สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (30 กรกฎาคม 2567 )-------บมจ.ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) เจ้าแห่งนวัตกรรมอาหารไก่แปรรูปปรุงสุกไฮมาร์จิ้น ส่งสัญญาณแนวโน้มผลงานปี 67 โตก้าวกระโดด รับอานิสงส์ราคาไก่เพิ่ม 7-10% หลังบราซิลซึ่งเป็นผู้ส่งออกไก่อันดับ 1 ของโลกถูกห้ามส่งออกไก่ไปจีน จากปัญหาการแพร่ระบาดไข้หวัดนก หนุนคำสั่งซื้อพุ่งยาวถึงต้นปี 68 แย้มข่าวดี! จ่อคว้าออเดอร์ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่ม ทั้งจากลูกค้าโกลบอลแบรนด์รายเดิม และลูกค้าใหม่ยักษ์ใหญ่จากประเทศเกาหลี มูลค่า 200 ล้านบาท ฟากผู้บริหาร “ณัฐพล ดุษฎีโหนด” ประกาศเดินหน้าเร่งขยายการลงทุนเต็มสูบ หลังได้รับเงินจากการระดมทุนที่ผ่านมา เพิ่มศักยภาพการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ จ่อขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกที่เป็น Food Focus & Food Technology
นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (FM) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Products) และการส่งออกชิ้นส่วนไก่ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เร่งตัวขึ้น จากกรณีประเทศบราซิลซึ่งเป็นผู้ส่งออกไก่รายใหญ่อันดับ 1 ถูกห้ามส่งออกไก่ไปยังประเทศจีน หลังเกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก ส่งผลให้ราคาขายเนื้อไก่และชิ้นส่วนไก่ เช่น ตีนไก่ ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้บริโภคในประเทศจีน ปรับเพิ่มขึ้นราว 7–10%
โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ส่งออกเนื้อไก่และชิ้นส่วนไก่ ไปยังประเทศจีนสัดส่วนประมาณ 23% ของรายได้จากการส่งออกของบริษัท และคาดว่าภายในปีนี้จะเพิ่มเป็น 25% เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนถึงต้นปี 2568
นอกจากนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการเจรจารับออเดอร์ใหม่สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงจากลูกค้าเดิมที่เป็นโกลบอลแบรนด์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ รวมถึงอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหม่ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในประเทศเกาหลี คาดสร้างรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท และสำหรับการขายไปยังประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
ด้านนายสุเมธ มาสิลีรังสี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (FM) กล่าวว่า ภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ FM จะมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากมีเม็ดเงินในการขยายธุรกิจ รวมทั้งสามารถเดินตามแผนการขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เช่น กลุ่มตะวันออกกลาง ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 65% ภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ 55% จากการขยายตลาดต่างประเทศ ไปยังประเทศใหม่ โดยเน้นผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุกซึ่งมีมาร์จิ้นสูง
นอกจากนี้ นายสุเมธ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกที่เป็น Food Focus & Food Technology ตามแผนและกลยุทธ์ที่วางไว้ ทั้งการพัฒนาสินค้า การขยายตลาดใหม่ การสร้างมูลค่าเพิ่ม ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมไก่แปรรูปปรุงสุกส่งออกของไทยมีส่วนการแบ่งตลาด เป็นอันดับหนึ่งของโลก ขณะที่ตลาดมีการขยายตัวทุกปี ทำให้มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด สอดคล้องกับการขยายตัวของอุตสาหกรรม
“จากการขยายตลาดต่างประเทศ ไปยังประเทศใหม่ โดยเน้นการขายผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง จะผลักดันให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯ ปรับตัวสูงขึ้น” นายสุเมธ กล่าวในที่สุด