Market Wrap-Up
- SET วันที่ 24 ก.ค.67 ปิด -3.46 จุด อยู่ที่ 1,298.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 29,579 ลบ.สถาบันขาย 975 ลบ.รายย่อยซื้อ 489 ลบ.ต่างชาติซื้อ 388 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 698 ลบ.โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น ADVANC,CPALL,PTTGC,IVL,EA และมียอดขายสุทธิ GULF,BCP,BH,BDMS,KBANK มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,553 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TPIPL-R,BBL,SPALI-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 12,103 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 1,356 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 8,488 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.25%, S&P500 -2.31%, Nasdaq -3.64% นำโดย Tesla -12.3% หลังอัตรากำไร Q2/67 ต่ำสุดในรอบ 5 ปี และ Alphabet -5% หลังรายได้โฆษณาบน YouTube ต่ำกว่าคาด ขณะที่ ก.พาณิชย์สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่ มิ.ย. -0.60% อยู่ที่ 617,000 ต่ำกว่าคาดที่ 640,000 ยูนิต ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.61% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -2.4%, กลุ่มสินค้าหรูหรา LVMH -4.7% หลังยอดขาย Q2/67 ต่ำกว่าคาด และธนาคาร -0.5% หลังดอยช์แบงก์ -8.3% รับผลขาดทุนครั้งแรกในรอบ 4 ปี
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่ม Magnificent Seven หลัง Tesla -12.3% เผยรายได้ & กำไร Q2/67 ต่ำกว่าคาด เนื่องจากกำไรขั้นต้นลดลงจากการลดราคาขาย และยอดส่งมอบรถยนต์ -5% YoY ส่วน Alphabet -5% หลังรายได้จาก Youtube น้อยกว่าคาด จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลลบไปหุ้น Big Cap.ด้วยเช่น Nvidia, Apple,Microsoft โดย LSEG คาดกำไร บจ.S&P500 Q2/67 +11.6% YoY ได้แรงหนุนจากกำไรกลุ่มบริการสื่อสารคาด +22.9% YoY สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม GDP สหรัฐ Q2/67 คาด +1.9% & Q1/67 +1.4% QoQ และวันพรุ่งนี้ US PCE มิ.ย. คาด 2.4% & พ.ค. 2.6% YoY
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มเทคโนโลยี หลัง ASM Int. ผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ของเนเธอร์แลนด์ -9.4% ถูกแรงขาย Sell on Fact แม้ว่าคาดการณ์กำไร Q3 จะเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มสินค้าแบรนด์เนมถูกแรงขายจากคาดการณ์ยอดขายใน Q3 มีแนวโน้มชะลอตัว โดย LSEG คาดกำไร บจ. Stoxx600 Q2/67 -0.8% YoY จากคาดการณ์กำไรกลุ่มเทคโนโลยีจะหดตัว -31.2% YoY, อุตสาหกรรมคาด -9.9% YoY
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.46%, ฮั่งเส็ง -0.91% จากความกังวลเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า หลังผลการประชุม Poliburo ยังไม่มี ม.กระเศรษฐกิจรอบใหม่ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาภาคผลิต & อสังหา ฯ จีน ส่วนดัชนีนิเกอิวานนี้ -0.91% จากแรงขายหุ้นกลุ่มส่งออกที่ถูกกดดันจากค่าเงินเยนแข็งค่า ก่อนการประชุม BOJ วันที่ 31 ก.ค.
- ดัชนี SET วานนี้ -0.27% ปริมาณการซื้อขาย 2.95 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 975 บ. รายย่อยซื้อ 489 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 98 ลบ. ต่างชาติซื้อ 388 ลบ. ดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มธนาคาร -0.8% แม้ว่ากำไร Q2/67 จะใกล้เคียงคาดการณ์ แต่แนวโน้ม NPL สูงขึ้นอาจส่งผลให้กลุ่มธนาคารยังต้องคงสำรอง ECL ระดับสูงในปีนี้ ส่วนกลุ่มค้าปลีก -0.78% ถูกแรงขาย Sell on Fact หลังรัฐบาลแถลงรายละเอียด ม.ดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งยังมีคำถามเกี่ยวกับการใช้งบดังกล่าวจะสามารถใช้ข้ามปีได้หรือไม่ และงบเพิ่มเติม 1.22 แสน ลบ.ที่รอเข้าสภา ฯ วาระ 2 – 3 จะต้องใช้ภายใน ก.ย. 67 หรือไม่ กอปรกับ ธปท.คาดผลจาก ม.ดิจิทัล วอลเล็ตจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อยกว่า 1% ของ GDP เนื่องจากเป็นการเกลี่ยงบประมาณมาจากส่วนอื่น ๆ ไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบ ส่วนปัจจัยการเมืองยังรอวินิจฉัยศาล รธน. 7 ส.ค. กรณียุบพรรคก้าวไกล และ 14 ส.ค. กรณีคุณสมบัตินายกฯ เศรษฐา สัปดาห์นี้ติดตามรายงานงบ Q2/67 โดยวานนี้ SCC รายงานกำไร 3.7 พัน -54% YoY, -53% QoQ ต่ำกว่าคาด -17.4% เนื่องจากปีก่อนมีกำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุน 2.8 พัน ลบ. และกำไรกลุ่ม SCGC ลดลงจากค่าใช้จ่ายโครงการปิโตรในเวียดนาม LSP Complex สูงขึ้น กอปรกับสเปรดปิโตรเคมีปรับลดลง
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,285 – 1,290 แนวต้าน 1,305 – 1,310 ประเมินดัชนีมีโอกาสปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ ปรับลดลงตาม Nasdaq และรอรายงานกำไร บจ. กลุ่ม Real Sector แนะนำทยอยซื้อกลุ่มท่องเที่ยว AAV,BA,MINT,CENTEL (+จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นจาก ม.ฟรีวีซ่า)/ กลุ่มอาหาร GFPT,ITC,AAI ได้แรงหนุนอุปสงค์ในประเทศ & ตลาดส่งออก/ เก็งกำไร THCOM,COM7,BEM มีสัญญาณบวกทางเทคนิค
- BEM* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.60 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q67 ปรับตัวขึ้น QoQ, YoY แม้ว่าธุรกิจจะเข้าช่วง Low Season ทำให้จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าและปริมาณรถใช้ทางด่วน -QoQ, +YoY แต่กำไรของบริษัทจะมีตัวช่วยหนุนจากเงินบันผลของ CKP และ TTW ส่วนแนวโน้ม 3Q67 คาดกำไรปรับตัวขึ้นต่อจากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่สูงขึ้น เพราะเป็นช่วงเปิดภาคเรียน และ BEM จะปรับขึ้นค่าโดยสารสายสีน้ำเงินเฉลี่ย 1 บาท/เที่ยว ตั้งแต่ 3 ก.ค.67 รวมถึงจะมีเงินปันผลจาก TTW เข้ามาอีกก้อนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีประเด็นบวกจาก ครม.เห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าสีส้มและเซ็นสัญญาแล้ว ขณะที่การลงทุนทางด่วน Double Deck แลกกับการขยายสัมปทานคาดมีความชัดเจนในปีนี้ ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 85 พันล้านบาท +11%YoY และ 4.25 พันล้านบาท +10%YoY
- THCOM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท) ประเมินการดำเนินงานปกติในช่วง 2Q67 เริ่มเห็นการฟื้นตัว QoQ จากการรับรู้รายได้ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์ในลาว(LTC)ได้เต็มไตรมาส ส่วนภาพรวมครึ่งปีหลังคาดมีความชัดเจนในแง่ลูกค้าใหม่ๆ(อินเดีย) มากขึ้น ส่วนการดำเนินงานระยะกลาง-ยาวคาดยังจะมีปัจจัยบวกจาก 1.การส่งดาวเทียมใหม่ๆขึ้นวงโคจร โดยคาด 9A ขึ้นใน 1H68/ ไทยคม 9 ใน 2H68 /ไทยคม 10 ใน 3Q70 และ ธุรกิจ Carbon credit (จับมือกับ แม่ฟ้าหลวง) โดยการวัด Carbon credit ปกติจะทำทุก ๆ 3 ปีคาดว่าจะคิดค่าประเมินไร่ละ 50-100 บาท
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ก.ย. +$0.63 อยู่ที่ $77.59 / บาร์เรล, Brent ก.ย. +$0.70 อยู่ที่ $81.71/บาร์เรล ได้แรงหนุนหลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 3.7 ล.บาร์เรล & คาดลด 1.6 ล.บาร์เรล และสต็อคเบนซินลดลง 5.6 ล.บาร์เรล & คาดลด 4 แสนบาร์เรล
Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$8.40 อยู่ที่ $2,415.70/ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.06% อยู่ที่ 104.390
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -11.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +10.78 ล.ดอลลาร์สหรัฐ, ขายหุ้นอินโดฯ -22.73 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 36.05 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.27%
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -5 จุด อยู่ที่ 1,864
(-) BitCoinเช้านี้ -1.89% อยู่ที่ 64,426 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
31 ก.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์
กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย
สัปดาห์ที5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
23 ก.ค. US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (มิ.ย.)
24 ก.ค. US ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ก.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ก.ค.)
25 ก.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
26 ก.ค. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (มิ.ย.)
US ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (มิ.ย.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio July 2024: GFPT*, SAPPE*, BH, BTG*, KLINIQ
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th