AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ยืนสร้างฐานเพื่อกลับขึ้น
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่ Earnings 2Q67E ดูสวย

Market Strategy
SET Index ยืนสร้างฐานตามกรอบ 1290-1310 จุด ผลของการใช้มาตรการ Uptick Rule เพื่อลดแรงกดดันของ Short Sales เห็นผลเด่นชัด สะท้อนจาก %Short Sales Value วานนี้อยู่ที่ 3.7% ลดลงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีที่ 12.2% ซึ่งหากเทียบกับรอบการใช้มาตรการ Uptick Rule รอบก่อนช่วงปี 2020 พบว่า %Short Sales Value เฉลี่ยอยู่ที่ 1%เท่านั้น จึงมองแรงกดดันจากนี้ Short Sales ยังมีช่องว่างให้ลดลงซึ่งเป็นตัวช่วยจำกัด Downside ของตลาดและค่อยเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมาในท้ายที่สุด

อีกมุมหนึ่งที่ให้ความสนใจ คือ สัญญาณบวกจากการ Cover Short ที่สัดส่วนวานนี้ขึ้นมาอยู่ที่ 78% สูงสุดในรอบ 3 เดือน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณชี้นำต่อการ Cover Short ในหุ้นอื่นๆที่ยังดำเนินต่อไป ทั้งนี้ 5 หุ้นที่ถูก Cover Short สูงสุดในเชิงมูลค่าวานนี้ประกอบด้วย AOT DELTA PTTEP BBL และ CPALL
ส่วนปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ สินทรัพย์เสี่ยงวานนี้ฟื้นตัวเป็นส่วนใหญ่ นำโดยฝั่งสหรัฐฯ การรายงานตัวเลข ISM ภาคผลิตเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 48.5 ต่ำกว่าตลาดคาด 49.1 และต่ำกว่าเดือนก่อนที่ 48.7 สะท้อนภาคการผลิตสหรัฐฯอยู่ในภาวะหดตัว ทำให้ตลาดคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยฯของ FED เดือน ก.ย. ด้วยโอกาส 58% หนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้น 0.13%-0.8% ด้านยุโรปตลาดหุ้นปรับขึ้นเกือบ 1% หลังตลาดคลายความกังวลต่อผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบแรก ด้านราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 1.8% จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพิ่มขึ้น กลยุทธ์การลงทุนวันนี้เลือกหุ้นที่ Earnings Outlook 2Q67E เติบโตดีชอบ TTB และ ADVANC

Market Summary
SET Index ปรับลง 1.6 จุด ด้วยมูลค่าการซื่้อขายเบาบาง 2.97 หมื่นล้านบาท กลุ่มที่กดดันมาจาก AOT -2% กลุ่ม ร.พ. BDMS -2.8% และกลุ่มค้าปลีกที่ CRC -1.6% HMPRO -2.2% จาก SSSG ฟื้นช้า ส่วนกลุ่มที่ปรับขึ้นดีกว่าตลาดคาด ICT อย่าง ADVANC +1% กลุ่มเครื่องดื่ม OSP +2.6% คาดว่าผลประกอบการ 2Q67 มีแนวโน้มเติบโตดี ส่วนกลุ่มอื่นๆที่ปรับขึ้น EA +11.6% จากผู้บริหารออกมาเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ ADVANC TTB

TTB เด่นกว่ากลุ่มทั้งการเติบโตงบ 2Q67
และอัตราจ่ายปันผล 1H67
กำไร 2Q67E คาดว่าจะรายงานการเติบโตของกำไรสูงสุดในกลุ่มฯ โดยอยู่ที่ +1%QoQ และ 17% YoY (ดีกว่ากลุ่มธนาคารที่เราคาด -6%QoQ และ -1%YoY) แรงหนุนหลักมาจาก NIM ที่สูงขึ้นและสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ด้านกำไรต่อหุ้นในปี 67 คาดเติบโต 16%YoY มากกว่ากลุ่มฯที่คาดกำไรขยายตัว 6%YoY ช่วยหนุนต่อการจ่ายเงินปันผลของที่สามารถจ่ายอัตราที่สูงถึง 8% ต่อปี เทียบกับกลุ่มที่จ่ายปันผล 7% โดยเราคาด TTB จะแบ่งจ่ายปันผลในช่วง 1H67 ที่ 3.5%
เรายืนยัน ซื้อ พร้อมเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 2.10 บาท (P/BV ปี 67 ที่ 0.84 เท่า และ ROE 9.5%) จาก 2.00 บาท หลังจากที่เราเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้นปี 67-69 ขึ้น 2-5% เพื่อสะท้อนการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เร็วขึ้น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 2.10 บาท

ADVANC กำไรโตแกร่งใน 2Q67
เราคาด 3 ปัจจัยหลักในเชิงพื้นฐานที่จะสนับสนุนราคาหุ้นประกอบด้วย 1) กำไรหลักจะเติบโต 16% ในปี 67 2) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 67 อยู่สูงที่ 5% และ 3) ราคาถูกเมื่อเทียบกับ TRUE และบริษัทโทรคมนาคมในอาเซียน ราคาเป้าหมายอิง DCF ของเรายังคงอยู่ที่ 257 บาท (WACC 7.7%, Terminal Growth 2.0%)
ด้านผลประกอบการ 2Q67 เราคาดว่ารายได้จากการให้บริการและอัตรากำไรของเครื่องโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนกำไรหลักแตะ 8.6 พันล้านบาท (+20.6% YoY, +0.3%QoQ) ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทจะปรับเพิ่มเป้าหมายผลประกอบการของปี 67 ในเดือนส.ค. 67
นอกจากนี้เชื่อว่า ADVANC จะได้ประโยชน์จาก TESG ใหม่ โดยเราคาดว่าจะมีเม็ดเงินในช่วง 960-1600 ล้านบาท หนุนราคาหุ้นในระยะถัดไป
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 257.00 บาท

KEY FACTOR
ตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจภาคการผลิตต่างประเทศ ภาพรวมถือว่ายังสะท้อนการฟื้นตัวที่ผสมผสานและมีความเสี่ยง 1) S&P Global PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. รายงานครั้งสุดท้าย อยู่ที่ระดับ 51.6 ใกล้เคียงกับที่คาด 51.7 2) ISM ภาคการผลิตสหรัฐฯ 48.5 ตำกว่าที่คาด 49.1 อยู่เล็กน้อย 2) HCOB ภาคการผลิตของ Eurozone อยู่ที่ 45.8 ใกล้เคียงคาดที่ 45.6 3) Caixin ภาคการผลิตจีน 51.8 สูงกว่าคาด 51.5
ส่วนปัจจัยภายในประเทศมีพัฒนาการเชิงบวกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและพยุงตลาด 1) หลังเริ่มต้นมาตรการ uptick rule เริ่มเห็นสัญญาณปริมาณการซื้อขายทั้งในภาพรวม (ลดลงทำจุดต่ำสุดตั้งแต่ 5 เม.ย. แตระดับ 2.97 หมื่นลบ. 2) ในระยะสัปดาห์ติดตามความคืบหน้าการต่ออายุ SSF และรายละเอียดกองทุนวายุภักษ์ ในขณะเดียวกันกระแสเงินทุนต่างชาติชะลอแรงขาย พลิกซื้อสุทธิครั้งแรกในรอบ 28 วันทำการ +337.97 ล้านบาท

Eyes on
2 ก.ค. CPI ของ Eurozone
3 ก.ค. การจ้างงานเอกชน ADP, S&P Global PMI ภาคบริการ, ยอดสั่งซื้อโรงงาน, ISM ภาคบริการ, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, HCOB ภาคบริการ Eurozone, Caixin ภาคบริการ
5 ก.ค. การจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน, CPI

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ