สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(2 สิงหาคม 2567)------ นายคง ชิ เคือง กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)BTS เปิดเผยว่า บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 บริษัทฯ ขอแจ้งให้ทราบมติที่สำคัญ ดังนี้
1. อนุมัติการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม
1.1 อนุมัติการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) (“VGI”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯโดยมีมติอนุมัติให้ VGIออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน8,805,480,334 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นร้อยละ 44.03 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของVGI ภายหลังการเพิ่มทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ1.50 บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 13,208,220,501บาท ให้แก่ผู้ลงทุนจำนวน 4 ราย โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.1.1 กองทุน CAI Optimum Fund VCC บริหารจัดการโดย Capital Asia Investments Ptd. Ltd.จำนวน 2,900,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 14.50 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ VGI ภายหลังการเพิ่มทุน
1.1.2 กองทุน Si Suk Alley Limited บริหารจัดการโดย Argyle Street Management Limited จ านวน2,805,480,334 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 14.03 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของVGI ภายหลังการเพิ่มทุน ทั้งนี้ เพื่อให้การถือหุ้นของกองทุน Si Suk Alley Limited ไม่ขัดต่อข้อจำกัดการถือหุ้นของคนต่างด้าวของ VGI
VGI จะจัดสรรหุ้นบางส่วนให้กับบริษัทหลักทรัพย์ททำหน้าที่เป็นผู้ซื้อหลักทรัพย์เบื้องต้น (Initial Purchaser) และบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อ
หลักทรัพย์เบื้องต้น (Initial Purchaser)จะดำเนินการขายหรือโอนหุ้นดังกล่าวให้กับกองทุน Si SukAlley Limited เพื่อให้กองทุน Si Suk Alley Limited ถือหุ้นดังกล่าวในรูปของใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย (NVDR)
1.1.3 กองทุน Opus-Chartered Issuances S.A. บริหารจัดการโดย Agmoni Eyal, BartelloniAndrea, Maier Daniel, Melizzi Nicola, Perin Paolo, Wenkel Tobias จำนวน 2,200,000,000หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 11 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ VGI ภายหลังการ
เพิ่มทุน และ
1.1.4 กองทุน Asean Bounty ซึ่งอยู่ระหว่างจัดตั้ง บริหารจัดการโดย Finansia InvestmentManagementจ านวน 900,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 4.50 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ VGI ภายหลังการเพิ่มทุน ทั้งนี้ เพื่อให้การถือหุ้นของกองทุน AseanBounty ไม่ขัดต่อข้อจำกัดการถือหุ้นของคนต่างด้าวของ VGI VGI จะจัดสรรหุ้นบางส่วนให้กับบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อหลักทรัพย์เบื้องต้น (Initial Purchaser) และบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อหลักทรัพย์เบื้องต้น (Initial Purchaser) จะดำเนินการขายหรือโอนหุ้นดังกล่าวให้กับกองทุน Asean Bounty เพื่อให้กองทุน Asean Bounty ถือหุ้นดังกล่าวในรูปของใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย (NVDR)
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ในราคา 1.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นส่วนลดจากราคาตลาดร้อยละ 4.63 ซึ่งเป็นส่วนลดไม่เกินร้อยละ 10 จากราคาตลาด ซึ่งคำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของ VGI ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) ย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกัน ก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทของ VGI มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้พิจารณาและอนุมัติในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเท่ากับ 1.57 บาทต่อหุ้น
การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ข้างต้น จะส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ใน VGI ลดจากร้อยละ 61.13 เหลือเท่ากับร้อยละ 34.23นอกจากนี้ มีมติอนุมัติให้ VGI ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทวีจีไอ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 4 (VGI-W4) จำนวนไม่เกิน 1,119,451,967 หน่วย ซึ่งจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ VGI ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) โดยไม่คิดมูลค่า
1.2 อนุมัติการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของบริษัท ร็อคเทค โกลบอล จำกัด (มหาชน) (“ROCTEC”) โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนทำคำเสนอซื้อ(Conditional Voluntary Tender Offer) โดยบริษัทฯและ/หรือ บริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 100 ของหุ้นทั้งหมดของบริษัทย่อย(“บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย”) โดยหลักทรัพย์ที่จะเสนอซื้อได้แก่ หุ้นสามัญทั้งหมดของ ROCTEC จำนวน 6,716,524,538 หุ้น (ไม่รวมหุ้นสามัญที่บริษัทฯ ถืออยู่) คิดเป็นร้อยละ 82.74 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ ROCTEC ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 6,716,524,538 บาท (“ธุรกรรมการทำ VTO ใน ROCTEC”)
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่ทำคำเสนอซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ร็อคเทค โกลบอล จำกัด(มหาชน) ครั้งที่ 3 (ROCTEC-W3) และครั้งที่ 5 (ROCTEC-W5) เนื่องจากราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวเท่ากับหรือสูงกว่าราคาเสนอซื้อหุ้น ROCTEC รวมถึงบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อยจะไม่มีการได้มาซึ่งใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวแต่อย่างใด
1.3 อนุมัติการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“RABBIT”) โดยการคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer) โดยบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย โดยหลักทรัพย์ที่จะเสนอซื้อ ได้แก่ (1) หุ้นสามัญทั้งหมดของ RABBIT จำนวน 5,481,004,623 หุ้น (ไม่รวมหุ้นสามัญที่บริษัทฯ ถืออยู่) คิดเป็นร้อยละ 17.23 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ RABBITและ (2) หุ้นบุริมสิทธิทั้งหมดของ RABBIT จำนวน 8,109,121,267 หุ้น (ไม่รวมหุ้นบุริมสิทธิที่บริษัทฯ และบุคคลที่แสดงเจตนาไม่ขายหุ้นบุริมสิทธิในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ถืออยู่) คิดเป็นร้อยละ 25.49 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ RABBIT ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ0.60 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 8,154,075,534 บาท (“ธุรกรรมการทำ VTO ใน RABBIT”)
ธุรกรรมการทำVTO ใน ROCTEC และธุรกรรมการทำ VTO ใน RABBIT ไม่เข้าข่ายเป็นการทำรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน(รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)
1.4 อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567เพื่อพิจารณาและอนุมัติการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของROCTEC และ RABBIT เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 107 แห่งพระราชบัญญัติมหาชนจ ากัด พ.ศ. 2535(รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)ซึ่งกำหนดให้บริษัทมหาชนจำกัดต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ในกรณีที่บริษัทมหาชนจำกัดซื้อหรือรับโอนกิจการของบริษัทอื่นหรือบริษัทเอกชนมาเป็นของบริษัท
2. อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) จำนวน 2,926,141,881 หุ้น ในอัตราการจัดสรร 4.5 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ (กรณีเกิดเศษจากการคำนวณตามอัตราการจัดสรร ให้ปัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง)ในราคาเสนอขายหุ้นละ 4.50 บาท และกำหนดระยะเวลาจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 17 – 18 ตุลาคม 2567, 21 – 22ตุลาคม 2567 และ 24 ตุลาคม 2567 (รวม 5 วันทำการ)
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในราคา4.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งไม่ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ และไม่ต่ำกว่าราคาตลาดโดยอ้างอิงจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาและอนุมัติในเรื่องดังกล่าว (ระหว่างวันที่ 19 –31 กรกฎาคม 2567) ซึ่งเท่ากับ4.32 บาทต่อหุ้น (ข้อมูลจาก SETSMART ที่ www.setsmart.com)
ในการนี้ บริษัทฯ กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ทั้งนี้ การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากจะต้องผ่านการพิจารณาอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ต่อไปบริษัทฯ อาจออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งเดียวเต็มจำนวนหรือแต่บางส่วนก็ได้ โดยเสนอขายเป็นคราวเดียวหรือเป็นคราว ๆ ไป โดยผู้ถือหุ้นสามารถจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิได้ แต่จะได้รับการจัดสรรหุ้นที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิต่อเมื่อมีหุ้นเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนในรอบแรก ซึ่งบริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นส่วนที่เหลือดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ประสงค์จะจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมในราคาเดียวกันกับหุ้นที่ได้รับการจัดสรรตามสิทธิจนกว่าจะครบจำนวนหรือไม่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนเหลือจากการจัดสรรอีก แล้วแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นก่อนในกรณีที่มีหุ้นเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้น บริษัทฯ จะดำเนินการลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นที่ไม่ได้จัดสรรดังกล่าวต่อไป และจะไม่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัดการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิจะต้องไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นรายใด (รวมถึงบุคคลตามมาตรา 258 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ของผู้ถือหุ้นรายดังกล่าว) ถือหุ้นของบริษัทฯ ในลักษณะที่เป็นการฝ่าฝืนข้อจำกัดการถือหุ้นของคนต่างด้าวตามที่กำหนดในข้อบังคับของบริษัทฯ อนึ่ง ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นรายใดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิจนส่งผลให้ผู้ถือหุ้นเข้าข่ายต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ผู้ถือหุ้นรายดังกล่าวมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ ตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องด้วย
3. อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 2,600,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 72,125,194,648 บาท เป็นจ านวน 69,525,194,648บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ จำนวน 650,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4.00 บาท ซึ่งเป็นหุ้นที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ซึ่งได้รับการอนุมัติโดยที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 25กรกฎาคม 2567และอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
4. อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 11,704,567,524 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 69,525,194,648 บาท เป็นจ านวน 81,229,762,172บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,926,141,881 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4.00 บาท เพื่อรองรับการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) และอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
5. อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการจัดสรรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 2,926,141,881 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4.00 บาท เพื่อรองรับการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering)
อนึ่ง การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RightsOffering) ตามรายละเอียดในข้อ 2.ข้างต้น ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเข้าเงื่อนไขการปรับสิทธิตามข้อ 5. (ข) ของข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 7 (BTS-W7) และครั้งที่ 8 (BTS-W8) เนื่องจากต้องพิจารณาราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในวันที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (วันที่ขึ้นเครื่องหมาย XR) ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ดี หากเข้าเงื่อนไขการปรับสิทธิบริษัทฯ อาจพิจารณาเพิ่มทุนและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ เพื่อรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวเพิ่มเติมตามความเหมาะสมต่อไป
6. อนุมัติกำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 30 กันยายน 2567เวลา 13.30 น. ณ ห้องพญาไท แกรนด์ บอลรูม ชั้น 6โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท เลขที่ 18 ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร10400 โดยมีระเบียบวาระการประชุม ดังนี้
วาระที่1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
วาระที่ 2 พิจารณาและอนุมัติการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการซื้อหรือรับโอนกิจการของบริษัทอื่นมาเป็นของบริษัทฯ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 107แห่งพระราชบัญญัติมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535(รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)
วาระที่ 3 พิจารณาและอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering)
วาระที่4 พิจารณาและอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯจำนวน 2,600,000,000 บาทจากทุนจดทะเบียนจ านวน 72,125,194,648 บาท เป็นจำนวน 69,525,194,648 บาทโดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ จ านวน 650,000,000 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4.00 บาท
วาระที่5 พิจารณาและอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
วาระที่6 พิจารณาและอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 11,704,567,524 บาทจากทุนจดทะเบียนจำนวน 69,525,194,648 บาท เป็นจำนวน 81,229,762,172 บาทโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,926,141,881 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4.00บาท
วาระที่7 พิจารณาและอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
วาระที่ 8 พิจารณาและอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ เพื่อรองรับการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering)
วาระที่ 9 พิจารณาเรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี)
ทั้งนี้ เนื่องจากวาระที่ 3 ถึงวาระที่ 8 เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันและถือเป็นเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ดังนั้น หากวาระใดวาระหนึ่งไม่ได้รับการอนุมัติ จะถือว่าเรื่องอื่น ๆ ที่ได้รับอนุมัติแล้วเป็นอันยกเลิก และจะไม่มีการพิจารณาในวาระอื่น ๆต่อไป โดยถือว่าการพิจารณาในเรื่องต่าง ๆ ไม่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น
7. อนุมัติกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 (RecordDate) ในวันที่ 16 สิงหาคม 2567
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567ได้พิจารณาธุรกรรมการทำ VTO ในROCTEC และธุรกรรมการทำ VTO ใน RABBIT อย่างรอบคอบ และมีความเห็นว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวมีความเหมาะสม สมเหตุสมผล และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นโดยรวม
ส่วน การเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) จะทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมและความยืดหยุ่นทางด้านการเงินสำหรับการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย โดยสามารถนำเงินทุนที่ได้จากการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวไปใช้เพื่อดำเนินการภายใต้กรอบการใช้เงินทุนข้างต้นได้ทันกาล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในอนาคต
กำหนดการประชุมผู้ถือหุ้น
เรื่อง : กำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 01 ส.ค. 2567
วันที่ประชุมผู้ถือหุ้น : 30 ก.ย. 2567
เวลาเริ่มประชุม (h:mm) : 13 : 30
วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record : 16 ส.ค. 2567
date)
วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม : 15 ส.ค. 2567
วาระการประชุมที่สำคัญ :
- การเพิ่มทุน
สถานที่ประชุม : ห้องพญาไท แกรนด์ บอลรูม ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์
พญาไท เลขที่18 ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
หมายเหตุ :
นอกเหนือจากการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 แล้ว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่
6/2567 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ยังมีมติอนุมัติในเรื่องที่สำคัญ ดังนี้
1) การปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม
2) การได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของ ROCTEC และ RABBIT
โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary
Tender Offer) โดยบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย
ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เข้าข่ายที่ต้องนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
______________________________________________________________________
การเพิ่มทุนจดทะเบียน
เรื่อง : การเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 01 ส.ค. 2567
จำนวนหุ้นสามัญที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 2,926,141,881
จำนวนรวมของหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 2,926,141,881
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาทต่อหุ้น) : 4.00
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
จัดสรรให้กับ : ผู้ถือหุ้นสามัญทั้งหมด
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 2,926,141,881
อัตราส่วน (หุ้นเดิม : หุ้นใหม่) : 4.50 : 1.00
ราคาจองซื้อ (บาทต่อหุ้น) : 4.50
วันจองซื้อและชำระค่าหุ้น : วันที่ 17 ต.ค. 2567 ถึงวันที่ 24 ต.ค. 2567
วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น : 16 ส.ค. 2567
ที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record date)
วันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) : 15 ส.ค. 2567
______________________________________________________________________