Market Wrap-Up
- SET วันที่ 20 มิ.ย.67 ปิด -5.53 จุด อยู่ที่ 1,298.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,897 ลบ.ต่างชาติขาย 1,959 ลบ. สถาบันซื้อ 430 ลบ.รายย่อยซื้อ 1,387 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 1,515 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้นTRUE,BDMS,WHA,EA,PTTGC และมียอดขายสุทธิ CPALL,KBANK,CPN,MTC,MINT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 5,756 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TPIPL-R,CRC-R,KKP-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 18,721 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 112,855 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,786 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.77%,S&P500 -0.25%,Nasdaq -0.79% โดยกลุ่มเทคโนโลยี -1.6% แต่ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +1.86% ส่วนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 5,000 อยู่ที่ 238,000 สูงกว่าคาด 235,000 ราย และตัวเลขเริ่มสร้างบ้านใหม่ พ.ค. -5.5% & คาด +0.7% MoM ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.93% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.8% นำโดย ASM ผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ของเนเธอร์แลนด์ +3% และกลุ่มอสังหา +1.7%
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500 ถูกแรงขายทำกำไรหลังปรับขึ้นไปทดสอบระดับ 5,500 จุด จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี Nvidia -3.5% ขณะที่ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐ เช่น ค่าเฉลีย 4 สัปดาห์ของจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 5,500 ราย อยู่ที่ 232,750 ราย สูงสุดนับตั้งแต่ ก.ย. 66 บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐมีสัญญาณอ่อนตัวลง ดังนั้น CME Fed Watch ชี้โอกาส 57.9% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม PMI ภาคผลิต & บริการสหรัฐ เบื้องต้น มิ.ย., ยอดขายบ้านมือสอง และ Leading Index พ.ค.
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีและอสังหา ฯ หลังผลการประชุม ธ.กลางต่าง ๆ เป็นไปตามคาด โดย BOE มีมติ 7- 2 คงดอกเบี้ยที่ 5.25% และเทรดเดอร์คาดมีโอกาส 46.5% ที่ BOE จะลดดอกเบี้ยใน ส.ค. หลัง CPI อังกฤษ พ.ค. ลดลงอยู่ที่ 2.0% & เม.ย. 2.3% YoY ขณะที่ ธ.สวิตเซอร์แลนด์ลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 1.25% ส่งผลให้ตลาดหุ้นสวิต ฯ +0.6% ค่ำวันนี้ติดตาม PMI ภาคผลิต & บริการยูโรโซน เบื้องต้น มิ.ย.
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้วานนี้ -0.42% หลัง ธ.กลางจีนคงดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) 1 ปี, 5 ปี ที่ 3.45%, 3.95% ตามคาดการณ์ ส่วนดัชนีนิเกอิ +0.16% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี แต่ยังกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในยุโรป สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจเช้านี้ CPI ญี่ปุ่น พ.ค. อยู่ที่ 2.8% & เม.ย. 2.5% YoY และ PMI ภาคการผลิตญี่ปุ่น มิ.ย. อยู่ที่ 50.1 & พ.ค. 50.4 บ่งชี้เงินเฟ้อญี่ปุ่นสูงขึ้น ขณะที่ภาคการผลิตยังทรงตัว
- ดัชนี SET วานนี้ -42% ปริมาณการซื้อขาย 3.78 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 1,959 ลบ. สถาบันซื้อ 430 ลบ. รายย่อยซื้อ 1,387 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 141 ลบ. จากแรงขายหุ้น Big Cap.กลุ่มค้าปลีก, ไฟแนนท์, ขนส่ง, วัสดุก่อสร้าง และอาหาร หลังสถาบันวิจัยเศรษฐกิจหลายแห่งได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้ลงอยู่ที่ 2.5 – 2.6% จากเดิมคาด 2.8 – 3.0% YoY เป็นผลจากการเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ล่าช้า และส่งออกไทยปีนี้คาดขยายตัวระดับต่ำ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศจะคงดที่ระดับ 2.5 % จนถึงปลายปีนี้ หลัง ธ.กลางสหรัฐยังตรึงดอกเบี้ยสูง ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศ ยังรอคำสั่งศาล รธน.ในกรณียุบพรรคก้าวไกล, คุณสมบัตินายก ฯ ในวันที่ 10 ก.ค. โดยตลาดยังรอปัจจัยใหม่จากการเร่งพิจารณางบประมาณปี 68, ม.ควบคุมช็อตเซลจะเริ่มใช้วันที่ 1 ก.ค.รวมถึงเม็ดเงินลงทุนใหม่จากกองทุน LTF หากปรับลดเกณฑ์การถือครองกองทุนอยู่ราว 5 ปี
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,290 โดยมีแนวต้าน 1,310 – 1,315 คาดดัชนียืนทรงตัวรอประเมินปัจจัย +/- ใหม่ในสัปดาห์หน้า โดยปัจจุบัน SET เทรดที่ F/PE ที่ 13.9 X อยู่ในโซนถูก ส่งผลให้ Down Risk ลดลงในระยะสั้น แนะนำซื้อเก็งกำไร TRUE,ADVANC คาดกำไร Q2/67 ยังเติบโตดี/ ท่องเที่ยว AOT,ERW ราคาได้ปรับลดลงรับช่วง Low Season แล้ว / CK, STEC ได้ปัจจัยหนุนจากการเร่งประมูลงานภาครัฐ
- JPARK* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.35 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q67 คาดอยู่ในระดับที่ดีใกล้เคียง 1Q67 หนุนจากรายได้โครงการที่จอดรถสนามบินขอนแก่น (PS) และ One Bangkok (PMS) เต็มไตรมาส และมีพื้นที่จอดรถตลาดบางกอกน้อยที่เริ่มเปิดให้บริการ ขณะที่ช่วงที่เหลือของปีจะมีโครงการระหว่างก่อสร้างจาก รพ.พระนั่งเกล้า เข้ามาเสริม ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าบริหารลานจอดรถในปี 67 แตะ 40,000 ช่องจอด คิดเป็นอัตราการเติบโตมากกว่า 30% โดยบริษัทมุ่งเน้นที่จะเพิ่มสัดส่วนในการเข้ารับงานบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (PMS) ให้เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีความสามารถในการทำกำไรที่สูง
- TRUE (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 9.15 บาท) กำไรสุทธิ 1Q67 แม้ออกมาขาดทุนแต่หลักๆมาจากรายการพิเศษ ขณะที่ Operation ปกติดีขึ้นอย่างมีนัยยะ ส่วนแนวโน้ม 2Q67 คาดสามารถกลับมามีกำไรได้ (จากขาดทุนใน 1Q67 และ 2Q66) ทั้งนี้ในส่วนของ TRUE ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์กำไรปี 67 ที่ 923 ลบ. พลิกกำไรจากขาดทุนในปีก่อน ยังประเมินการดำเนินงานทะยอยดีขึ้นต่อเนื่อง ได้ประโยชน์จาก 1.ฐานลูกค้าจาก DTAC 2. Blended ARPU ที่สูงขึ้นจาก User ที่ migrate package มาเป็น 5G และ 3.ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่มีโอกาสลดลงจากการแข่งขันที่ผ่อนคลายขึ้น
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ก.ค.+$0.60 อยู่ที่ $82.17/บาร์เรล และ Brent ส.ค. +$0.64 อยู่ที่ $85.71/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 2.5 ล.บาร์เรล ลดลงมากกว่าคาด 2.2 ล.บาร์เรล กอปรกับนายก ฯ อิสราเอลเผยจะไม่ยอมถอนทหารออกจากฉนวนกาซาจนกว่าได้ตัวประกันครบ
Gold Update(+) Comex Gold ส.ค. +$22.10 อยู่ที่ $2,369/ ออนซ์ ได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ กอปรยังมีปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -68.93 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -68.93 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -6.24 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นฟิลิปปินส์ -9.38 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 36.71 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.272 %
(+) ดัชนี BDI +41 อยู่ที่ 1,984
(-) BitCoinเช้านี้ -0.61% อยู่ที่ 64,747 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
15-16 มิ.ย. ตลท. จัดงาน SET in the City 2024
18-21 มิ.ย. เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ
19 มิ.ย. ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์
ต่างประเทศ
18 มิ.ย. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( พ.ค.)
US ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)
19 มิ.ย. US วันหยุด - Juneteenth
20 มิ.ย. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (มิ.ย.)
21 มิ.ย. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มิ.ย.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มิ.ย.)
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( พ.ค.)
US รายงานนโยบายการเงินของเฟด
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio June 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th