Minor International (MINT TB)
คาดกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์
Valuation น่าสนใจ พร้อมการเติบโตอย่างมีคุณภาพในระยะยาว
เราคงคำแนะนำ ซื้อ MINT เนื่องจาก Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจที่ EV/EBITDA 7 เท่าและ PE 19 เท่าในปีงบ 2568 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว นอกจากนี้เรายังคาดว่าตลาดจะมีการปรับประมาณการกำไรปีงบ 2567 ผนวกกับมี upside จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงเป็นปัจจัยสนับสนุนระยะสั้น ขณะที่การเติบโตของ RevPAR ในยุโรปและประเทศไทยเป็นปัจจัยหนุนสำคัญของกำไรในปีงบ 2567 ส่วนการลดภาระหนี้และประโยชน์จาก operating leverage จะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญสำหรับปีหน้า ขณะที่ downside ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
คาดกำไรจะสูงเป็นประวัติการณ์ใน 2Q67
เราคาดว่า MINT จะรายงานกำไรหลักสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.6 พันล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของ RevPAR ของ NH ที่ 6% เนื่องจาก ADR ที่สูงขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ประกาศงบในวันที่ 5 ส.ค.) ADR ยังคงเติบโตจากความต้องการที่แข็งแกร่งทั้งในด้านการพักผ่อนและการประชุมสัมมนา พร้อมทั้งได้รับประโยชน์จากการรีแบรนด์ห้องพัก โดยบริษัทจะรีแบรนด์ห้องพัก 4,700 ห้องในปีงบ 67 และ 700 ห้องในปีงบ 68 ภายใต้ NHH (เทียบกับ 4,000 ห้องในปีงบ 66) ดังนั้นการสมมติฐานการเติบโตของ ADR ในปี 68 ที่ 2% ยังคงมี upside
คาดการณ์การลดภาระหนี้อย่างมีนัยสำคัญใน 2H67
เราคาดว่า MINT จะชำระคืนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยอย่างน้อย 1.1 หมื่นล้านบาทในครึ่งหลังของปี 67 ซึ่งมีมูลค่าใกล้เคียงกับครึ่งหลังของปี 66 ดังนั้นอัตราหนี้สินสุทธิ/ส่วนของผู้ถือหุ้นจะลดลงเหลือ 0.8 เท่าตามที่ MINT คาดการณ์ไว้ เราคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ของ MINT จะลดลงเหลือ 4.3 เท่าในปีงบ 67 จาก 4.9 เท่าในปีงบ 66 ทั้งนี้ เรามองว่าเป้าหมายของผู้บริหารที่ 3.0 เท่ามีความเป็นไปได้เนื่องจาก MINT จะดำเนินการลดหนี้สินต่อไป และจากที่เราคาดการณ์การเติบโตของกำไรที่ 8% CAGR ในปีงบ 67-69 ดังนั้น MINT จะจ่ายดอกเบี้ยที่ต่ำลงและจ่ายเงินปันผลสูงขึ้นท่ามกลางการลดลงของค่าใช้จ่ายในการลงทุน เนื่องจากบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ Asset-light โดยมีเป้าหมายที่จะมีส่วนส่วนห้องพักที่ไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์เอง 50% ในปีงบ 69 เทียบกับ 27% ในปีงบ 66
Downside จำกัดจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
จากข้อมูลของ Tourism Economics ปัญหาการขาดแคลนพนักงานจะยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก โดยผู้บริหารคาดว่าค่าใช้จ่ายเงินเดือนของ NH จะเพิ่มขึ้น 5% ในปี 2567 ซึ่งหมายความว่าต้นทุนค่าแรงใน 2H67 น่าจะเพิ่มขึ้นใน % ที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ 1H67 นอกจากนี้เรายังคาดว่า downside จำกัดจากค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล เนื่องจาก 90% ของปริมาณการใช้งานที่คาดการณ์ไว้ในปีงบ 67 ได้รับการป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไว้แล้ว
Boonyakorn Amornsank
boonyakorn.amornsank@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1394