มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SETแกว่งขึ้นเบาๆ:แรงหนุนจากมาตรการรัฐ และศก.สหรัฐฯที่ยังแกร่ง หากแต่ลดทอนด้วยความกังวลศก.จีนทั้งนี้คาดแรงหนุนมาจากการที่ครม.มีมติเห็นชอบให้ธ.ออมสินดำเนินโครงการให้สินเชื่อตามมาตรการกระตุ้นศก.และช่วยเหลือประชาชนรายย่อย และโครงการ SoftLoanวงเงิน 1 แสนลบ.โดยก.คลังคาดว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ระบบศก.และส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของ GDPได้ประมาณ 0.27% อีกทั้งวันนี้ ติดตามการประชุมสภาพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯเพิ่มเติมปี67 จ านวน 1.22 แสนลบ.เพื่อใช้ในการดำเนิน DigitalWalletซึ่งหากมีความคืบหน้าเพิ่มจะเป็นSentimentหนุนต่อหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอย ขณะที่ประเด็น GULFแจ้งปรับโครงสร้างควบรวม INTUCHและเสนอซื้อหุ้น ADVANC,THCOMเบื้องต้นทางฝ่ายมอง Positiveเนื่องจากจะส่งผลให้การดำเนินงานในแต่ละธุรกิจมีความชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ ภาพศก.และผลประกอบการในฝั่งสหรัฐฯคาดเป็นอีก Sentimentทางบวกต่อ SETIndexหลัง1)สหรัฐฯเผยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.67 ที่ 0.0% m-mแม้ชะลอลงจาก 0.3%m-mในเดือนพ.ค.67 หากแต่สวนทางตลาดคาดที่หดตัว0.3%m-mและหากไม่รวมยอดขายรถยนต์และน้ามันเพิ่มข้ึน0.8% m-mเร่งขึ้นจาก 0.3%m-mในเดือนพ.ค.67 และสูงกว่าตลาดคาดที่
0.2%m-mเป็นการสะท้อนภาพว่าการที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลให้ศก.สหรัฐฯเผชิญภาวะถดถอยและ 2) Bank of AmericaและMorgan Stanley เผย EPS ใน 2Q67 ที่ $0.83และ $1.82 มากกว่าตลาดคาดที่ $0.80และ $1.65 ตามลำดับอย่างไรก็ตาม มองทางขึ้นจำกัดท่ามกลางความกังวลว่าการชะลอตัวของศก.จีนจะส่งผลให้อุปสงค์น้ามันอ่อนแอลง สอดรับกับราคาน้ามันดิบ WTIที่ปรับลง 1.4%ปิดที่ $80.76 ต่อบาร์เรลซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ ติดตามการเผย CPIเดือนมิ.ย.67 ของยูโรโซน ตลาดคาด Headline ที่ 2.5% y-y ชะลอลงจาก 2.6% y-y ในเดือนพ.ค.67และ Core ที่ 2.9% y-y เท่ากับเดือนก่อน
กลยุทธ์การลงทุน : 1)เก็งงบ 2Q67:BTG,KTB2) ท่องเที่ยว+Spending:AWC,BA,CENTEL,COCOCO,CPALL,CPAXT, OSP3) งานภาครัฐฯ: BEM, CK 4) หวังดอกเบี้ยโลกขาลง: DELTA, KCE, SAWAD และ 5) Selective: ADVANC, GULF, INTUCH, THCOM
ปัจจัยบวก
+ รมว.ท่องเที่ยวฯเผยจากกระแสการท่องเที่ยวตามรอย MV เพลง Rockstarของลิซ่า มีผลกระตุ้นให้สัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น155,717 คนสูงสุดในรอบ 9 สัปดาห์ ส่วนภาพรวมไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-14 ก.ค.67 ทั้งสิ้น 18.9 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 8.91 แสนลบ.
+ครม.เห็นชอบการขยายระยะเวลาปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เหลือ0.125% ต่อไปอีก 1 ปี เพื่อสนับสนุนธนาคารรัฐในการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางในการการฟื้นตัวและกลับมาช าระหนี้ได้ตามปกติได้มากขึ้น
+ ครม.มีมติเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2567 วงเงินงบประมาณโครงการฯ รวม 2,302.16 ลบ.
+ครม.มีมติเห็นชอบสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยในวันที่18 ก.ค.67 รฟม.จะลงนามในสัญญาร่วมกับ BEM ในฐานะผู้ชนะการประมูล
+ IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ศก.ไทยปี 2567 สู่ 2.9% จากคาดเดิมที่ 2.7%
ปัจจัยลบ
-รองโฆษกสำนักนายกฯเผยก.คลังยังไม่ได้เสนอการปรับเงื่อนไขกองทุนรวมส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย (Thai ESG) เข้ามาให้ที่ประชุมครม.พิจารณาเมื่อวานนี้
- UBS เผยผลการวิจัยระบุว่าการกำหนดภาษีศุลกากรใหม่ 60% ส าหรับสินค้าส่งออกของจีนทั้งหมดไปยังสหรัฐฯ จะทำให้อัตราการเติบโตต่อปีของศก.จีนลดลงเกินครึ่ง ซึ่งตอกย้าความเสี่ยงที่จีนอาจจะต้องเผชิญหากอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กลับมาดำรงตำแหน่งปธน.สหรฐั ฯอีกครั้ง
- ศูนย์วิจัยศก.ยุโรป (ZEW) เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางศก.ของยูโรโซนปรับตัวลงสู่ระดับ 43.7 ในเดือนก.ค.67 จากระดับ 51.3 ในเดือนมิ.ย.67และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ระดับ 48.1
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์