Market Wrap-Up
- SET วันที่ 18 ก.ค.67 ปิด +4.97 จุด อยู่ที่ 1,324.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,630 ลบ.ต่างชาติซื้อ 1,292 ลบ.สถาบันขาย 560 ลบ.รายย่อยขาย 621 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 72 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น TRUE,CPF,CPALL,BBL,BH และมียอดขายสุทธิ GULF,BDMS,SCB,EA,ADVANC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,131 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ GULF-R,PSH-R,WHA โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 14,795 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 54,167 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 582 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.29%, S&P500 -0.78%, Nasdaq -0.70% โดยกลุ่มบริการสุขภาพ -2.3%, สินค้าฟุ่มเฟือย -1.2% ขณะที่กลุ่มพลังงาน +0.33% ส่วนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 20,000 ราย อยู่ที่ 243,000 สูงกว่าคาคที่ 229,000 ราย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐ มิ.ย. -0.2% & คาด -0.3% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.16% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -1.8% หลัง ECB คงดอกเบี้ยรีไฟแนนท์ที่ 25%
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลังนักลงทุนได้สลับเม็ดเงินลงทุนจากหุ้น Market Cap. ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีเข้าสู่กลุ่ม Market Cap. ขนาดเล็ก หลัง ปธ.ไบเดนสั่งคุมเข้มบริษัทจีนเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตชิปของสหรัฐ ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตชิป เช่น Nvidia ปรับลดลง กอปรกับกังวลผลการเลือกตั้งหากทรัมป์ชนะ มีโอกาสที่จะใช้นโยบายปรับขึ้นสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งอาจทำให้เงินเฟ้อสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น นักลงทุนรอรายงานกำไร Q2/67 บจ.ในดัชนี S&P500 ซึ่ง LSEG คาด +9.6% YoY จากกำไรกลุ่มบริการสื่อสาร, บริการสุขภาพ และเทคโนโลยีที่เติบโตดี ประเด็นเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตามความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด 2 ท่าน
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี จากความกังวลสหรัฐกีดกันการส่งออกชิปไปยังตลาดจีน ส่วนผลการประชุม ECB มีมติดอกเบี้ยรีไฟแนนท์ที่ 25% โดย ปธ. ECB คริสติน ลาการ์ด รอประเมินเงินเฟ้อยูโรโซนจะลดลงสู่ระดับ 2% หรือไม่ เนื่องจากเงินเฟ้อจากภาคบริการยังลดลงช้า ขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซน Q2/67 มีแนวโน้มอ่อนตัวจากการลงทุน & ผลผลิตภาคอุต ฯ ชะลอตัว ดังนั้น Consensus ชี้มีโอกาส 80% ที่ ECB จะลดดอกเบี้ยใน ก.ย.
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ดัชนีนิเกอิ -2.36% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับลดลงตาม Nasdaq กอปรหุ้นกลุ่มส่งออกถูกกดดันจากเงินเยนแข็งค่าขึ้น ขณะที่การประชุม BOJ วันที่ 31 ก.ค. คาดยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่จะลดการซื้อพันธบัตรเพื่อคุมเงินเฟ้อญี่ปุ่น ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้วานนี้ +0.48% รอรายละเอียด ม.กระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หลังการประชุม Politburo ที่ตั้งเป้าหมายจะพัฒนาเศรษฐกิจจีนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
- SET ปิด +0.38% ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 46 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,292 ลบ. สถาบันขาย 560 ลบ พอร์ตโบรกขาย 110 ลบ. รายย่อยขาย 621 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มท่องเที่ยว, ขนส่ง และ รพ. หลังตัวเลขนักท่องเที่ยวแบบ Long Haul จากฝั่งยุโรป +0.99% WoW ในช่วงวันหยุด Summer และนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 9 สัปดาห์ จากกระแส MV ของลิซ่า ส่วนกลุ่มไอซีทีได้แรงหนุนจากข่าวควบรวมกิจการของ Gulf & Intuch ส่งผลบวกไปยังบริษัทลูกเช่น ADVANC, THCOM โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างรอรายงานกำไร Q2/67 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่ง BBL รายงานกำไร Q2/67 อยู่ที่11,807 ลบ. +12.2% QoQ, +4.5% YoY ดีกว่า Consensus +10.3% โดยกำไรปรับดีขึ้น QoQ มาจากรายได้มิใช่จ่ายดอกเบี้ย +26% จากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินผ่านกำไรขาดทุน (FVTPL) จำนวน 2,419 ลบ.กอปรกับ Cost to Income Q2/67 ลดลงอยู่ที่ 44.1% & Q1/67 ที่ 47.1% ขณะที่สำรอง ECL Q2/67 อยู่ที่ 1.53% & Q1/67 ที่ 1.27% เป็นการกันสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรับรองความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดย NPL ณ Q2/67 ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.2% & Q1/66 ที่ 3.0% โดยภาพรวมคาดกลุ่มธนาคารยังถูกกดดันจาก NPL สูงขึ้น และยังเพิ่มสำรอง ECL
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,315 – 1,320 แนวต้าน 1,325 – 1,330 คาดดัชนีมีโอกาสชะลอตัวในช่วงวันหยุดยาว และยังรอรายงานกำไร Q2/67 ของกลุ่มธนาคาร แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว กลุ่มอุปโภค เช่น CPALL,CPAXT,CRC,OSP,COCOCO/ กลุ่มท่องเที่ยว MINT,CENTEL และ BDMS,BCH เป็นกลุ่มปลอดภัย
- BTG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 25.25 บาท) แนวโน้มผลประกอการปกติใน 2Q67 มีโอกาสพลิกเป็นกำไร หนุนจากสภาพอากาศร้อนส่งผลต่ออุปทาน ประกอบการสถานการณ์ราคาหมูเถื่อนเริ่มคลี่คลายลง ทำให้ราคาสุกรในประเทศไทยและกัมพูชาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนราคาไก่ก็มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นเช่นกันหนุนจากความต้องการจากยุโรปและญี่ปุ่น ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังอยู่ในระดับต่ำและมีแนวโน้มปรับลดลงทั้งข้าวโพดและถั่วเหลืองจากผลิตผลในการเพาะปลูกสูงขึ้น ดังนั้นจึงส่งผลบวกต่ออัตรากำไร ทั้งนี้อิงจาก Consensus ของตลาดคาดปี 67 จะกลับมากำไร 26 พันล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ขาดทุน 1.4 พันล้านบาท
- ITEL* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 3.60 บาท) ภาพการดำเนินงานในช่วง 2Q67 อาจมีผลกระทบจากความล่าช้าในการผ่านงบประมาณปี2567 อยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม คาด 2H67 จะเริ่มเห็นประมูลงานใหม่ๆเพิ่ม โดย ณ สิ้น มี.ค.67 บ.มี backlog ที่ 2,471 ลบ.(คาดรับรู้ในปีนี้ 1,390 ลบ.) นอกจากนี้ ITEL* ยังมีปัจจัยบวกปีนี้เพิ่มเติมจาก 1.การเริ่มรับรู้รายได้จาก GLS(Health Tech) และ 2. story จากการ Spinoff BLUE (ผู้ให้บริการ System Integration ด้าน ICT) ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ ITEL* จะอยู่ที่ระดับ 323 ลบ.(+18.70%YoY) และ 364 ลบ.(+12.69%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(0) WTI ส.ค. -$0.03 อยู่ที่ $82.82 / บาร์เรล, Brent ก.ย. +$0.03 อยู่ที่ $85.11/บาร์เรล หลังเฟด Beige Book ชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงปลาย พ.ค. - ต้น ก.ค. ขยายตัวเล็กน้อย กอปรกับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลลบต่ออุปสงค์น้ำมัน
Gold Update(-) Comex Gold ส.ค.-$3.50 อยู่ที่ $2,456.40 /ออนซ์ ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.41% อยู่ที่ 104.173
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +113.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +35.72 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +71.56 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +6.62 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 36.15 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.192 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +22 จุด อยู่ที่ 1,912
(-) BitCoinเช้านี้ -1.38% อยู่ที่ 63,555 ดอลลาร์สหรัฐ
(-) Core CPI ญี่ปุ่ม มิ.ย. 2.6% & คาด 2.7% & พ.ค. 2.5% YoY
Economic Calendar
ในประเทศ
31 ก.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์
กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย
สัปดาห์ที5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
23 ก.ค. US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (มิ.ย.)
24 ก.ค. US ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ก.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ก.ค.)
25 ก.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
26 ก.ค. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (มิ.ย.)
US ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (มิ.ย.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio July 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th