Market Wrap-Up
• SET วันที่ 19 ก.ค.67 ปิด -7.62 จุด อยู่ที่ 1,317.14 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,796 ลบ.สถาบันขาย 329 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 173 ลบ.ต่างชาติซื้อ 278 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 223 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น TRUE,ADVANC,CPF,GPSC,KKP และมียอดขายสุทธิ BBL,PTTEP,KTB,TOP,BCP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,971 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TASCO,SCB-R,TOP โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 21,071 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 33,096 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 2,624 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.32%, S&P500 +1.08%, Nasdaq +1.58% ได้แรงงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.96%,บริการสื่อสาร +1.2% ฟื้นตัวหลัง Crowdstrike -13.5% จากปัญหาการอัปเดตซอฟแวร์ ส่งผลให้ระบบปฏิบัติการ Window ล่ม ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.93% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.8%, สินค้าหรูหราปรับขึ้น ขณะที่กลุ่มเดินทาง & สันทนาการ -2.4% หลังไรอันแอร์ -17.2% รับกำไร Q2/67 ลดลง
Market View
• ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, บริการสื่อสาร เริ่มฟื้นตัว หลังสัปดาห์ก่อนระบบปฏิบัติ Window ล่มจากปัญหาการอัพเดทซอฟแวร์ของ Crowdstrike กอปรกับกลุ่มผู้ผลิตชิปปรับลดลง หลังสหรัฐเตรียมใช้ ม.ควบคุมการส่งออกชิปไปจีน แต่ Nvidia +2.8% รับข่าวเตรียมผลิตชิปรุ่นใหม่ที่เป็นไปตามข้อกำหนดของรัฐบาล เพื่อส่งออกชิปดังกล่าวไปยังตลาดจีน ส่วนประเด็นการเมือง ปธ.ไบเดน ได้ถอนตัวและให้นางคามาลา แฮร์ริส รอง ปธ.ลงแข่งชิงตำแหน่ง ปธ.กับโดนัลด์ ทรัมป์ สัปดาห์นี้ติดตามข้อเศรษฐกิจ เช่น PMI ภาคผลิต & บริการสหรัฐ เบื้องต้น ก.ค., GDP สหรัฐ Q2/67 คาด +1.9% & Q1/67 +1.4% QoQ และ US PCE มิ.ย. คาด 2.4% & พ.ค. 2.6% YoY
• ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มผู้ผลิตชิปฟื้นตัว หลังปรับลดลงรับข่าวสหรัฐคุมการส่งออกเทคโนโลยีไปยังจีน กอปร ECB มีมติคงดอกเบี้ยรีไฟแนนท์ที่ 4.25% เพื่อรอประเมินเงินเฟ้อยูโรโซนในช่วง 1 – 2 เดือนข้างหน้า สัปดาห์นี้ติดตาม PMI ภาคผลิต & บริการยูโรโซน เบื้องต้น ก.ค. คาดทรงตัวที่ 50.9
• ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.61% จากแรงขายกลุ่มธนาคารและพลังงาน หลังค่าเงินหยวนอ่อนค่าจาก ธ.กลางจีนปรับดอกเบี้ยเงินกู้ LPR 1 ปี, 5 ปี ลง 0.10% อยู่ที่ 3.35%, 3.95% ตามลำดับ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ผลการประชุม Politburo นั้นเน้นการใช้เทคโนยีเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นผลบวกต่อกลุ่ม EV, แบตเตอรี่ และควอนตัม แต่ไม่มีแผนช่วยเหลือภาคอสังหาฯ จีน
• สัปดาห์ก่อน SET -1.12% wow ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 3.97 หมื่น ลบ. +9.4% wow สถาบันขาย 4,611 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,754 ลบ. รายย่อยซื้อ 2,706 ลบ. และพอร์ตโบรกซื้อ 150 ลบ. Wow โดยดัชนีถูกแรงขายจากกลุ่มปิโตรเคมี -3.7%, บรรจุภัณฑ์ -1.3% ซึ่งเป็นกลุ่มที่คาดกำไรในช่วง Q2/67 มีแนวโน้มชะลอตัว กอปรกับผลการประชุม Politburo จีนไม่มี ม.กระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มอุตสาหกรรม, ภาคผลิตที่เป็น Old Economy ส่วนกลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ อิเล็ก ฯ +2.2% , ไอซีที +1.7% ได้ปัจจัยหนุนจากข่าวควบรวมกิจการ Gulf & Intuch ซึ่งส่งผลบวกมายังบริษั่ทลูก เช่น Advanc, Thcom และกลุ่มขนส่ง, ท่องเที่ยว และ รพ. ก็ปรับขึ้นรับ ม.ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวต่างชาติ 93 ประเทศ เที่ยวไทย 60 วัน ไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับรายงานกำไรกลุ่มธนาคาร 8 แห่งQ2/67 มีกำไรรวมอยู่ที่ 6.17 หมื่น ลบ.-1.2% QoQ, +2.0% YoY ดีกว่า BB.Consensus คาด +2.4% โดย BBL,KTB,TTB มีกำไร Q2/67 เป็นบวก QoQ, YoY ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้ติดตาม ครม.เตรียมพิจารณาการปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG และการเริ่มประกาศงบ Q2/67 ของกลุ่ม Real Sector
Daily Strategy
• ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,310 – 1,315 แนวต้าน 1,330 คาดทรงตัวรอผลการประชุม ครม.ในการปรับเงื่อนไขกองทุนThai ESG ซึ่งเป็นบวกต่อเม็ดเงินใหม่จะเข้าสู่ตลาด และวันพุธ ศาล รธน.นัดฟังคำสั่งกรณีคุณสมบัตินายก ฯ เศรษฐา แนะนำซื้อเก็งกำไร DELTA,HANA,KCE ได้ประโยชน์จาก US Bond Yield ลดลง/ ท่องเที่ยว AAV,BA,MINT, CENTEL จาก ม.ฟรีวีซ่าท่องเที่ยว 93 ประเทศ และพักเงินบางส่วนในกลุ่มปลอดภัย เช่น BDMS,BCH
• CKP* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.70 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q67-3Q67 จะฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ จากสถิติปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อน NN2 เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล เช่นเดียวกับปริมาณน้ำโขงที่ผ่านเขื่อนไซยะบุรีเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศจีนมีการเร่งระบายน้ำออกมามากขึ้น ทั้งนี้ 2H67 คาดปรากฎการณ์ La Nina จะเริ่มเด่นชัดขึ้นส่งผลบวกต่อปริมาณน้ำฝน ส่วนโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง (LPCL) ที่ CKP ถือหุ้น 50% กำลังผลิตไฟฟ้ารวม 1,460MW กำหนด COD ขายไฟฟ้าให้ กฟผ.ปี 2573 อิงจาก Consensus ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 1.81 พันล้านบาท (+25%YoY) และ 2.06 พันล้านบาท (+14%YoY)
• PR9* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 22.67 บาท) ประเมินการดำเนินงานใน 2Q67 อ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ยัง +YoY ดีมีแรงหนุนจากจากการฟื้นตัวของผู้ป่วยชาวจีน(ตามตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาในไทย) ขณะที่ฝั่งผู้ป่วยไทยยังโดดเด่นในเรื่องโรคไตและได้ประโยชน์จากตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ของไทยที่สูงขึ้น YoY ด้านPR9*เอง ปี67 นี้ ตั้งเป้ารายได้เติบโต +12%YoY พร้อมทั้งทำการตลาดไปหาผู้ป่วยต่างชาติมากขึ้น(กัมพูชา, พม่า, ลาว, จีน, และกลุ่มใหม่-ชาติอาหรับ) ทั้งนี้ตลาดคาด กำไร ปี67 และ 68 จะอยู่ที่ 647 ลบ.(+16%YoY) และ 723 ลบ.(+12%YoY) ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ส.ค. -$0.35 อยู่ที่ $79.78 / บาร์เรล, Brent ก.ย. -$0.23 อยู่ที่ $82.40/บาร์เรล รอรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งยังกังวลต่อสต็อคอาจปรับสูงขึ้น บ่งชี้อุปสงค์ที่ชะลอตัว
Gold Update(-) Comex Gold ส.ค.-$4.40 อยู่ที่ $2,394.70/ออนซ์ ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า และรอผลการประชุมเฟดวันที่ 30 – 31 ก.ค.
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +18.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +0.71 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +17.35 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 36.26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.245 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -16 จุด อยู่ที่ 1,896
(-) BitCoinเช้านี้ -1.23% อยู่ที่ 67,348.3 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
31 ก.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์
กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย
สัปดาห์ที5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
23 ก.ค. US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (มิ.ย.)
24 ก.ค. US ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ก.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ก.ค.)
25 ก.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
26 ก.ค. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (มิ.ย.)
US ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (มิ.ย.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio July 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th