Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

593


AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ตั้งฐาน
กลยุทธ์เลือกหุ้นหุ้นที่กำไรมีแนวโน้มเติบโตดี
Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1320-1340 จุด ปัจจัยแวดล้อมค่อนข้างผสมผสาน โดยฝั่งสหรัฐฯ วานนี้ประธาน FED ให้ความเห็นในงาน Economic Club โดยมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะเข้าสู่ระดับ 2% และให้ความเห็นว่า FED ไม่จำเป็นต้องรอให้เงินเฟ้อลงมาที่ 2% ก่อนถึงจะลดดอกเบี้ยฯ ความเห็นในเชิงผ่อนคลายข้างต้นยังเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นได้ต่อในช่วง 0.3% –0.5% ส่วนผลต่อการปรับลดดอกเบี้ยฯ หากเกิดขึ้นมองเป็นบวกต่อทิศทาง Fund Flow ที่มีโอกาสไหลเข้ามาในภูมิภาคมีมากขึ้น
ฝั่งจีนการรายงาน GDP 2Q67 ขยายตัว 4.7%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด 5.1%YoY และต่ำกว่างวดก่อนที่ 5.2%YoY กดดันมาจากภาคบริโภคและภาคอสังหา ที่ชะลอลง แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นจีนวานนี้แกว่งทรงตัวซึ่งคาดว่าจะรอมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมจากการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนระหว่างวันที่ 15-18 ก.ค. 67 แต่ระยะสั้นมองเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มปิโตรฯ
ส่วนบ้านเราผลการประชุมบอร์ดใหญ่ Digital Wallet วานนี้เห็นชอบ วงเงินโครงการ 4.5 แสนล้านบาท และที่มาของงบประมาณที่มาจากปี 67 และ 68 โดยนายกฯ เผยการเปิดลงทะเบียนจะมีขึ้นในวันที่ 1 ส.ค.ผ่านแอพ “ทางรัฐ” สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมจะมีความชัดเจนในวันที่ 24 ก.ค. มองความคืบหน้าของโครงการเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มค้าปลีกที่เกี่ยวกับภาคอุปโภคบริโภค อย่าง CPALL BJC OSP กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ยังเลือกหุ้นที่กำไรมีแนวโน้มเติบโตดีชอบ OSP และ KCE

 


Market Summary
SET Index ปรับลง 4.61 จุด จากความกังวลต่อประเด็นหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับ EA โดย NEX -30% ตามด้วยกลุ่มธนาคารกดดันจากความกังวลต่อการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น นำโดย SCB -3.3% KBANK -2.7% BBL -1.9% กลุ่มอื่นๆที่ลงแรง PTTGC -3.3% IVL -4% จาก GDP จีน 2Q67 ต่ำคาด ส่วนกลุ่มที่หนุนตลาดคือ โรงพยาบาล ฺBH +1.6% BDMS +1.9% และกลุ่ม ICT INTUCH +2.3% ADVANC +0.9%

 

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ OSP KCE

KCE คาดกำไร 2Q67 ขยายตัว
และดีต่อใน 3Q67
กำไร 2Q67 มีทิศทางฟื้นตัวได้ YoY และ QoQ จากการรับรู้รายได้ที่เลื่อนมาจาก 1Q67 อัตรากำไรจะดีขึ้นจากโครงการลดต้นทุนของนริษัทฯและได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่า ขณะที่ 3Q67 ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อตามปัจจัยฤดูกาล Consensus คาดกำไร 67E โต 25%YoY
ประเด็น Trade War ที่สูงขึ้น ทั้งจากยุโรปขึ้นภาษีนำเข้า EV จากจีน 17%-38%ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ จากผลสำรวจล่าสุดที่คุณทรัมป์มีคะแนน นำคุณไบเดน ทำให้ความเสี่ยงต่อการขึ้นภาษีจากจีนกลับมา ซึ่งเราเชื่อว่า KCE มีโอกาสที่จะได้ประโยชน์จาก Supply Chain ที่แนวโน้มเร่งออกจากจีนเร็วขึ้น อ้างอิงปี 2566 KCE มีรายได้จากยุโรปและสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนราว 40% และ 20% ตามลำดับ
มองราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER67/68E 25.7/22.5 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ซื้อขายที่ 47/40.7 เท่าตามลำดับ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 48.50 บาท

 

OSP แนวโน้มกำไรดูสดชื่น
คาดกำไร 2Q67E มีแนวโน้มเติบโต QoQ และ YoY สนับสนุนจากยอดขายในประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจากฤดูร้อน และแนวโน้มอัตรากำไรที่ดีจากต้นทุนเชื่อก๊าซธรรมชาติที่ต่ำลง
กำไรปกติในปี 67 คาดเติบโต 21% YoY จาก 1) ยอดขายเครื่องดื่มในประเทศเติบโต 7% YoY จากส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยอดขายเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอลเพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2) คาดว่ายอดขายในต่างประเทศเติบโต 12% YoY จากการเติบโตต่อเนื่องในเมียนมาร์และการออกเครื่องดื่มชูกำลังรสชาติใหม่ 3) อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 163 bps YoYเป็น 36.2% ในปี 67 จากการประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น ต้นทุนพลังงานลดลง และการออกสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น
ระดับ Valuation ปัจจุบันซื้อขายบน PER67E 26.5 เท่า (-1.5 S.D.)
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 24.00 บาท

KEY FACTOR
หุ้นกลุ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจจีน (นำโดย PETRO) โดนแรงกดดันระยะสั้นจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนในภาพรวมออกมาแย่กว่าคาด 1) GDP 2Q67 ของจีนขยายตัว +4.7% YoY ซึ่งต่ำกว่าที่ Consensus คาดการณ์ไว้ที่ระดับ +5.1% YoY และชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจาก +5.3%YoY ในไตรมาสก่อนหน้า 2) ยอดค้าปลีก เดือน มิ.ย. +2.0%YoY ต่ำกว่า Consensus คาดการณ์ที่ +3.4%YoY 3) ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน มิ.ย. +5.3% YoY สูงกว่าที่ Consensus คาด +5.0% YoY เล็กน้อย อย่างไรก็ตามตัวเลขที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอ สร้างแรงกดดันและความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ที่กำลังมีขึ้นในช่วง 15 – 18 ก.ค.
ปัจจัยอื่นๆ การส่งสัญญาณของประธาน Fed เป็นเชิงผ่อนคลาย ให้น้ำหนักเชิงบวกต่อเงินเฟ้อที่ชะลอลงในเดือน มิ.ย. หนุน Risk sentiment และหุ้นที่ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง กลับมาฟื้นตัวเด่น ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศที่ตลาดหุ้นไทยโดนผลกระทบจากความเชื่อมั่นกรณี EA ส่งผลให้มีแรงขายกลุ่ม BANK ที่อาจต้องตั้งสำรองเพิ่มเติมในช่วง 2H67 และ FIN ที่อาจต้องเผชิญภาระต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากพิจารณาทิศทางค่าเงินบาท ยังพบว่าแข็งค่า -1.35% MTD และ Outperform ASEAN สะท้อนความเชื่อมั่นที่ยังมีอยู่จากมาตรการภาครัฐและการพยุงหุ้นที่จะทยอยเข้ามาเพิ่มเติม

Eyes on
16 ก.ค. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ, ครม. พิจารณา TESG
17 ก.ค. CPI Eurozone
18 ก.ค. การประชุม ECB

 


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หมดข่าว เลิก By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็น นักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทยออก วานนี้ หลังจาก สหรัฐกับจีน ตกลงการค้า จบด้วยดี.....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้