ERW : สัญญาเช่าอาจไม่แย่อย่างที่กังวล

การต่ออายุสัญญาเช่า 20 ปีมีแนวโน้มสำหรับแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ
เราเชื่อว่ามุมมองของตลาดต่อการต่ออายุสัญญาเช่าแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ นั้นมองในแง่ลบเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ ERW มีกลยุทธ์หลายอย่างหากค่าเช่าสูงกว่าที่ต้องการ แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ซึ่งมีส่วนแบ่งรายได้ 20% ของ ERW ในปี 2024 คาดว่าจะได้รับการต่ออายุสัญญาเช่า 20 ปีในปี 2025 หลังจากได้รับการต่ออายุหนึ่งปีหลายครั้งในช่วงการระบาดใหญ่ และความไม่แน่นอนของการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง ความล่าช้าในการลงนามสัญญาหลักเกิดจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจระบุว่ามีเป้าหมายเพื่อเพิ่มผลตอบแทนสูงสุดโดยการควบรวมบริษัทย่อย ซึ่งส่งผลกดดันราคาหุ้นของ ERW ทั้งนี้ ราคาหุ้น ERW ลดลง 5.5% นับตั้งแต่มีข่าวออกมา เทียบกับดัชนี SET ที่เพิ่มขึ้น 2%

กรณีพื้นฐานคือการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยของค่าเช่าในปี 2025-26
ERW จ่ายให้กับ STHTE ซึ่งเป็นเจ้าของบางส่วนของโรงแรมร่วมกับ ERW เป็นจำนวนทั้งสิ้น 80 ล้านบาทและ 87 ล้านบาทในปี 2022-23 ตามลำดับ สำหรับสัญญาเช่าใหม่ เราคาดว่าการชำระเงินจะมีการปรับทุกสามปีโดยเพิ่มขึ้น 8% ซึ่งแปลเป็นค่าใช้จ่ายรายปีสำหรับ ERW ที่ 89 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่ปี 2023-26 เราสังเกตว่าค่าเช่าควรจะต่ำกว่าข้อเสนอล่าสุดของ SEPO ที่ 1 พันล้านบาทต่อปีอย่างมีนัยสำคัญ ที่ระดับนี้ การดำเนินงานของโรงแรมอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุน เนื่องจากค่าเช่าจะคิดเป็น 70% ของรายได้

มีตัวเลือกอื่นที่เป็นไปได้ แต่มีโอกาสน้อยกว่า
ERW อาจพิจารณาให้เช่าช่วงโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ หากรายได้จากค่าเช่าสูงกว่ากำไรจากการดำเนินงานเอง ตามการประมาณการของเรา หากกำไรสุทธิของโรงแรมต่ำกว่า 337 ล้านบาท การให้เช่าช่วงจะกลายเป็นตัวเลือกที่ทำกำไรได้มากกว่าสำหรับ ERW แม้ว่าในอดีตโรงแรมจะไม่เคยมีรายได้ถึงระดับดังกล่าว แต่การฟื้นตัวของการดำเนินงานหลังโควิดอาจทำให้การให้เช่าช่วงเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ การขายโรงแรมอาจสร้างกำไรหลังหักภาษี 8.8 พันล้านบาท ให้กับ ERW ซึ่งอาจเพิ่มราคาหุ้นได้ 0.5 บาท แม้ว่าการขายเช่นนี้จะไม่น่าเป็นไปได้ในปัจจุบัน แต่เราสังเกตว่ามันอาจช่วยในการระดมทุนสำหรับโครงการอื่นๆ หรือชำระหนี้ได้ คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ ERW โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 6.50 บาท