Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

488

 


AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ย่อมาเป็นจังหวะสะสม
กลยุทธ์เลือกหุ้นมีปัจจัยบวกหนุนเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index คาดวันนี้ลุ้นรีบาวน์ตามกรอบ 1300-1320 จุด บนความคาดหวังการเกิด Window Dressing และปัจจัยแวดล้อมที่ไม่ได้มีแรงกดดันเพิ่ม เริ่มจากปัจจัยต่างประเทศการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาผสมผสานโดย GDP1Q67 ครั้งสุดท้ายอยู่ที่ 1.4%QoQ Annualized ดีกว่ารอบก่อนที่คาด 1.3%QoQ แต่อย่างไรก็ตามมีสัญญาณชะลอลงของภาคการบริโภคสะท้อนจากการบริโภคส่วนบุคคล 1Q67 ขยายตัว 1.5% ลดลงจากรอบก่อนที่ 2% สะท้อนภาพเศรษฐกิจมีสัญญาณชะลอความร้อนแรง ทำให้ตลาดยังคาด FED จะลดดอกเบี้ยในปีนี้ในช่วง 1-2 ครั้ง ลดแรงกดดันจาก U.S. Bond เร่งตัว หนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวในช่วง 0.1-0.3% และวันนี้ติดตามการรายงาน Core PCE สหรัฐฯเดือน พ.ค. คาด 2.6%YoY ชะลอลงจากเดือนก่อนที่ 2.8%YoY
ด้านปัจจัยในประเทศวันนี้ FETCO หารือคลัง ในส่วนการดำเนินการกองทุน SSF หลังหมดอายุในปีนี้ รวมถึงรายละเอียดเพิ่มเติมกองทุนวายุภักษ์ใหม่ ส่วนประเด็นอื่นๆให้ความสนใจไปที่ภาวะตลาดวานนี้เรามองเห็นสัญญาณชี้นำในทางบวกอ่อนๆ คือ 1)การปรับลงด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 3.4 หมื่นล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่เฉลี่ย 4.3 หมื่นล้านบาทและ 2) มูลค่า Short Sales ที่เริ่มชะลอลงหลังวานนี้มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 4.5 พันล้านบาทเป็นระดับต่ำหากเทียบกับวันที่ SET ปรับลงมากกว่า -0.5% ใน 1 เดือนที่ผ่านมาพบว่าการ Short โดยปกติจะอยู่ระดับสูงเฉลี่ย 6.5 พันล้านบาท ขณะที่สัปดาห์หน้าการใช้ Uptick Rule เริ่มใช้เชื่อการ Short จะทำได้ยากขึ้นไปอีก กลยุทธ์การย่อตัวของ SET เป็นจังหวะสะสมวันนี้เลือก GULF TTB

Market Summary
SET Index ปรับลง 9.69 จุด โดยระหว่างวันแกว่งผันผวนจาก Rollover Futures Series M โดยกลุ่มที่กดดันตลาดมาจากกลุ่มพลังงาน EA -12% กลุ่ม
ธ.พ.จากผลประกอบการ 2Q67 ที่คาดชะลอลง QoQ โดย SCB และ BBL เกือบ -2% กลุ่มขนส่ง AOT -0.9% ส่วนกลุ่มที่ Outperform หลักมาจากกล่ม ร.พ. โดยเรามีมุมมองแนวโน้มกำไรที่เติบโตดีตั้งแต่ 3Q67 โดย BH +2.0% BDMS +0.9% ต่างชาติขายสุทธิ 2.4 พันล้านบาท


ATO Daily Stock Picks
แนะนำ GULF TTB

TTB เด่นกว่ากลุ่มทั้งการเติบโตงบ 2Q67
และอัตราจ่ายปันผล 1H67
เราคงคำแนะนำ ซื้อ และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 2.10 บาท (P/BV ปี 67 ที่ 0.84 เท่า และ ROE 9.5%) จาก 2.00 บาท หลังจากที่เราเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้นปี 67-69 ขึ้น 2-5% เพื่อสะท้อนการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เร็วขึ้น
เราคาดการณ์ ROE ที่ 9.7 % ในปี 69 จาก 8.2% ในปี 66 เนื่องจาก (1) การปรับสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อ (2) เงินปันผลที่เพิ่มขึ้น (3) งบดุลที่รอบคอบประเมินกำไรต่อหุ้นในปี 67/68 จะเติบโต 16% และ 10% YoY เงินปันผลสูง 8% ต่อปี (ดีกว่ากลุ่มที่กำไรโต 6% และปันผล 7%)
ขณะที่กำไร 2Q67E คาดว่าจะรายงานการเติบโตของกำไรสูงสุดในกลุ่มฯ โดยอยู่ที่ 17% YoY เนื่องจาก NIM ที่สูงขึ้นและสิทธิประโยชน์ทางภาษีแถมยังให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุด 3.5% ใน 1H67 อีกด้วย จึงมองการอ่อนตัวเป็นจังหวะสะสม
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 2.10 บาท

GULF กำไรเติบโตแกร่ง
มี Sentiment บวกหนุน
ระยะสั้นได้ Sentiment บวกหนุนจาก U.S. Bond Yield ที่ปรับลงหลังการรายงานตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯออกมาอ่อนแอ เพิ่มความเชื่อต่อการปรับลดดอกเบี้ยฯของ FED ในปีนี้ นอกจากนี้จากสถิติ 3 ปีย้อนหลังพบว่า GULF เป็นหนึ่งในหุ้นเป้าหมายสำหรับการทำWindow Dressing 2Q67
กำไรหลักทั้งปี 67 คาดขยายตัว 13% YoY เป็น 1.76 หมื่น ลบ. แรงหนุนจากการขยายกำลังการผลิต 20% ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจาก 1) COD ของโครงการ GPD หน่วยที่ 3 (464 MWe) และหน่วยที่ 4 (464 MWe) และ 2) COD ของโครงการหินกอง ยูนิตที่ 1 (377 MWe) นอกจากนี้ เราคาดว่าธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ของบริษัทจะดีขึ้น เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติจะลดลง โดยกำลังการผลิต SPP คิดเป็น 16% ของกำลังการผลิตรวมของ GULF
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 57.00 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นไทยผันผวนสูง ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของสัญญาอนุพันธ์เดือน มิ.ย. ที่คาดว่าจะมีการปิดสถานะ / Roll over ในขณะเดียวกันยังโดนแรงขายกระแสเงินทุนต่างชาติ ต่อเนื่องอีก 2.39 พันลบ. สะสมขายต่อเนื่องมา 26 วันติด ตั้งแต่ 21 พ.ค. รวม -4.9 หมื่นลบ. แต่อย่างไรก็ตามปริมาณการซื้อลดลงต่ำที่สุด MTD ที่ 3.42 หมื่นลบ.
ตลาดหุ้นต่างประเทศเข้าสู่ช่วงการทยอยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ 1) GDP 1Q67 (รายงานครั้งที่ 3) ขยายตัว +1.4% QoQ เป็นไปตามที่ Consensus คาดไว้ และสูงกว่าประมาณการครั้งที่สองที่ +1.3% 2) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ 233,000 ราย ต่ำกว่าที่ Consensus คาด 236,000 ราย อยู่เล็กน้อย ส่วนในคืนนี้จะมีการรายงานตัวเลข PCE เดือน พ.ค. ซึ่ง Consensus คาดขยายตัว +2.6% YoY และ ทรงตัว MoM จาก +2.7% YoY และ +0.3% MoM ในเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกับ Core PCE ที่คาด +2.6% YoY ชะลอลงจาก +2.8%YoY ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งน่าจะช่วยยืนยันมุมมองตลาดที่ให้น้ำหนัก Fed ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปีนี้


Eyes on
28 มิ.ย. PCE ของสหรัฐฯเดือน พ.ค.


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้