News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นไทยรายวัน

8 ก.ค. 2567 08:45:45 593

Market Wrap-Up

SET วันที่ 5 ก.ค.67 ปิด +10.95 จุด อยู่ที่ 1,311.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 32,907 ลบ.ต่างชาติซื้อ 1,688 ลบ.สถาบันซื้อ 785 ลบ.รายย่อยขาย 2,156 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 1,997 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น KCE,BDMS,EA,BH,PTTEP และมียอดขายสุทธิ MINT,SCB,HANA,BTS,CPF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,472 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TPIPL-R,CBG,TIDLOR-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 6,720 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 46,038 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,612 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.17%, S&P500 +0.54%, Nasdaq +0.90% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, บริการสื่อสาร เช่น Microsoft +1.5% และ Meta Platform +5.9% ปิดทำจุดสูงสุด หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ มิ.ย.ลดลง บ่งชี้โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.18% จากแรงขายกลุ่มธนาคาร -0.9%, พลังงาน -1.0% ระหว่างรอผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบที่ 2

Market View

DJIA +0.66% S&P500 +1.95%, Nasdaq +3.5% WoW ได้ปัจจัยหนุนจาก CME Fed Watch ชี้โอกาส 72% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. และลดอีก 1 ครั้งใน ธ.ค. นี้ หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ มิ.ย. ชะลอตัวอยู่ที่ 206,000 & พ.ค. 218,000 ตำแหน่ง, อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1% และค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยราย ชม. ลดลงอยู่ที่ 0.3% & พ.ค. 0.4% MoM บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐมีสัญญาณชะลอตัวลง ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้วันที่ 9 – 10 ก.ค. ปธ.เฟดจะแถลงนโยบายเศรษฐกิจ & การเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส ซึ่งจะเปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจ & เงินเฟ้อของสหรัฐ และวันพฤหัสรายงาน US CPI มิ.ย. คาดที่ 3.1% & พ.ค. 3.3% YoY
Stoxx600 ยุโรป +1.0% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลังเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. นี้ กอปรกับ CPI ยูโรโซน มิ.ย. ลดลงอยู่ที่ 5% & พ.ค. 2.6% YoY และ PMI ภาคบริการยูโรโซน มิ.ย. ลดลงอยู่ที่ 48.8 บ่งชี้โอกาสที่ ECB จะลดดอกเบี้ยอีกครั้งใน ก.ย. ส่วนผลการเลือกตั้งอังกฤษนั้น พรรคแรงงานชนะเลือกตั้งด้วยคะแนน 411 เสียง, พรรคอนุรักษ์นิยมได้ 121 เสียง และยังรอผลเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบที่ 2
MSCI Asia Pacific X.Japan Index +1.7% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดเอเชียเหนือที่ปรับขึ้นตาม Nasdaq หลังเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้นใน ก.ย. ส่วนดัชนีนิเกอิ +3.3% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มส่งออกที่ได้อนิสงค์จากค่าเงินเยนอ่อนค่า และกลุ่มธนาคารที่ได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวมีแนวโน้มสูงขึ้น ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.59% WoW หลัง Caixin PMI ภาคบริการจีน มิ.ย.ชะลอตัว โดยสัปดาห์นี้ติดตาม CPI, PPI, และส่งออก - นำเข้าจีน มิ.ย. ที่บ่งชี้แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
SET ปิด +0.85% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 1 หมื่น ลบ. -21.6% WoW สถาบันซื้อ 3,282 ลบ.ต่างชาติขาย 845 ลบ. รายย่อยขาย 1,043 ลบ พอร์ตโบรกขาย 1,392 ลบ. WoW โดยกลุ่มอิเล็กฯ +2.8% หลัง US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.3% กอปรกับได้รับกระแสบวกของกลุ่มผู้ผลิตชิป AI ส่วนกลุ่มธนาคาร +2.5% มีแรงซื้อเก็งกำไรก่อนการรายงบ Q2/67 ในสัปดาห์หน้า และกลุ่มค้าปลีก +1.0% ตอบรับคามคืบหน้าโครงการดิจิทัล วอลเล็ตที่รัฐบาลจะเริ่มให้ลงทะเบียนยืนยันตัวตนใน ก.ค. นี้ ขณะที่กลุ่มที่ปรับลดลง คือ บรรจุภัณฑ์ -2.6% และขนส่ง -1.7% โดยภาพรวมดัชนี SET เริ่มฟื้นตัวหลังปริมาณ Short Sell ลดลงอยู่ที่เฉลี่ยต่ำกว่า 2 พัน ลบ./วัน & เดิมเฉลี่ยราว 4 พัน ลบ./วัน หลังเริ่มใช้ ม. Up-Tick Rule ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มปิดความเสี่ยงด้าน Short กลับมามีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 5.39 หมื่นสัญญา WoW ขณะที่สถาบันเป็นผู้ซื้อสุทธิหลัก หลัง Valuation ของดัชนีอยู่ในโซนต่ำเทรดที่ F/PE 14X กอปรกับสัปดาห์นี้ ก.คลังอาจนำเรื่องการปรับเกณฑ์ใหม่กองทุน Thai ESG เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ส่วนประเด็นการเมืองวันพุธนี้ศาล รธน.นัดฟังคำสั่งกรณีคุณสมบัตินายกฯ เศรษฐา ซึ่งหากศาลไม่มีการนัดไต่สวนเพิ่มเติม คาดจะสามารถนัดวินิจฉัยคดีได้ราวปลาย ก.ค. – ต้น ส.ค. นี้

Daily Strategy

วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,300 แนวต้าน 1,325 คาดได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. กอปรกับเม็ดเงินใหม่จากกองทุน TESG แนะนำทยอยซื้อกลุ่มที่มีเรตติ้ง ESG ที่ AAA และมีสถานะ Short สูง เช่น PTTEP,KBANK,OR,TOP,KTC,TISCO /ค้าปลีก CPALL,CPAXT,BJC,COM7,SYNEX ได้ประโยชน์จาก ม.ดิจิทัล วอลเล็ต/ และกลุ่มอิเล็กฯ & โรงไฟฟ้า DELTA,KCE,GULF,GPSC (+US Bond Yield ลดลง )
SYNEX* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.20 บาท) แนวโน้ม 2Q67 คาดรายได้ฟื้นตัวได้ YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน ขณะที่ QoQ มันพอมีแรงหนุนจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ช่วยลดผลกระทบ low season ทั้งนี้หากมองข้ามไปใน 2H67 น่าจะได้รับประโยชน์จากความต้องการ Upgrade สินค้า AI PC & Mobile ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐในเรื่อง Digital wallet ส่วนสินค้าในกลุ่ม Commercial น่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ตามการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ทั้งนี้อิงจาก Consensus 9ลาดคาดกำไรสุทธิในปี 67-68 ที่ 623 ล้านบาท +21%YoY และ 707 ล้านบาท +13%YoY
SAV (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q67 อยู่ที่ 94 ลบ., +40.68%QoQ, +207.30%YoY ปัจจัยบวกหลัก คือ จำนวนเที่ยวบินรวมที่ยังมี Gap การฟื้นตัวPost Covid-19 ออกมาที่ +9%YoY +3%QoQ จากแรงหนุนของเที่ยวบินนานาชาติที่ +26%YoY +6%QoQ ด้านการดำเนินงาน 2Q67 นี้ คาดว่าจะยังเป็นบวกฟื้นตัวต่อได้ YoY และมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจาก AirAsia Cambodia ที่เริ่ม operate ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และ ช่วงเดือนมิ.ย. Angkor AIR เปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่ระหว่าง นิวเดลี และ พนมเปญ ทั้งนี้ ปัจจุบัน เราคาด กำไรสุทธิ SAV ในปี67 ที่ 507 ลบ.(+31%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ส.ค. -$0.72 อยู่ที่ $83.16 / บาร์เรล, Brent ก.ย. -$0.89 อยู่ที่ $86.54/บาร์เรล จากข่าวการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI +2.1%, Brent +0.4% WoW หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 12.2 ล.บาร์เรล

Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$28.30 อยู่ที่ $2,397.70/ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.24% อยู่ที่ 104.875 และ US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.278%

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ซื้อสุทธิ +142.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -23.19 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +161.12 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +4.32 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 36.41 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.30 %

(-) ดัชนี BDI ปิด -55 จุด อยู่ที่ 1,966

(-) BitCoinเช้านี้ -5.94% อยู่ที่ 54,512 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

09 ก.ค. ตลท.) แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์

สัปดาห์ที2 หอการค้าไทย ร่วมกับม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน

ต่างประเทศ

09 ก.ค. US คำแถลงการณ์ของพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ 10 ก.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ

11 ก.ค. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (มิ.ย.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

12 ก.ค. US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio July 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ

Analysts

Apichai Raomanachai