Market Wrap-Up
- SET วันที่ 2 ส.ค.67 ปิด -9.67 จุด อยู่ที่ 1,313.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,650 ลบ.ต่างชาติขาย 1,842 ลบ.สถาบันขาย 228 ลบ.พอร์โบรกขาย 378 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 1,493 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น DELTA,TRUE,CPF,PTTGC,MINT และมียอดขายสุทธิ GULF,BCP,BTS,AOT,PTTEP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,761 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TPIPL-R,SCB-R,TOA-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 28,315 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 43,426 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 6,793 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.51%, S&P500 -1.84%, Nasdaq -2.43% จากแรงขายกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย, เทคโนโลยี, ผู้ผลิตชิป นำโดย Amazon -8.8%, Intel -26% หลังรายงานกำไรไตรมาสที่ผ่านมาต่ำกว่าคาด นักลงทุนสหรัฐกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ค. ต่ำกว่าคาด ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -2.73% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -6.1% , การเงิน -5.2% และธนาคาร -4.3%
Market View
- สัปดาห์ที่ผ่านมา DJIA -2.1%,S&P500 -2%,Nasdaq -3.35% wow หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ค.เพิ่มขึ้น 114,000 & มิ.ย. 179,000 & คาด 177,000 ราย, อัตราว่างงานปรับขึ้นอยู่ที่ 3% & คาด 4.1% สูงนับตั้งแต่ ต.ค. 64 และดัขนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐ ก.ค. ลดลงอยู่ที่ 49.6 & มิ.ย. 51.6 อยู่ในโซนถดถอย ขณะที่การประชุมเฟดยังมีมติคงดอกเบี่ยที่ 5.25 – 5.5% แต่ ปธ.เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ส่งผลให้นักลงทุนกังวลเฟดตรึงดอกเบี้ยสูงนานเกินไป อาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งล่าสุด Swap US Interest Rate Futures บ่งชี้มีโอกาสลดดอกเบี้ยปีนี้ 1% สัปดาห์นี้ติดตาม PMI ภาคบริการสหรัฐ ก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด
- Stoxx 600 ยุโรป -2.9% wow หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียุโรปปรับลดลงตาม Nasdaq และกลุ่มธนาคารยุโรปปรับลดลงจากความกังวลรายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีแนวโน้มลดลงตามวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง นักลงทุนฝั่งยุโรปกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจเยอรมันที่ชะลอตัว หลัง GDP เยอรมัน Q2/67 -0.1% & Q1/67 +0.2% QoQ ขณะที่ผลการประชุม BOE มีมติ 5-4 ปรับลดดอกเบี้ยลง 25% อยู่ที่ 5.0% หลัง CPI อังกฤษ มิ.ย. ลดลงอยู่ที่ 2.0% YoY สัปดาห์นี้ติดตาม PMI ภารบริการยูโรโซน, ยอดค้าปลีกยูโรโซน, CPI เยอรมัน ก.ค.
- MSCI Asia Pacific X Japan -0.9% wow จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดเอเชียเหนือ กอปรตัวเลข PMI ภาคผลิตจีน ก.ค. อยู่ในโซนถดถอย ขณะที่รัฐบาลจีนยังไม่ได้มีการออก ม.กระตุ้นภาคการผลิต & อุตสาหกรรม ส่วนดัชนีนิเกอิ -4.6% wow หลัง BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ย 15% อยู่ที่ 0.25% และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อในปีนี้เพื่อคุมเงินเฟ้อญี่ปุ่น ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งค่าสุดที่ระดับ 146.5 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ สัปดาห์นี้ติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีน เช่น ส่งออก, นำเข้า, CPI, PPI จีน ก.ค.
- SET ปิด +0.45% wow ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 99 หมื่น ลบ. +10.7% wow รายย่อยซื้อ 1,996 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 373 ลบ. ต่างชาติขาย 1,648 ลบ. และสถาบันขาย 721 ลบ. กลุ่มที่ปรับขึ้นคือ อิเล็ก ฯ +4.6%, สื่อโฆษณา +4.6%, ไอซีที +3.2% และพลังงาน +1.2% wow โดยกลุ่มอิเล็ก ฯ ได้ปัจจัยหนุนหลัง DELTA รายงานกำไร Q2/67 ดีกว่าคาด กอปร US Bond Yield ปรับลดลง ส่วนกลุ่มไอซีทียังมีแรงซื้อเก็งกำไรกรณีข่าวควบรวมกิจการของ INTUCH & GULF และรอรายงานกำไร Q2/67 ของ ADVANC คาด 8.4 พัน ลบ. +17% YoY, ทรงตัว QoQ ขณะที่กลุ่มปรับลดลง คือ ท่องเที่ยว -6.5%, วัสดุ -2.7%, ปิโตรเคมี -2.3% wow โดย MINT วันศุกร์ -3.4% จากความกังวลยอดพักนักท่องเที่ยวในช่วงโอลิมปิกต่ำกว่าคาด เนื่องจากมีการแข่งขันจาก Airbnb ส่วกลุ่มวัสดุ & ปิโตรเคมียังถูกกดดันจากอุปสงค์ตลาดโลกที่ฟื้นตัวช้า ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้ติดตาม CPI ไทย ก.ค. คาด 0.7% & มิ.ย. 0.62% YoY และวันพุธ ศาล รธน.นัดฟังคำวินิจฉัยกรณียุบพรรคก้าวไกล รวมถึงรายงานกำไร บจ.ของ ADVANC,INTUCH,THCOM,CPAXT,TU,MINT,GPSC,PTTGC,TOP,PTT
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,300 – 1,305 แนวต้าน 1,315 – 1,320 คาดดัชนีมีโอกาสปรับลดลงจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย และรอศาล.รธน.วินิจฉัยกรณียุบพรรคก้าวไกล แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่น ADVANC,INTUCH,GPSC,TU คาดรายงานกำไร Q2/67 เติบโตได้ดี QoQ, YoY และกลุ่มได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เช่น GULF, BGRIM, MTC, DIF, 3BBIF
- GPSC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 56.75 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q67 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ เป็นผลจากปริมาณขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั้ง IPP และ SPP รวมถึง ในส่วนของโรงไฟฟ้า SPP มี margin ดีขึ้นจากต้นทุนก๊าซฯ ที่ต่ำลง ขณะที่ค่าฟ้าทรงตัวจากการตรึงค่า Ft ช่วยชดเชยส่วนแบ่งขาดทุนจาก solar AEPL ที่อินเดียที่มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการ Refinance รวมถึงขาดทุนจาก Offshore wind farm CFXD อยู่จากกระแสลมต่ำ ส่วนแนวโน้ม 3Q67 มีโมเมนตัวดีต่อจากการเข้าสู่ฤดูกาลผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนไซยบุรี ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 82 พันล้านบาท +31%YoY
- BH (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 298 บาท) ประเมินกำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 1,884 ลบ. (+7.8%YoY, -1% QoQ ) ลดลง QoQ ตามฤดูกาล(ฤดูร้อน-ผู้ป่วยไทย) ส่วน YoY แม้มีปัจจัยลบจากผู้ป่วยประเทศคูเวตที่หายไป(คูเวตมีการทบทวนนโยบายการส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาตัวนอกประเทศใหม่) แต่น้ำหนักน้อยกว่าปัจจัยบวก คือ 1.การปรับค่าบริการที่สูงขึ้น และ 2.รอมฏอนปีนี้ที่มาเร็ว 10 มี.ค.67- 09เม.ย.67 (ปีก่อน 22 มี.ค.66- 21 เม.ย.66) ทั้งนี้ ภาพรวมทั้งปี คาดมีแรงหนุนจากโครงการขยาย Annex Building และการเพิ่มเตียงใน ICU 5 จำนวน 12เตียง โดย ปัจจุบัน เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี67 และ ปี68 ของ BH ที่ 7,581 ลบ.(+8.2%YoY) และ 8,112 ลบ.(+7.0%YoY) ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ก.ย. -$2.79 อยู่ที่ $73.ถ2 / บาร์เรล, Brent ต.ค. -$2.71 อยู่ที่ $76.81/บาร์เรล กังวลอุปสงค์จากสหรัฐชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย เช่นเดียวกับอุปสงค์จากจีนที่ฟื้นตัวช้า
Gold Update+) Comex Gold ธ.ค.-$11.0 อยู่ที่ $2,469.80 /ออนซ์ สัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาทองคำ +1.8% wow หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย. กอปรปัจจัยเสี่ยงภาวะสงครามในตะวันออกกลางสูงขึ้น
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ซื้อสุทธิ +101.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -46.74 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +171.13 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -23.25 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 35.32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.74 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +7 จุด อยู่ที่ 1,675
(-) BitCoinเช้านี้ -7.50% อยู่ที่ 56,185 ดอลลาร์สหรัฐ
(+) เช้านี้ติดตาม PMI ภาคบริการจีน ก.ค.คาด 51.4 & มิ.ย. 51.2
Economic Calendar
ในประเทศ
05 ส.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า
07 ส.ค. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
สัปดาห์ที2 หอการค้าไทย ร่วมกับม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
สภาผู้ส่งออก แถลงสถานการณ์การส่งออก
ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์
ต่างประเทศ
05 ส.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ก.ค.)
07 ส.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
08 ส.ค. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio August 2024: GFPT*, CPALL, BH, BTG*, THCOM
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th