News Feed

บล. คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

24 มิ.ย. 2567 09:20:18 617

Market Wrap-Up

SET วันที่ 21 มิ.ย.67 ปิด +8.12 จุด อยู่ที่ 1,306.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,463 ลบ.ต่างชาติขาย 1,580 ลบ.สถาบันซื้อ 108 ลบ.รายย่อยซื้อ 1,231 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 1,434 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น BCP,BBL,EGCO,SCB,BDMS และมียอดขายสุทธิ CPF,KCE,AOT,KBANK,PLANB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 5,584 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TPIPL-R,STEC-R,AURA-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 22,254 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 90,601 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 1,557 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.04%, S&P500 -0.16%, Nasdaq -0.18% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -0.84% หลัง Nvidia -3.2% ส่งผลให้หุ้นควอลคอมม์, บรอดคอม, ไมครอน เทคโนโลยี ปรับลดลงด้วย ส่วน NAR เผยยอดขายบ้านมือสอง พ.ค. -0.70% MoM ต่ำสุดในรอบ 30 ปี และ PMI รวมภาคผลิต & บริการสหรัฐ เบื้องต้น มิ.ย. เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 6 & พ.ค. 54.5 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.73% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -1.3% และธนาคาร -1.7% ส่วน PMI ภาคผลิต & บริการยูโรโซน เบื้องต้น มิ.ย.ลดลงอยู่ที่ 50.8 & พ.ค. 52.2 ต่ำสุดในรอบ 2 ปี

Market View

DJIA +1.45%, S&P500 +0.61%, Nasdaq +0.03% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, ผู้ผลิตชิป AI นำโดย Nvidia ที่ปรับขึ้นทำ New High แต่ถูกแรงขายทำกำไรจนราคาหุ้น -4.0% WoW หลังนักลงทุนคาดหวังเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ จากยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้น และยอดสร้างบ้านใหม่ & ยอดขายบ้านมือสอง พ.ค. ลดลง บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณชะลอตัว ขณะที่ PMI รวมภาคผลิต & บริการสหรัฐ มิ.ย. ขยายตัวสูงสุดในรอบ 26 ปี ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านยังหนุนให้ลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ โดยสัปดาห์นี้วันพฤหัสติดตาม US GDP Q1/67 ครั้งที่ 3 คาด +1.5% & ครั้งที่ 2 +1.3% QoQ และวันศุกร์ US Core PCE พ.ค. คาด 6% & เม.ย. 2.8% YoY เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยของเฟด
Stoxx600 ยุโรป +0.80% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีและธนาคาร หลังนักลงทุนลดความกังวลต่อภาวะการเมืองเมืองฝรั่งเศสที่จะจัดเลือกตั้งสภาผู้แทน ฯ ในวันที่ 30 มิ.ย. ขณะที่ BOE ยังคงดอกเบี้ยที่ 25% แต่ UK CPI พ.ค. ลดลงอยู่ที่ 2.0% YoY ส่งผลให้ตลาดคาดมีโอกาส 47% ที่ BOE จะลดดอกเบี้ยใน ส.ค.
MSCI Asia Pacific Index +0.70% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลัง US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 257% จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ กอปรกลุ่มผู้ผลิตชิปก็ปรับขึ้นตาม Nvidia และกระแสธุรกิจ AI ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -1.1% WoW หลังราคาบ้าน & ผลผลิตภาคอุต ฯ จีน พ.ค. ชะลอตัว แต่ ธ.กลางจีนยังคงดอกเบี้ยเงินกู้ LPR 1 ปี, 5 ปี ที่ระดับเดิม สัปดาห์นี้วันพฤหัส ติดตาม Toyko Core CPI มิ.ย. คาด 1.6% & พ.ค.1.7% YoY ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจนโยบายการเงินของ BOJ
SET ปิดทรงตัว -0.01% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 72 หมื่น ลบ. +14% WoW ต่างชาติขาย 1.06 หมื่น ลบ. รายย่อยซื้อ 8.9 พัน ลบ สถาบันซื้อ 590 ลบ. และพอร์ตโบรกซื้อ 1.1 พัน ลบ. ระหว่างสัปดาห์ SET ทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,281.87 จุด จากแรงขายหุ้นกลุ่ม รพ., ไอซีที่ ที่เป็นกลุ่มปลอดภัย และกลุ่มธนาคารจากความกังวลระดับ NPL อาจปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ อิเล็ก ฯ ที่ฟื้นตัวตามกระแส AI และอุต ฯ IC, เซมิคอนดักเตอร์ของไทยมีโอกาสฟื้นตัวใน 2H/67 ส่วนกลุ่มเกษตรได้แรงหนุนจากตัวเลขส่งออกไทย พ.ค. +7.2% ดีกว่าคาด +2% YoY โดยสินค้าที่ส่งออกได้ดี เช่น ไก่สดแช่แข็ง แปรรูป, อาหารสัตว์เลี้ยง, เครื่องดื่ม, ยางพารา, ถุงมือยาง และซอสพริก โดยดัชนีสามารถฟื้นจากภาวะ Oversold หลังหุ้นขนาดกลาง – เล็กถูกแรงขาย Force Sell ส่งผลให้ความผันผวนของดัชนีเริ่มลดลง ประเด็นเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ติดตามรัฐบาลจะแถลง ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ ร่วมกับ ตลท. & กลต. เช่น ม.ควบคุมธุรกรรม Short Sell, ปรับเกณฑ์กองทุน Thai ESG โดยลดการถือครองเหลือ 7 ปี และหักลดหย่อนได้ 3 แสน บาท และ ม.กระตุ้นภาคอสังหา ฯ

Daily Strategy

วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,295 – 1,300 แนวต้าน 1,315 – 1,320 ประเมินดัชนีมีโอกาส Sideway Up หลังความผันผวนจากแรงขาย Force Sell ลดลง กอปรได้แรงหนุนจาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจะแถลงในสัปดาห์นี้ แนะนำทยอยซื้อ GFPT, CPF, ITC, AAI, STA, STGT, ICHI, XO จากตัวเลขส่งออก พ.ค. ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง/ เก็งกำไรกลุ่มอสังหาฯ SC, SIRI, AP, SPALI จากความพยายามขอเพิ่มสัดส่วนให้ต่างชาติถือครองคอนโด ฯ ได้ถึง 75%
BTG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 25.00 บาท) แนวโน้มผลประกอการปกติใน 2Q67 มีโอกาสพลิกเป็นกำไร หนุนจากสภาพอากาศร้อนส่งผลต่ออุปทาน ประกอบการสถานการณ์ราคาหมูเถื่อนเริ่มคลี่คลายลง ทำให้ราคาสุกรในประเทศไทยและกัมพูชาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนราคาไก่ก็มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นเช่นกันหนุนจากความต้องการจากยุโรปและญี่ปุ่น ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังอยู่ในระดับต่ำและมีแนวโน้มปรับลดลงทั้งข้าวโพดและถั่วเหลืองจากผลิตผลในการเพาะปลูกสูงขึ้น ดังนั้นจึงส่งผลบวกต่ออัตรากำไร ทั้งนี้อิงจาก Consensus ของตลาดคาดปี 67 จะกลับมากำไร 2 พันล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ขาดทุน 1.4 พันล้านบาท
KLINIQ (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 48.00 บาท) ทาง KLINIQ ตั้งเป้ารายได้ปี67 ที่ 3,000 ลบ. โตราว +30% มาร์จิ้นยังคาดปรับตัวดีขึ้นYoY/เป้าขยายสาขาใหม่ในช่วงที่2Q-4Q67 อยูที่ 9 สาขาจะเป็น THE KLINIQUE 1 สาขา/ไตรมาส และ A.B.X 2 สาขา/ไตรมาส ด้าน SSSG ของต้น 2Q67 +16%YoY ปัจจุบัน เรายังมองบวกต่อ KLINIQ แม้ว่า 1Q67 จะสะดุดบ้าง QoQ แต่เราคาด 2Q67 มีโอกาสที่จะเห็นการกลับมาเติบโตดีอีกครั้งหลังสาขาที่เปิดใหม่ 10 สาขาใน 1Q67 สามารถ contribute รายได้มาเต็มไตรมาส โดยเรายังคงคาดกำไรสุทธิ ปี67 และ ปี68 ที่ระดับ 352 ลบ.( +22.06%YoY) และ 445 ลบ.(+26.32%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ส.ค. -$0.56 อยู่ที่ $80.73 / บาร์เรล, Brent ส.ค. -$0.47 อยู่ที่ $85.24/บาร์เรล ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาน้ำมันดิบ +3% WoW ได้แรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันสหรัฐปรับดีขึ้น และสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐปรับลดลง

Gold Update(-) Comex Gold ส.ค.-$37.80 อยู่ที่ $2,331.20/ออนซ์ สัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาทองคำ -0.61% WoW ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.20% อยู่ที่ 105.796 กอปรกับความไม่แน่นอนการเมืองในยุโรปสูงขึ้น

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -318.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -291.31 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +20.0 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -46.8 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 36.78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.256 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +13 จุด อยู่ที่ 1,997

(-) BitCoinเช้านี้ -2.09% อยู่ที่ 63,115.9 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

21 มิ.ย. กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย

25 มิ.ย. ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

26 มิ.ย. รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ

28 มิ.ย. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

25 มิ.ย. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (มิ.ย.)

26 มิ.ย. US ยอดขายบ้านใหม่ ( พ.ค.)

27 มิ.ย. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 1)

28 มิ.ย. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล PCE Price Index ( พ.ค.)

US รายงานนโยบายการเงินของเฟด

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio June 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ

Analysts

Apichai Raomanachai