวงกว้าง หลังมีรายงานว่าอิหร่านจะท่าการตอบโต้อิสราเอลสืบเนื่องจากเหตุการณ์ลอบสังหารผู้น่ากลุ่มฮามาสในกรุงเตหะราน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 55.0 ในเดือนก.ค. จากระดับ 55.3 ในเดือนมิ.ย.
- เจ้าหน้าที่อิสราเอลเปิดเผยกับส่านักข่าว NBC ว่า อิสราเอลเตรียมตัวรับมือกับการโจมตีที่อาจกินเวลานานหลายวันจากอิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านหลังเหตุการณ์ลอบสังหารแกนน่ากลุ่มฮามาสและฮิซบอลเลาะห์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- ส.อ.ท.เผยผลโพลชี้เอกชนเชื่อว่าเศรษฐกิจปีนี้โตต่่ากว่า 2% แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังทรงตัว หวั่นปรับค่าแรง 400 บาทเสี่ยงกระทบ
- ธปท.เปิดเผยว่า ภาวะหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยใน 1Q67 คิดเป็นสัดส่วน 90.8% ของ GDP ทรงตัวอยู่ในระดับสูงจากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวอย่างช้าๆ เช่นเดียวกับสินเชื่อที่ขยายตัวชะลอลงหลังหมดมาตรการช่วยเหลือ และมีหนี้ไม่ก่อรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้น
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดภูมิภาค หลังปรับตัวลงแรงวันก่อนเนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,270-1,290 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุน DATA CENTER และ CLOUD SERVICE : GULF ADVANC TRUE INSET ITEL
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• หุ้นได้ประโยชน์จากนโยบาย Digital Wallet ได้แก่ CPALL BJC DOHOME GLOBAL HMPRO TNP KK
• สินค้าส่งออกเดือน มิ.ย. ที่เติบโตดี : STA NER TRUBB TEGH ITC AAI