Company Note
Neo Corporate
คาดผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่งจากทั้งรายได้และอัตรากำไร
กำไรสุทธิมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง 81% YoY เป็น 282 ล้านบาท จากทั้งรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่เริ่มมีการส่งออกสินค้าไปยังลูกค้าใหม่ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นทำให้ลดการพึ่งพาลูกค้าหลักอย่างเวียดนามในระยะยาว ขณะที่ข้อมูลจากสศอ.ยังเห็นการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์สบู่และน้ำยาปรับผ้านุ่มเติบโตดีต่อเนื่อง 12% และ 10% YTD ตามลำดับ (รูปที่ 3,4) ส่วนตลาดผงซักฟองที่ไม่เติบโต YTD ยังสะท้อนถึงภาพการหันไปใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดน้ำต่อเนื่อง แนวโน้ม 2H24F รายได้น่าจะยังเติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยฤดูกาล ความสามารถในการแย่งชิงส่วนแบ่งจากคู่แข่งและการออกสินค้าใหม่ในกลุ่ม Silver Age/Premium เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยปรับราคาเป้าหมายเป็น 64.75 บาท
คาดกำไรสุทธิ 2Q24F ที่ 282 ล้านบาท (+81% YoY, +5% QoQ)
เราคาดรายได้เติบโต 11% YoY เป็น 2,550 ล้านบาท จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า Silver age รวมถึงการเริ่มส่งออกสินค้าไปยังลูกค้าใหม่ 2 รายในต่างประเทศได้แก่ บาห์เรนและปากีสถาน ขณะที่เราคาด GPM จะอยู่ที่ 45.8% เพิ่มขึ้นจาก 42.5% ใน 2Q23 เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลงและการเพิ่มสินค้าในกลุ่ม Premium มากขึ้น ส่วน SG&A to sales คาดอยู่ที่ 31.4% ลดลงจาก 33.7% ใน 2Q23 เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เราคาด NPM ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 11.0% จาก 6.8% ใน 2Q23 และ 10.8% ใน 1Q24
แนวโน้มช่วง 2H24F ยังเติบโต YoY
ผลประกอบการในช่วง 2H24F ยังเติบโตแข็งแกร่ง YoY จาก 1)การเร่งตัวขึ้นของยอดขายจากทั้งกลุ่ม Household และการส่งออก 2)ราคาวัตถุดิบที่กลับมาทรงตัวในระดับต่ำในช่วง พ.ค.-มิ.ย. (รูปที่ 2) 3)การเร่งตัวขึ้นของยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่วนแผนลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ยังคงมีการดำเนินการต่อเนื่อง ในขณะที่กำลังการผลิตใหม่จะเริ่มดำเนินการในช่วง 1Q25F
ประเมินมูลค่า
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าเหมาะสมใหม่กลางปี 2025F ที่ 64.75 บาท บน EPS โดยใช้ P/E ที่ 17.4x ความเสี่ยงได้แก่ การแข่งขันด้านราคารุนแรง, สินค้าบางส่วนถูกควบคุมด้านราคา, ต้นทุนมีความผันผวนสูงและความสำเร็จของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่