News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

15 ก.ค. 2567 09:25:32 569

Market Wrap-Up

SET วันที่ 12 ก.ค.67 ปิด +2.67 จุด อยู่ที่ 1,332.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,589 ลบ.ต่างชาติซื้อ 14 ลบ.สถาบันขาย 20 ลบ.รายย่อยขาย 260 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 136 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น KBANK,MINT,BH,TIDLOR,HMPRO และมียอดขายสุทธิ ADVANC,CPALL,EA,BDMS,SCC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,492 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TCAP-R,TPIPL-R,SCGP-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 34,993 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 25,153 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 4,030 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.62%, S&P500 +0.55%, Nasdaq +0.63% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่กลุ่มธนาคารใน S&P500 -1.5% หลังรายงานงบ Q2/67 ส่วนรายงาน US PPI มิ.ย.ปรับขึ้นอยู่ที่ 6% & คาด 2.3% & พ.ค. 2.4% YoY และ ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ค. อยู่ที่ 66.0 & มิ.ย. 68.2 ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.88% ได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสวีเดน +2.2% และ CPI ฝรั่งเศส มิ.ย. ลดลงอยู่ที่ 2.5% & พ.ค. 2.6 % YoY

Market View

DJIA +1.6% S&P500 +0.90%, Nasdaq +0.2% WoW ได้ปัจจัยหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลัง US CPI มิ.ย.ลดลงอยู่ที่ 0% & พ.ค. 3.3% YoY กอปรกับเจอโรม พาวเวลให้ความเห็นจะไม่รอจนเงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมาย 2% ก่อนจะตัดสินใจลดดอกเบี้ย เนื่องจากความกังวลการตรึงดอกเบี้ยสูงนานกว่าคาด จะส่งผลให้ตลาดแรงงานสหรัฐชะลอตัว จากปัจจัยดังกล่าว CME Fed Watch ชี้โอกาส 90.3% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. และลดอีก 2 ครั้งใน พ.ย. และ ธ.ค. นี้ สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น ยอดค้าปลีก, ตัวเลขเริ่มสร้างบ้าน, การผลิตภาคอุตฯ มิ.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ก.ค., Beige Book และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
Stoxx600 ยุโรป +1.45% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลังเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. นี้ กอปรกับ CPI เยอรมัน มิ.ย. ลดลงอยู่ที่ 2% & พ.ค. 2.4% YoY ส่งผลให้ตลาดคาด ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. สัปดาห์นี้วันพุธติดตาม CPI ยูโรโซน มิ.ย. คาดที่ 2.5% YoY, CPI อังกฤษ มิ.ย.คาดที่ 1.9% & พ.ค. 2.0% YoY และวันพฤหัส ประชุม ECB คาดจะคงดอกเบี้ยรีไฟแนนท์ที่ 4.25%
MSCI Asia Pacific X.Japan Index +1.9% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดเอเชียเหนือที่ปรับขึ้นตาม Nasdaq หลังเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้นใน ก.ย. สัปดาห์นี้วันจันทร์ติดตาม GDP จีน Q2/67 คาด +5.1% & Q1/67 +5.3% YoY, ผลผลิตภาคอุตฯ & ยอดค้าปลีก & อัตราว่างงานจีน มิ.ย. และการประชุม Politburo จีน 15 – 18 ก.ค. คาดว่าจะออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีนรอบใหม่
SET ปิด +1.5% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 63 หมื่น ลบ. +14.8% WoW สถาบันซื้อ 443 ลบ. รายย่อยซื้อ 2,639 ลบ พอร์ตโบรกซื้อ 67 ลบ. ต่างชาติขาย 3,150 ลบ. WoW โดยดัชนีได้แรงหนุนจากความชัดเจนโครงการดิจิทัล วอลเล็ตที่ปรับลดวงเงินลงอยู่ที่ 4.5 แสน ลบ. และไม่ต้องเรียกใช้ งบ.เพิ่มจาก ธกส. ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องกรณีใช้งบประมาณผิดวัตถุประสงค์ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก ขณะที่การประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ติดตามการพิจารณาปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ซึ่งจะเป็นปัจจัยช่วยเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในปีนี้อีกราว 2 – 3 หมื่น ลบ. โดยภาพรวมดัชนี SET ยังได้ปัจจัยบวกจากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มอิเล็ก ฯ และโรงไฟฟ้ายังได้แรงหนุนจากเตรียมปรับขึ้นค่า FT ในงวด ก.ย. – ธ.ค. นี้ ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ วันนี้การประชุมบอร์ดชุดใหญ่ดิจิทัล วอลเล็ต, วันพุธ ศาล รธน.นัดฟั่งคำสั่งกรณียุบพรรคก้าวไกล ซึ่งคาดอยู่ระหว่างการไต่สวนพยาน และรายงานกำไร Q2/67 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่ง Bloomberg Consensus คาด -3.5% QoQ, -0.5% YoY

Daily Strategy

วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,320 แนวต้าน 1,340 – 1,350 ประเมินดัชนีอาจผันผวนจากประเด็นผู้บริหาร EA ถูก กลต.กล่าวโทษ ส่วนประเด็นการลอบยิงทรัมป์คาดไม่ส่งผลกระทบมากนัก โดย S&P500 Futures เช้านี้ +0.11% แนะนำทยอยซื้อ CPALL,CPAXT,TNP,CBG,OSP ได้ประโยชน์จาก ม.ดิจิทัล วอลเล็ต/ ท่องเที่ยว AOT,AAV,BA,MINT,CENTEL,ERW รับ ม.ฟรีวีซ่าเที่ยวไทย 93 ประเทศ
TOP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 63.00 บาท) แม้ผลประกอบการหลักใน 2Q67 จะอ่อนตัวจากค่าการกลั่น แต่กำไรสุทธิยังอยู่ในเกณฑ์ดีจากกำไรสต๊อกน้ำมัน ในขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมีโอกาสทยอยฟื้นตัวได้จากค่าการกลั่นที่ผ่านจุดต่ำสุดไปในช่วงเดือน พ.ค. ซึ่งหากมองข้ามไปใน 3Q67-4Q67 ก็จะเห็นกำไรปกติที่ดีขึ้นตามลำดับจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะส่วนต่างราคาน้ำมันในกลุ่ม Middle distillates รวมถึงในปี 68 โครงการ CFP จะแล้วเสร็จส่งผลบวกต่อกำลังการกลั่นและสัดส่วนผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงจะเพิ่มขึ้น ช่วยให้ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาว
TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท) ประเมินกำไรปกติ 2Q67 อยู่ที่ 1,360 ลบ. (+6.38%YoY, +52.48%QoQ) มีแรงหนุนจากบาทอ่อน กลุ่มธุรกิจ Ambient Seafood และ ธุรกิจ Petcare หลัง Inventory คู่ค้ากลับสู่ปกติเมื่อเทียบ YoY ขณะที่ในส่วนของ GPM คาด +YoY +QoQ จาก Product mix(สัดส่วน Petcare สูง) และ ราคาปลาทูน่าแกว่งขึ้นจากโซนล่าง 1,300 usd/ton ขึ้นมาเดือนมิ.ย.67 ที่ 1,580 usd/ton(โดยเฉพาะ Ambient Seafood/ ต้นทุนถูก/มีเหตุผลในการการปรับขึ้นราคาขาย) ทั้งนี้ ปัจจุบัน เราคาดว่าปี67 และ68 กำไรสุทธิ TU จะอยู่ที่ 5,886 ลบ.(จากขาดทุนปี66) และ 6,599 ลบ.(+12.12%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ส.ค. -$0.41 อยู่ที่ $82./21 / บาร์เรล, Brent ก.ย. -$0.37 อยู่ที่ $85.03/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI -1.1%, Brent -1.7% WoW หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ก.ค. ลดลงต่ำสุดในรอบ 8 เดือน และอุปสงค์นำเข้าน้ำมันดิบจากกจีน มิ.ย. -11% YoY

Gold Update(-) Comex Gold ส.ค.-$1.20 อยู่ที่ $2,420.70/ออนซ์ สัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาทองคำ +0.68% WoW ได้หนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า ยู่ที่ 104.093 และ US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.18%

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ซื้อสุทธิ +14.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -86.7 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +97.01 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +4.27 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 36.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.238 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +50 จุด อยู่ที่ 1,997

(+) BitCoinเช้านี้ +2.61% อยู่ที่ 61,329 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

20 พ.ค. สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 1/67

31 พ.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ,การค้าชายแดน

และการค้าผ่านแดน

สัปดาห์ที5 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

20 พ.ค. US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ

22 พ.ค. US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (เม.ย.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

23 พ.ค. US รายงานการประชุมของ FOMC

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( พ.ค.)

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( พ.ค.)

US ยอดขายบ้านใหม่ (เม.ย.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio May 2024: GFPT*, SAPPE*, OSP*, ITC*, ICHI*, CPALL

Analysts

Apichai Raomanachai