มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SET ขึ้นจำกัดยังมีแรงกดดันระหว่างวัน:โดยมองแรงหนุนการปรับขึ้นมาจาก 1)แรงเข้าซื้อหุ้นขนาดใหญ่จากประเด็นการควบรวมเพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ของGULFและ INTUCHหลังวานนี้ปรับตัวขึ้นกว่า 6.51%และ 3.61%ตามลำดับ การควบรวมจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเปิดรับซื้อคืนหุ้น ADVANCและ THCOMจำนวน 36.25%และ 58.86%ของจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนทั้งหมดโดยรับซื้อที่ราคา216.3 และ 11 บาท/หุ้น ตามลำดับ ผ่านการทำ VTO(Voluntary Tender Offer)อันเป็นการรับซื้อแบบสมัครใจ โดยราคาค่อนข้างต่ากว่าราคาตลาดจึงเป็นไปได้ที่ผู้ถือหุ้นจะไม่ทำการขายหุ้นคืน และจะทำให้ราคารับซื้อกลายเป็นราคาขั้นต่ำของADVANCและ THCOMซึ่งจะช่วยจำกัด Downsideของตลาด2)ความคืบหน้าโครงการเงินดิจิทัล หลังสภามีมติรับหลักการร่างพรบ.งบประมาณเพิ่มเติมในวาระ 1 พร้อมแต่งตั้งกรรมาธิการวิสามัญ32 ท่าน และกำหนดวันแปรญัตติในวันที่ 18-19 ก.ค. สร้างแรงหนุนให้หุ้นค้าปลีก 3)การเซ็นสัญญาก่อสร้างสายสีส้มในวันนี้ คาดหนุนราคาของ BEMและ CKอย่างไรก็ดีมองภาพความกังวลในประเด็นอื่นยังมีอยู่นำโดย 1)แรงกดดันของหุ้น EAจากความกังวลในการชำระคืนหุ้นกู้ ที่จะครบกำหนดในวันที่ 15 ส.ค. และ 29 ก.ย. ท่ามกลางการถูกปรับลดอันดับเครดิต อาจยังกดดันให้ราคาปรับตัวลงต่อเป็นวันที่ 3 หลังราคาปรับตัวลงสู่ราคา Floorต่อเนื่อง 2 วัน 2)การเมืองระหว่างประเทศหลังวานนี้ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐย่อตัวรับท่าทีของทรัมป์ที่ต้องการให้ไต้หวันจ่ายค่าคุ้มครองให้ คาดเป็นลบต่อหุ้นETRONในไทยเช่นกัน 3)ประเด็นการเมือง โดยตลาดหันไปให้ความสนใจในการตัดสินคดีของนายก ซึ่งจะนัดพิจารณาคดีในวันที่ 24 ก.ค. หลังคดียุบพรรคก้าวไกล ได้มีการกำหนดวันวินิจฉัยคดีในวันที่ 7 ส.ค. ปัจจัยอื่นตลาดจับตา การประชุม ECBคาดคงดอกเบี้ยที่ 3.75%ตัวเลขการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐ
กลยุทธ์การลงทุน :1)เก็งงบ 2Q67:CPF, BTG, KTB, TTB, ITC2)บาทแข็ง : COM7, AAV, SIS, SYNEX 3) งานภาครัฐฯ: BEM, CK4) Spending : CPN, CRC, OSP, CPALL, TACC 5) Defensive: BDMS, TTWและ 6) Selective: GULF, INTUCH, BGRIM, GPS
แนวรับ-ต้าน
1,315 –1,325
ปัจจัยบวก
+ ระยะสั้นกระทรวงพลังงานเผยกำลังเร่งหารือกับ กกพ. กฟผ. และปตท. เพื่อหาแนวทางอุ้มค่าไฟเดือน ก.ย.-ธ.ค. เพื่อให้ประชาขนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
+ ก.ล.ต. เปิดเผยว่าภาพรวมการลงทุนในกองทุนรวมไทยขณะนี้ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวการเลิก 1 กองทุน โดยก.ล.ต. ได้มีการติดตามภาพรวมการลงทุนอย่างใกล้ชิด
+สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเผย อัตราการว่างงานของเยาวชนในจีนลดลงแตะระดับต่าสุดเมื่อเดือน มิ.ย. 2567 โดยอยู่ที่ 13.2% ลดลงจากเดือนก่อนที่ 14.2%
+ แอร์เอเชีย แนะนำรัฐบาลให้พลิกฟื้นโครงการ เราเที่ยวด้วยกันเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว มองจะช่วยการท่องเที่ยวในไตรมาส 3 ที่เป็น LowSeason ของการท่องเที่ยวไทย
+ สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐจาก EIA ออกมาที่ -4.87 ล้านบาร์เรล ต่ากว่าคาดที่ -0.9 ล้านบาร์เรล หนุนหุ้นพลังงานต้นน้ำ และ โรงกลั่น
ปัจจัยลบ
-นักวิเคราะห์เตือน หากนายโดนัลด์ทรัมป์ได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2 อาจจุดชนวนเงินเฟ้อพุ่งสูงทั่วโลกอีกครั้ง ผ่านการตั้งกำแพงภาษี และ การลดการเก็บภาษีบุคคลในประเทศ
-ส.อ.ท หวั่นขึ้นค่าไฟงวดสิ้นปีและค่าแรงขั้นต่า400บาทต่อวันทั่ว ประเทศทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นแข่งขันลำบากฉุดให้โรงงานปิดตัวและคนตกงานเพิ่มมากข้น
- สมาคมบริษัทจัดการลงทุน มีมติจัด บมจ.พลังงานบริสุทธิ์(EA) อยู่ในRestricted List จำกัดการทำธุรกรรมและห้ามลงทุนเพิ่ม สร้างแรงกดดันเพิ่มเติมให้หุ้น EA
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์