Market Wrap-Up
- SET วันที่ 3 ก.ค.67 ปิด +6.12 จุด อยู่ที่ 1,294.70 จุด มูลค่าการซื้อขาย 27,594 ลบ.ต่างชาติซื้อ 1,318 ลบ.สถาบันขาย 211 ลบ.รายย่อยขาย 838 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 1,392 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น KBANK,BBL,AOT,CPALL,SCB และมียอดขายสุทธิ BCP,CPF,KTC,MINT,GULF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,517 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TAE,TPIPL-R,TISCO โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 45,766 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 74,499 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 3,587 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.06%, S&P500 +0.51%, Nasdaq +0.88% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.48%, วัสดุ +0.81% หลัง ADP เผยการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ มิ.ย.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ส่งผลให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.74% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.6% และเหมืองแร่ +2.2% โดยรอผลการเลือกตั้งอังกฤษ, ฝรั่งเศส
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500, Nasdaq ปิดทำจุดสูงสุด หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณชะลอตัว เช่น ADP เผยการจ้างงานภาคเอกชน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 150,000 น้อยกว่าคาดที่ 160,000 ตำแหน่ง และ ISM ดัชนีภาคบริการสหรัฐ มิ.ย. อยู่ที่ 48.8 & พ.ค. 53.8 ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ดังนั้น CME Fed Watch ชี้โอกาส 68.4% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ใน ก.ย. ค่ำวันนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดในวันชาติ และวันศุกร์รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ มิ.ย. คาด 189,000 & พ.ค. 272,000 ราย, อัตราว่างงานสหรัฐ มิ.ค. คาดทรงตัวที่ 4%
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ เช่น ASLM, BESI ของเนเธอร์แลนด์ จากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. โดยวันนี้ติดตามผลการเลือกตั้งอังกฤษ โดยโพลชี้พรรคแรงงานมีคะแนนนำพรรคอนุรักษ์นิยมของนายก ฯ ซูนัก และวันอาทิตย์ รอผลการเลือกรอบที่ 2 ของฝรั่งเศส ว่าพรรคฝ่ายซ้าย & พรรคฝ่ายกลางของ ปธ.มาครง จะสามารถชนะพรรคฝ่ายขวาจัด (RN) ของนางเลอเปน หรือไม่
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.49% หลัง PMI ภาคบริการจีน มิ.ย.ลดลงอยู่ที่ 51.2 & พ.ค. 54.0 ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน บ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า ๆ และรอ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจากการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์วันที่ 15 – 18 ก.ค. ขณะที่ดัชนีนิเกอิ +1.26% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มส่งออก
- SET วานนี้ปิด +47% ปริมาณการซื้อขาย 2.75 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,318 ลบ. สถาบันขาย 211 ลบ พอร์ตโบรกขาย 268 ลบ. และรายย่อยขาย 838 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็กฯ+1.0%, โรงไฟฟ้า +0.7% หลัง US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.35% จากการคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ส่วนกลุ่มธนาคาร +0.9% เป็นการฟื้นตัวก่อนการรายงบในสัปดาห์หน้า ซึ่ง Bloomberg Consensus คาดกำไร Q2/67 กลุ่มธนาคาร -3.3% QoQ, -0.4% YoY จากภาวะสินเชื่อที่ยังฟื้นตัวช้า ส่วนปัจจัยทางเศรษฐกิจวานนี้ World Bank ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้ลงอยู่ที่ 2.4% & เดิมคาดที่ 2.8% YoY สาเหตุจากการส่งออกและการลงทุนภาครัฐขยายตัวน้อยกว่าคาด ขณะที่ปัจจัยการเมือง ศาล รธน.นัดฟังคำสั่งคดียุบพรรคก้าวไกลอีกครั้งในวันที่ 17 ก.ค. ซึ่งคาดจะมีการไต่สวนพยาน โดยสัปดาห์หน้าวันที่ 10 ก.ค. นัดฟังคำสั่งกรณีคุณสมบัตินายก ฯ ซึ่งคาดปัจจัยด้านการเมืองจะลดลงแรงกดดันต่อดัชนีในช่วง 1 – 2 เดือน โดยรอการวินิจฉัยในราว ก.ย. นี้
Daily Strategy
- ประเมินดัชนี SET มีโอกาสฟื้นตัวโดยมีแนวรับที่ 1,290 แนวต้าน 1,300 – 1,305 จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อ Fund Flow ในตลาดอาเซียน แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอาหาร & เครื่องดื่ม CPF,CBG,OSP,ITC/ กลุ่มโรงกลั่น TOP,BCP จากการค่าการกลั่นที่ฟื้นตัว /กลุ่มอิเล็ก ฯ & โรงไฟฟ้า DELTA,HANA,KCE,GULF,GSPC ตาม US Bond Yield ปรับลดลง
- CBG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 80.00 บาท) แนวโน้มกำไร 2Q67 ฟื้นตัวได้ดีทั้ง QoQ, YoY แนวโน้มสินค้าเครื่องดื่ม energy drink มีโอกาสฟื้นตัวจากการได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่ม ขณะที่ตลาดในต่างประเทศเติบโตจากกัมพูชา และได้ประโยชน์ในเรื่องต้นทุนน้ำตาลที่ลดลง และต้นทุนอลูมิเนียมที่ล็อกเอาไว้ใน 1H67 ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเบียร์น่าจะผ่านจุดต่ำสุดของปีใน 1Q67 แล้ว ยอดขายใน 2Q67 ฟื้นตัวในช่วงเทสกาล และตั้งเป้าขายผ่านช่องทาง traditional trade มากขึ้น ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67-68 อยู่ที่ 55 พันล้านบาท +33%YoY และ 2.87 พันล้านบาท +13%YoY
- GFPT* (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 15.00 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q67 +QoQ +YoY ปัจจัยบวกหลัก คือ เนื้อไก่แปรรูปส่งออกที่ Volume ขาย +20.3%YoY(+กลุ่มลูกค้า UK/EU) ขณะที่ฝั่ง Equity Icome +115%YoY จากการส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุกของทั้ง GFN และ McKey ด้านการดำเนินงาน 2Q67 คาดว่าจะยังอยูในเกณฑ์ดี มูลค่าการส่งออกของไทยเดือนเม.ย.-พ.ค.67 ไก่สด+2%YoY(คิดเป็น 63%เทียบ 1Q67) ไก่แปรรูป+21%YoY(คิดเป็น 72%เทียบ 1Q67) ส่วนราคาขายไก่ไทยยังมีแนวโน้มที่ดี ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ GFPT* จะอยู่ที่ระดับ 1,625 ลบ.(+18.1%YoY) และ 1,732 ลบ.(+6.6%YoY) ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ส.ค. +$1.07 อยู่ที่ $83.88 / บาร์เรล, Brent ส.ค. +$1.10 อยู่ที่ $87.34/บาร์เรล ได้แรงหนุนหลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 12.2 ล.บาร์เรล & คาดจะลดเพียง 689,000 บาร์เรล
Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$36.0 อยู่ที่ $2,369.40/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. หลังตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ มิ.ย. ชะลอตัวลง
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP ซื้อสุทธิ +74.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +35.87 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +37.81 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +0.37 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 36.59 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.36 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -115 จุด อยู่ที่ 2,064
(-) BitCoinเช้านี้ -2.96% อยู่ที่ 60,238 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย
ต่างประเทศ
01 ก.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มิ.ย.)
02 ก.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มิ.ย.)
US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs ( พ.ค.)
03 ก.ค. US วันชาติ - ปิดทำการก่อนกำหนด ณ เวลา 13:00
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP) (มิ.ย.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มิ.ย.)
04 ก.ค. US วันชาติ
US รายงานการประชุม FOMC
05 ก.ค. US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)
US อัตราการว่างงาน (มิ.ย.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio June 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th