AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ยังขยับขึ้นได้อีก
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีได้ประโยชน์จาก TESG (ใหม่)
Market Strategy
SET Index คาดขยับกรอบขึ้นต่อ ตามกรอบ 1310-1330 จุด แรงหนุนหลักวันนี้จากการตีความแผนขับเคลื่อนตลาดทุนของ รมว.คลัง – ก.ล.ต. – ตลท. ซึ่งจุดที่สนใจอยู่ที่การออกมาตรการ TESG ใหม่ ที่ระยะเวลาการลงทุนอยู่ที่ 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ (จาก TESG เดิมถือครอง 8 ปีวันที่ซื้อ) และขยายวงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 3 แสนบาท (จาก TESG เดิม 1 แสนบาท) มีผล 2567-69 โดยระยะถัดไปคลังเตรียมเสนอ ครม. อนุมัติภายใน 2 สัปดาห์ โดยเรามองเป็นบวกต่อมาตรการ TESG ใหม่นี้ โดยเฉพาะประเด็นการลดระยะเวลาการถือครองที่สั้นลง โดยเราคาดเม็ดเงินจะเข้ากอง TESG ใหม่อยู่ในช่วง 3-5 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดจะเป็นปัจจัยหนุนต่อ SET Index ได้ในช่วง 5-8% นอกจากนี้ รมว. คลัง เผยกำลังศึกษาการออกกองวายุภักษ์ใหม่ หากเกิดขึ้นเรามองจะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ SET Index ต่อไป
หุ้นที่เราคาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการ TESG ใหม่ โดยมองใน 2 แง่มุม ประกอบด้วย 1.) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์ในแง่เม็ดเงิน TESG ไหลเข้าในระดับสูงชอบ CPALL GULF ADVANC CPN MINT 2.) หุ้นที่คาดเม็ดเงินไหลเข้าเทียบกับมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงชอบ SABINA CK ERW
สำหรับประเด็นอื่นๆ ในต่างประเทศยังขาดปัจจัยใหม่หนุนทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มมีแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มเทคฯ ที่ขึ้นแรงและเริ่มเห็นการเข้าหาหุ้นในกลุ่ม Laggard ส่งผลให้ NASDAQ -1% S&P500 -0.3% สวนทาง Dow Jones ปรับขึ้น 0.7% สภาพแวดล้อมข้างต้นจึงมองกระทบต่อตลาดหุ้นบ้านเราจำกัด
กลยุทธ์วันนี้เลือกหุ้นได้ประโยชน์จาก TESG ใหม่ ชอบ ADVANC และ SABINA
Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 10.32 จุด โดยแรงหนุนหลักมาจากหุ้นที่ยังฟื้นตัวช้า ซึ่งส่วนหนึ่ง เราเชื่อว่ามาจากการ Cover Short อาทิ กลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL +2.3% และ CPAXT +3.6% กลุ่ม ร.พ. BDMS +2.3% ด้านกลุ่มอสังหาฯ บวกเด่นจากตอบรับเชิงบวกต่อรัฐกำลังศึกษามาตรการกระตุ้นกำลังซื้อต่างชาติหนุน AP +2.4% SIRI +3.7% CPN +2.3% ส่วนกลุ่มที่ปรับลงมาจาก AOT -2.9% จากปัจจัยเฉพาะตัว
ATO Daily Stock Picks
แนะนำ ADVANC SABINA
SABINA งบแกร่ง ปันผลสวยมาก
ยอดขายยังคงเป็นบวกใน 2Q67 4% YoY โดยได้แรงหนุนจากคอลเลกชั่น 'Braless' ที่ขายดีต่อเนื่องหลังจากเปิดตัวเมื่อปีก่อน ขณะที่ความร่วมมือด้านชุดชั้นในและเสื้อผ้าชั้นนอกกับแบรนด์เจนสุดา และความร่วมมือของ Sabina Kids กับ 'Care Bears’ ที่ได้การตอบรับที่ดี ด้านอัตรากำไรขั้นต้นคาดเพิ่มขึ้น 37bps เป็น 50.0% จากสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของสินค้าจ้างผลิตที่อัตรากำไรสูง หนุนกำไร 2Q67 โต 4% YoY
กำไรจะแข็งแกร่งขึ้นใน 2H67 จากการบริโภคในประเทศที่ดีขึ้นและยอดขาย OEM ฟื้นตัวจากลูกค้ายุโรปในปัจจุบันและลูกค้าใหม่ในเอเชีย โดยเราคาดกำไรทั้ง 67 ขยายตัว 13% มีการจ่าย Dividend สูง 6.6% ต่อปี
SABINA จะได้ประโยชน์อย่างมาก จากเม็ดเงิน TESG คาดหนุนในช่วง 97-161 ล้านบาทเมื่อเทียบกับมูลค่าเฉลี่ยต่อวัน คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 13.2 เท่า
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 32.50 บาท
ADVANC กำไรโตแกร่งใน 2Q67
เราคาด3 ปัจจัยหลักในเชิงพื้นฐาน ที่จะสนับสนุนราคาหุ้นประกอบด้วย 1) กำไรหลักจะเติบโต 16% ในปี 67 2) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 67 อยู่สูงที่ 5% และ 3) ราคาถูกเมื่อเทียบกับ TRUE และบริษัทโทรคมนาคมในอาเซียน ราคาเป้าหมายอิง DCF ของเรา ยังคงอยู่ ที่ 257บาท (WACC7.7%,Terminal Growth 2.0%)
ด้านผลประกอบการ 2Q67 เราคาดว่ารายได้จากการให้บริการและอัตรากำไรของเครื่องโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนกำไรหลักแตะ 8.6 พันล้านบาท (+20.6% YoY, +0.3%QoQ) ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทจะปรับเพิ่มเป้าหมายผลประกอบการของปี 67 ในเดือนส.ค. 67
นอกจากนี้เชื่อว่า ADVANC จะได้ประโยชน์จาก TESG ใหม่ โดยเราคาดว่าจะมีเม็ดเงินในช่วง 960-1600 ล้านบาท หนุนราคาหุ้นในระยะถัดไป
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 257.00 บาท
KEY FACTOR
ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากความคาดหวังมาตรการพยุงตลาดทุน ทั้งความชัดเจนมากขึ้นของการเข้มงวดมาตรการ Short-selling ล่าสุด ตลท. ประกาศรายชื่อหุ้นที่สามารถ Short-selling อย่างเป็นทางการ ผสานกับกระทรวงการคลังปรับเงื่อนไขกองทุนรวม ThaiESG ที่ 1) ขยายวงเงินให้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ และ ซื้อได้ไม่เกิน 300,000 บาท จากเดิม 100,000 บาท 2) ปรับระยะเวลาการถือครองลดลงเหลือ 5 ปีเต็ม ทั้งนี้ MST ประเมินว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าราว 3 –5 หมื่นล้านบาท
ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศระยะสั้น ยังคงไม่มีปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ที่มีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเบาบางในช่วงต้นสัปดาห์ และน่าจะไปรอติดตามข้อมูล PCE ที่จะรายงาน 28 มิ.ย.
Eyes on
25 มิ.ย. ดัชนีราคาบ้านสหรัฐฯ
26 มิ.ย. ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค.
27 มิ.ย. GDP 1Q67 ของสหรัฐฯ (รายงานครั้งที่ 3)
28 มิ.ย. PCE ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค.
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ