Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

451

 


AT THE OPEN (#ATO)
SET Index สร้างฐาน
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว
Market Strategy
SET Index คาดสร้างฐานตามกรอบ 1290-1310 จุด ทิศทางตลาดยังอยู่ในโหมดเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ซึ่งเราเชื่อว่าระยะถัดไปจะดีขึ้นจากประเด็นการเมืองที่เราคาดว่าผ่านจุดที่หนักที่สุดไปแล้ว ผสานกับมาตรการของ ตลท.และรัฐบาล เช่น การใช้มาตรการ Uptick Rule (เริ่มในวันที่ 1 ก.ค.) และความคืบหน้าของ LTF ส่วนระยะสั้นเราอาจเห็นความผันผวนของหุ้นบางกลุ่มโดยมีสาเหตุมาจากการ Force Sell แต่อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากสัดส่วน %Margin Account trading Value/Local investors’ trading value ล่าสุด ณ เดือน เม.ย. ที่ระดับ 13.2% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ย้อนหลัง 15 ปี 17.8% และใกล้จุดต่ำสุดที่ 11.5% สะท้อนเป็นสัดส่วนที่ไม่มาก ทำให้เราเชื่อว่าภาพแรงกดดันเป็นเฉพาะรายหุ้นแต่ผลต่อภาพใหญ่ของตลาดเราเชื่อว่ายังจำกัด
สภาพแวดล้อมต่างประเทศไม่ได้มีปัจจัยใหม่ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ ทำให้ตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้แกว่งในกรอบแคบ ด้านปัจจัยในประเทศเป็นการติดตามพัฒนาการพิจารณางบประมาณปี 68 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ในวาระแรกระหว่างวันที่ 19 – 21 มิ.ย. 67 ซึ่งจะมีการลงมติในวันที่ 21 มิ.ย. ซึ่งเชื่อว่าจะผ่านไปด้วยดี

ส่วนประเด็นอื่นๆที่ติดตามวันนี้ 1) การประกาศดอกเบี้ยฯ LPR 1 และ 5 ปี ซึ่งคาดว่าจะคงดอกเบี้ยฯ ที่ 3.45% และ 3.95% ตามเดิม 2) การรายงาน Initial Jobless Claim สหรัฐฯ คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.35 แสนตำแหน่งลดลงจากสัปดาห์ก่อนเล็กน้อย 2.45 แสนตำแหน่ง กลยุทธ์ยังมองระดับดัชนีโซนบริเวณ 1300 จุด ยังเป็นโซนสะสมสำหรับลงทุนระยะกลาง-ยาว วันนี้ชอบ CPALL (คาดหวัง Cover Short) และ TRUE (เราปรับประมาณการทั้งกำไรและ FV)

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 6.4 จุด แรงหนุนมาจากกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ +8.4% การรีบาวน์กลุ่มโรงไฟฟ้าหนุน GPSC +4.5% BGRIM +3% และ GULF +2.6% และกลุ่มท่องเที่ยว AOT +1.2% ERW 0.5% และ CENTEL +2% สวนทางกลุ่ม ร.พ. ที่ปรับลงจากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นช้ากระทบต่อรายได้ผู้ป่วยเงินสด CHG-3.5% BDMS -3.5% นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2.69 พันล้านบาท สวนทางต่างชาติขายสุทธิ 2.95 พันล้านบาท


ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPALL TRUE

TRUE คาดกำไร 2Q67 โตแกร่งจาก
ARPU โตและ synergy
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ TRUE เนื่องจากมีโมเมนตัมกำไรรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง เราคาดการณ์กำไรหลัก 2Q67 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรหลัก 768 ล้านบาทใน 1Q67 เนื่องจากการ ลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง จากการสร้าง synergy ช่วยลดต้นทุนด้านค่าคอมมิชชั่น การตลาด ค่าเสื่อมราคาของเครือข่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหาร

เราเพิ่มประมาณการกำไรหลักในปี 67-69 ขึ้น 8-17% เนื่องจากเรามีมุมมองบวกมากขึ้นในด้าน Synergy และอัตรากำไรจากการขายเครื่องโทรศัพท์มือถือ ประมาณการที่เพิ่มขึ้นทำให้ราคาเป้าหมายอิง DCF ของเราเพิ่มขึ้นเป็น 9.60 บาท (7.7% WACC,2.0% TG) จาก 9.20 บาท ประมาณการกำไรหลักปี 67 ใหม่ของเราที่ 5.9 พันล้านบาท สูงกว่าตลาดคาดที่ 3.0 พันล้านบาทถึง 96% ซึ่งการปรับประมาณการของตลาดน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในอนาคต
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 9.60 บาท

 

CPALL มองผลประกอบการยังแข็งแกร่ง
แถมลุ้น Cover Short
ทิศทางผลประกอบการ 2Q67 ยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อ YoY ตาม SSSG ช่วง 2QTD ที่ยังขยายตัวหลักเดียวกลางๆ เช่นเดียวกับอัตราการทำกำไรขั้นต้นดีขึ้น เนื่องจาก Product Mix จากสินค้า Margin สูงที่ขายดี อาทิ อาหาร Ready to Eat และ Personal Care
ด้านกำไรทั้งปี 67E คาดเติบโต 25%YoY ทำระดับ All Time High แถมมี Upside จากมาตรการ Digital Wallet ช่วงปลายปี ด้าน Valuation ซื้อขายบน PER67E22 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีเกือบ 2 S.D.
แรงหนุนระยะสั้นเราเชื่อว่า CPALL เป็นหุ้นที่มีโอกาสถูก Cover Short เพราะราคาหุ้นลงมาแรง -6.8% V.S. SET -4.5% พร้อมด้วยการปริมาณ Short ที่สูง ตั้งแต่กลางเดือน พ.ค. จากความกังวลต่อการเมืองกระทบเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งเราเชื่อว่าปัจจุบันผ่านจุดแย่ที่สุดแล้ว
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 78.00 บาท


KEY FACTOR
ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนสูง จากแรงขายกระแสเงินทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง -2.7 พันล้านบาท สะสมเป็นวันที่ 20 รวมทั้งสิ้น -3.92 หมื่นล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม SET index ที่แม้จะย่อตัวในระหว่างวัน แต่กลับมาปิดบวกเหนือ 1,300 จุด ถือเป็นสัญญาณบวกที่เริ่มมีเข้ามาภายหลัง 1) ปัจจัยด้านการเมืองที่แม้ยังไม่จบและอาจลากยากไปในเดือน ก.ค. แต่เริ่มคลี่คลายลง 2) ความคืบหน้าการใช้มาตรการจำกัดการ Short Selling และการควบคุมการซื้อขายที่ผิดปกติที่จะเริ่มชัดเจน ปลาย มิ.ย.-ต้น ก.ค. 3) ค่าเงินบาทยืนประคองตัวบริเวณ 36.5 บาท ไม่ได้อ่อนค่า Underperform อาเซียนเหมือนในช่วงก่อนหน้า
ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ 1) วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางจีน (PBoC) ซึ่ง Consensus คาดว่าจะยังคงดอกเบี้ย LPR อายุ 1 และ 5 ปี ที่ระดับ 3.45% และ 3.95% ตามลำดับ และต่อเนื่องด้วย 2) ในช่วงปลายสัปดาห์จะมีการรายงาน Flash PMI ของทั้งสหรัฐฯและ Eurozone ซึ่งน่าจะบ่งชี้ความแข็งแกร่งของภาคบริการที่ฟื้นตัวได้ดีทั่วโลก

EYES ON
20 มิ.ย. PBOC กำหนดดอกเบี้ย LPR อายุ 1 และ 5 ปี
21 มิ.ย. S&P Global PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐฯ, HCOB PMI ภาคการผลิตและบริการของ Eurozone

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

รอ เฟด By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ กระทรวงพาณิชย์ ออกมาเปิดเผย CPI เดือน เม.ย. -0.22%YoY จากตลาดคาด -0.1%....

ดันต่อ By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ หุ้นใหญ่ หน้าเดิม ดันSET ฝ่า 1,200 จุด ต่อ การสลับหน้าที่กันไป ห้วงระหว่างอยู่ ผลการ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้