Company Note
Charoen Pokphand Foods

แนวโน้มผลประกอบการกลับมาเติบโตเร็วกว่าที่คาด ธุรกิจสุกรในเวียดนามและจีนดีขึ้น

คาดผลประกอบการ 2Q24F กำไรเพิ่มขึ้น และทั้งปีจะกลับมาเติบโตแรง จากราคาหมูไทยเริ่มดีขึ้นจากปัญหาหมูเถื่อนลักลอบนำเข้าลดลง ส่งผลต่อราคาไก่ราคาดีขึ้นด้วยเช่นกันซึ่งเป็นสินค้าทดแทน การส่งออกธุรกิจไก่ที่ดีขึ้น, ราคาหมูเวียดนามเพิ่มขึ้นจากปัญหาโรค ASF ในสุกรปีที่ผ่านมาส่งผลต่อ supply สุกรลดลง ในขณะที่ราคาสุกรในจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก demand เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทร่วมทุน CTI ขาดทุนลดลงแต่ชดเชยกับธุรกิจอาหารสัตว์ในจีนที่ดีขึ้น สำหรับธุรกิจสัตว์น้ำกุ้งยังมีผลกระทบจาก supply ในเอกวาดอร์ยังมีปริมาณสูง อย่างไรก็ตามสัดส่วนรายได้สัตว์น้ำคิดเป็นเพียง 12% ของรายได้รวม สำหรับต้นทุนทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์ยังลดลง แต่ข้าวโพดอาหารสัตว์ QoQ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามปัจจัยฤดูกาลแต่ทั้งปีเราคาดยังลดลงจากผลผลิตที่จะเพิ่มขึ้นตามฤดูเก็บเกี่ยว ในขณะที่ต้นทุนในประเทศเวียดนามทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์ยังปรับตัวลดลง เราปรับประมาณการเพิ่มขึ้นสะท้อนราคาสุกรจีนและเวียดนามดีกว่าที่คาดไว้

คาดกำไรสุทธิ 2Q24F เติบโตแรง จากราคาสุกรจีนและเวียดนามดีขึ้น อัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้น

เราคาด CPF จะมีกำไรสุทธิ 2Q24F ที่ 5,180 ล้านบาท เทียบกับ 2Q23 ที่ขาดทุนสุทธิ 792 ล้านบาท และเทียบกับ 1Q24 ที่กำไรสุทธิ 1.152 ล้านบาท โดยหากไม่รวมการบันทึกกำไรจากสินทรัพย์ชีวภาพ 1,000 ล้านบาท เราคาดกำไรหลักจะอยู่ที่ 4,180 ล้านบาท จากเราคาดรายได้ทรงตัว YoYเนื่องจากมีการขายธุรกิจไก่บางส่วนในจีนปลายปีที่ผ่านมา แต่คาดรายได้เพิ่มขึ้น +7%QoQ จากทั้งไทย จีน เวียดนาม และรัสเซีย ดีขึ้น จาก 1) ราคาหมูในเวียดนามปรับตัวดีขึ้น จาก supply ที่ลดลงเนื่องจากการระบาดของโรค ASF ในปีที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ย 2Q24F อยู่ที่ 64,000 VGN/kg (+16%YoY, +20%QoQ) มากกว่าต้นทุนการเลี้ยงที่ 45,000 VGN/kg และราคาสุกรในจีนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 16.4 RMB/kg (+15%YoY, +10% QoQ) เริ่มทำกำไรได้จากต้นทุนการเลี้ยง 16 RMB/kg จาก demand ที่เพิ่มขึ้น สำหรับราคาหมูไทยอยู่ที่เฉลี่ย 68 บาท/กก. (-6%YoY, +4%QoQ) ยังต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยงอยู่ที่เฉลี่ย 70 บาท/กก. 2) ธุรกิจไก่ดีขึ้น จากการส่งออกและราคาไก่ที่เพิ่มขึ้น ราคาไก่ไทยเฉลี่ย 2Q24 ที่ 44 บาท/กก. (-1%YoY, +8%QoQ) สูงกว่าต้นทุนที่เฉลี่ย 38-39 บาท/กก. คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น YoY, QoQ โดยราคากากถั่วเหลืองอาหารสัตว์ลดลงจากผลผลิตการเก็บเกี่ยวที่เพิ่มขึ้น และข้าวโพดอาหารสัตว์ลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล เราคาดบริษัทรับรู้กำไรจากบริษัทร่วมทุนเพิ่มขึ้น QoQ จาก Hylife จะขาดทุนลดลงหลังปิดกิจการธุรกิจฟาร์มสุกรในสหรัฐฯ การส่งออกในแคนาดาเริ่มทำกำไร และบริษัทร่วมทุน Chia Tai ทำธุรกิจสุกรและอาหารสัตว์ในจีนคาดขาดทุนลดลง แต่คาดกำไรจาก CPALL และ CPAXT ลดลง QoQ คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารใกล้เคียงปีที่ผ่านมา

ปรับประมาณการเพิ่มขึ้น สะท้อนจากธุรกิจสุกรในเวียดนามและจีนดีกว่าคาด

แนวโน้มผลประกอบการ 3Q24F เราคาดยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากแนวโน้มราคาปศุสัตว์ไก่และสุกรที่เริ่มดีขึ้นต่อเนื่อง และต้นทุนโดยรวมยังลดลง เราปรับประมาณการเพิ่มขึ้นปี 2024-26F จากเดิม 158%, 89% และ 61% ตามลำดับ จากคาดรายได้ในธุรกิจเวียดนามปี 2024F เพิ่มขึ้นจากคาดเดิม 12% คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 23% ของรายได้รวม จาก demand ที่เพิ่มขึ้นและ supply ที่ลดลงจากปัญหาโรค ASF ระบาดในปีที่ผ่านมา คาดราคาหมูเวียดนามอยู่ที่ 68,000 VGN/kg เพิ่มจากคาดเดิม 18% และคาดธุรกิจสุกรในจีนเพิ่มขึ้นจากคาดเดิม 12% จาก demand ที่เพิ่มขึ้น คาดสัดส่วนรายได้ในจีน 5% ลดลงจาก 7%YoY เนื่องจากการขายธุรกิจไก่ในจีน 4 บริษัทปลายปีที่ผ่านมา สำหรับไทยเราคาดราคาไก่ไทยในประเทศอยู่ที่เฉลี่ย 44 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากคาดเดิม 11%, คาดราคาสุกรไทยอยู่ที่ 70 บาท/กก. ลดลงจากเดิม 4% คาดอัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้นจากคาดเดิม จากราคาปศุสัตว์ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาต้นทุนกากถั่วเหลืองอยู่ที่ 21 บาท/กก. และข้าวโพดอาหารสัตว์อยู่ที่ 11 บาท/กก. โดยในช่วง 2Q24 ราคาข้าวโพดอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นจากปัจจัยฤดูกาล แต่เราคาดราคาจะปรับลงได้ในช่วงเดือนก.ย.หลังจากเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวอีกครั้ง เราคาดการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรขาดทุนจากบริษัทร่วมทุนเพิ่มขึ้นจาก CPALL และ CPAXT และธุรกิจร่วมทุนในจีนทุน Chia Tai Investment : CTI (26.69%) ทำธุรกิจสุกรและอาหารสัตว์ในจีนขาดทุนลดลง

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจากการปรับประมาณการอยู่ที่ 29.50 บาท อ้างอิงวิธี sum-of-the-part โดย CPF โดยราคาปัจจุบันมีระดับ PER24F ที่ 12.6X, Dividend Yield 24F อยู่ที่ 3.7% ความเสี่ยง : ความผันผวนของราคาปศุสัตว์ และต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์, โรคระบาด และภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวกระทบต่อ demand ที่ซบเซา