Market Wrap-Up
- SET วันที่ 10 ก.ค.67 ปิด +3.36 จุด อยู่ที่ 1,323.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,210 ลบ.ต่างชาติขาย 2,047 ลบ.สถาบันซื้อ 1,159 ลบ.รายย่อยซื้อ 496 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 1,056 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น AOT,CPF,INTUCH,PTTGC,BEM และมียอดขายสุทธิ PTTEP,KCE,BBL,BCP,ADVANC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,678 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HKCE01,PSH-R,KTC-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 15,292 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 29,406 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 3,135 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +1.09%, S&P500 +1.02%, Nasdaq +1.18% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทค ฯ +1.63%, วัสดุ +1.34% และหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป เช่น Micron Tech +4%, Nvidia +2.7% หลังถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ต่อสภาผู้แทนฯ บ่งชี้หนุนการลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.91% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหา +2.1% หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับลดลง
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500, Nasdaq ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี & ผู้ผลิตชิป หลัง ปธ.เฟดแถลงนโยบายเศรษฐกิจ & การเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทนฯ ชี้เฟดไม่ได้ตั้งเป้าคุมเงินเฟ้อเท่านั้น แต่ยังต้องรักษาระดับการจ้างงาน เพื่อเลี่ยงผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ดังนั้นเฟดจะไม่รอจนเงินเฟ้อลงสู่ระดับ 2% จึงจะลดดอกเบี้ย จากถ้อยแถลงดังกล่าว CME Fed Watch ชี้โอกาส 74% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ใน ก.ย. นี้ ข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม US CPI มิ.ย. คาดที่ 1% & พ.ค. 3.3% YoY , วันศุกร์ US PPI มิ.ย.คาดทรงตัวที่ 2.2% YoY และรายงานกำไร Q2/67 กลุ่มธนาคารเช่น JP.Morgan, Citi Group, Wells Fargo
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับขึนได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหา ฯ หลัง Euro Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 2.532%โดยข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม CPI เยอรมัน มิ.ย. คาดลดลงอยู่ที่ 2.2% & พ.ค. 2.4% YoY เพื่อบ่งชี้โอกาสที่ ECB จะลดลงดอกเบี้ยใน ก.ย. และรายงาน GDP อังกฤษ พ.ค. คาด +0.2% & เม.ย. 0% MoM
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.68% หลังรายงาน CPI จีน มิ.ย. +0.2% & พ.ค. +0.3% YoY และ PPI จีน มิ.ย. -0.8% & พ.ค. -1.4% YoY บ่งชึ้กำลังซื้อผู้บริโภคจีนยังฟื้นตัวช้า และอยู่ในภาวะเงินฝืด โดยวันศุกร์นี้รอตัวเลขส่งออกจีน มิ.ย. คาด 8.0% & พ.ค. 7.6% YoY, นำเข้าจีน มิ.ย. คาด 2.9% & พ.ค. 1.8% YoY ส่วนเช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียเหนือคาดจะปรับขึ้นตามกลุ่มผู้ผลิตชิปสหรัฐ
- SET วานนี้ปิด +0.25% ปริมาณการซื้อขาย 4 หมื่น ลบ ต่างชาติขาย 2,047 ลบ. สถาบันซื้อ 1,159 ลบ. รายย่อยซื้อ 496 ลบ พอร์ตโบรกซื้อ 391 ลบ. ดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มขนส่ง +1.2% นำโดย AOT +1.75%, กลุ่มไอซีที +0.73% จากคาดการณ์กำไร Q2/67 ของ ADVANC +17% YoY และกลุ่มอิเล็ก ฯ +0.73% ได้ปัจจัยหนุนจากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ซึ่งเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Growth กอปรกับได้แรงหนุนทางจิตวิทยาจากการปรับขึ้นของกลุ่มผลิตชิป AI ในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยภาพรวมดัชนี SET ทรงตัวหลังปรับขึ้นรับข่าวความคืบหน้าโครงดิจิทัลวอลเล็ต และยังรอการแถลงความคืบหน้าในวันที่ 15 ก.ค. ซึ่งเบื้องต้นอาจลดวงเงินเหลือ 4.5 แสน ลบ. เพื่อเลี่ยงการใช้งบจาก ธ.ก.ส. และลดความเสี่ยงที่จะต้องตีความว่าสามารถใช้งบจาก ธ.ก.ส.ได้หรือไม่ ขณะที่ตลาดยังรอความคืบหน้าการปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG หลังการประชุม ครม.สัปดาห์นี้ยังไม่พิจารณา ส่วนประเด็นการเมือง ศาล รธน.นัดฟังคำสั่งกรณีคุณสมบัตินายก ฯ ไปวันที่ 24 ก.ค. และมีเรียกตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ เช่นเดี่ยวกับกรณียุบพรรคก้าวไกล ดังนั้นผลคำวินิจฉัยอาจต้องใช้เวลาอีก 1 – 2 เดือน
Daily Strategy
- ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,315 – 1,320 โดยมีแนวต้าน 1,330 – 1,340 ได้ปัจจัยหนุนจากคาดกาณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. และความคืบหน้า ม.ดิจิทัล วอลเล็ต แนะนำซื้อเก็งกำไร DELTA,HANA,KCE,SVI ได้กระแสบวกกลุ่มเทคฯสหรัฐ/ กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF,GPSC,BGRIM จาก กกพ.เตรียมปรับขึ้นค่า FT งวด ก.ย. – ธ.ค. 67
- BANPU (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 45 บาท) แนวโน้ม 2Q67 คาดผลการดำเนินงานปกติมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ QoQ โดยธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ที่เคยถูกถ่วงด้วยปัจจัยทางด้านราคาขายน่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากราคาก๊าซฯ อ้างอิง Henry Hub ที่ขยับขึ้นมา ด้านราคาประเมินว่าน่าจะฟื้นต่อใน 3Q67 เพราะเป็นฤดูกาลเก็บสต๊อกก่อนเข้าฤดูหนาว ส่วนทางธุรกิจถ่านหินมีปัจจัยหนุนจากราคาขายและปริมาณที่เพิ่มขึ้น QoQ ตามสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย รวมถึงธุรกิจผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าในประเทศไทยที่เข้าช่วง high season ของความต้องการใช้ไฟฟ้า ด้าน Valuation เทรดต่ำ Book มาก มองว่า downside น้อยในช่วงตลาดผันผวน
- TACC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.55 บาท) กำไรสุทธิ 1Q67 +YoY +QoQ หนุนจากสภาพอากาศร้อนเป็นบวกต่อสินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม, การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ, และการขายในกัมพูชาตาม 7-11 ด้านการดำเนินงาน 2Q67 แม้อาจมีปัจจัยลบจากแนวโน้มราคากาแฟ(ต้นทุน)ที่สูงขึ้น แต่ เบื้องต้นคาดว่า ภาพรวมจะเป็นบวกได้ต่อจาก 1.แรงหนุนเชิงรายได้ตามสภาพอากาศร้อนจัดในเดือน เม.ย.-พ.ค.67 2.การออกสินค้าใหม่ๆเพื่อชดเชยมาร์จิ้น เช่น เจลี่ คอลลาเจน เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ TACC* จะอยู่ที่ระดับ 243 ลบ.(+17.61%YoY) และ 270 ลบ.(+10.97%YoY) ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ส.ค. +$0.69 อยู่ที่ $82.10 / บาร์เรล, Brent ก.ย. +$0.42 อยู่ที่ $85.08/บาร์เรล ได้แรงหนุนหลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 3.4 ล.บาร์เรล จากคาดลด 1.3 ล.บาร์เรล
Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$11.80 อยู่ที่ $2,379.70/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยใน ก.ย. นี้ และรอรายงาน US CPI มิ.ย. ในช่วงค่ำวันนี้
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -70.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -56.28 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -10.39 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -3.48 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 36.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.289 %
(+) ดัชนี BDI ปิด +45 จุด อยู่ที่ 1,939
(+) BitCoinเช้านี้ +0.07% อยู่ที่ 57,534 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
09 ก.ค. ตลท.) แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์
สัปดาห์ที2 หอการค้าไทย ร่วมกับม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน
ต่างประเทศ
09 ก.ค. US คำแถลงการณ์ของพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ 10 ก.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
11 ก.ค. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (มิ.ย.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
12 ก.ค. US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio July 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th