Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

438

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 19 มิ.ย.67 ปิด +6.41 จุด อยู่ที่ 1,303.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 63,022 ลบ.ต่างชาติขาย 2,693 ลบ. สถาบันขาย 348 ลบ.รายย่อยซื้อ 2,498 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 753 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้นDELTA,PTTGC,EA,AOT,OSP และมียอดขายสุทธิ PTTEP,KBANK,KTB,KTC,TTB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 8,445 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TPIPL-R,AKR,GLOBAL-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 4,271 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 94,134 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,341 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดในวัน Juneteenth ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx -0.17% จากแรงขายกลุ่มอสังหา -1.2%, เทคโนโลยี -1.1% ขณะที่กลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน +0.6% ปรับขึ้นตามราคาทองแดง และกลุ่มเดินทางสันทนาการ +0.6% จากหุ้น Accor +1.4% หลัง ธ.บาร์เคลยส์แนะนำซื้อ

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดทำการในวัน Juneteenth ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจ NAHB เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน มิ.ย. ลดลง 2 จุด อยู่ที่ 43 & คาด 46 ต่ำสุดนับตั้งแต่ ม.ค. ปีนี้ เนื่องจากดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับสูงขึ้น โดยเช้านี้ S&P500, Nasdaq Futures +0.05% หลังช่วงต้นสัปดาห์นี้ได้แรงหนุนการปรับขึ้นของ Nvidia รับกระแสธุรกิจ AI ค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขยอดสร้างบ้านใหม่ พ.ค. คาด +0.7% & เม.ย. +5.7% MoM และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์คาด 235,000 & สัปดาห์ก่อน 242,000 ราย   
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มอสังหา, เทคโนโลยี โดย CAC-40 ฝรั่งเศส -0.77% จากความกังวลต่อภาวะขาดดุลงบประมาณ & ระดับหนี้อาจสูงขึ้น หากพรรคขวาจัดชนะการเลือกตั้งสภาผู้แทน ฯ ส่งผลให้ส่วนต่างดอกเบี้ยพันธบัตรฝรั่งเศส & เยอรมัน 10 ปี ปรับสูงขึ้น 78.9 Bps ส่วนรายงาน CPI อังกฤษ พ.ค. ลดลงอยู่ที่ 2.0% & เม.ย. 2.3% YoY จากราคาอาหาร & เครื่องดื่ม, ค่าสันทนาการปรับลดลง โดยค่ำวันนี้ติดตามการประชุม BOE อังกฤษคาดคงดอกเบี้ยที่ 5.25% และคาดมีโอกาสเริ่มลดดอกเบี้ยใน ส.ค.นี้   
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ MSCI Asia Pacific X Japan +1.0% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลัง LSEG คาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้วานนี้ -0.40% โดยเช้านี้ ธ.กลางจีนคงดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) 1 ปี, 5 ปี ที่ 3.45%, 3.95% ตามคาดการณ์
  • ดัชนี SET วานนี้ +49% ปริมาณการซื้อขาย 6.3 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 2,693 ลบ. สถาบันขาย 348 ลบ. รายย่อยซื้อ 2,498 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 92 ลบ. โดยช่วงเช้าดัชนีปรับลดลงต่ำสุดที่ระดับ 1,281.87 จากแรงขายหุ้น Big Cap. กลุ่ม รพ., ธนาคาร และหุ้นขนาดกลาง – เล็กที่ปรับลดลงจากแรงชาย Force Sell จากใช้หลักทรัพย์วางค้ำประกันบัญชีมาร์จิ้น ขณะที่ภาคบ่ายดัชนีเริ่มฟื้นตัวจากแรงซื้อกลุ่มอิเล็ก ฯ, โรงไฟฟ้า ได้แรงหนุนจาก US Bond Yield ปรับลดลง และกลุ่มพลังงานก็ฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบ รวมถึงมีแรงซื้อ Cover Short หลัง ตลท.จะเริ่มใช้ ม. Up Tick Rule เพื่อควบคุมธุรกิจชอร์ตเซลในวันที่ 1 ก.ค. ส่วนประเด็นเศรษฐกิจวานนี้ นายกฯ แถลง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 68 วงเงิน 3.75 ล.ลบ. เป็นงบขาดดุล 8.65 แสน ลบ. บนสมมุติฐานเศรษฐกิจไทยเติบโต 2.5 – 3.5%, เงินเฟ้อ 0.7 – 1.7% และเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 1.5% ของ GDP ขณะที่ ททท. เผยแผนกระตุ้นท่องเที่ยวไทย ก.ค. – ธ.ค. ในงาน 6 อีเวนต์ด้านอาหาร, ดนตรี, กีฬา, ศิลปะวัฒนธรรม.      

Daily Strategy

  • วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,290 โดยมีแนวต้าน 1,310 – 1,315 คาดฟื้นตัวจากภาวะ Oversold ทางเทคนิค กอปรกับ SET เทรดที่ระดับ F/PE 9X ซึ่งอยู่ในโซนถูก รวมถึง ม.ควบคุม Short Sell จะเริ่มใช้ใน ก.ค. น่าจะส่งผลให้ Downside ตลาดลดลง แนะนำซื้อกลุ่มค้าปลีก & อาหาร เช่น CPALL,CPF,ITC,ICHI เป็นกลุ่มปลอดภัย / กลุ่มท่องเที่ยว AOT,ERW/ และเก็งกำไร SMT, SVI มีสัญญาณบวกทางเทคนิค / AWC,OR มีโอกาสเกิดการ Cover Short
  • PRM* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.25 บาท) แนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีคาดเติบโต YoY ได้ทุกไตรมาส หนุนจากรายได้เพิ่มขึ้นของธุรกิจ Offshore support (OVS) เรือ AWB ใหม่เริ่มให้บริการตั้งแต่กลางเดือน ม.ค.และจะมีเรือ Hybrid Crew Boat ใหม่อีก 2 ลำ เริ่มให้บริการในช่วงปลาย 1Q67- ต้น 2Q67 ส่วนธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันดิบ (COC) และธุรกิจขนส่งน้ำมันและปิโตรเคมีเหลว (PCT) จากเรือ VLCC และเรือปิโตร 2 ลำ ผ่านช่วง dry dock ส่วนธุรกิจ FSU U-rate อยู่ในระดับสูงและมีแผนซื้อเรือเพิ่มในช่วง 2H67 ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67 ที่ 2 พันล้านบาท แม้ชะลอลงจากปีก่อนที่มีกำไรพิเศษจากการขายเรือ แต่หากถ้าคิดกำไรปกติจะยังคงมีการเติบโต รวมถึงมีแผนที่ตัดหุ้นจากโครงการซื้อหุ้นคืนทั้งหมดจะทำให้ EPS เพิ่มขึ้น 8%
  • TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมายปี67 19.50 บาท) กำไรปกติ 1Q67 อยู่ที่ 892 ลบ.(+10.60%YoY, -24.12%QoQ) สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ดีYoY ในส่วน ของ operation หลักจากธุรกิจ Petcare และ Ambient Seafood ส่วน 2Q67 เราคาดเห็นกำไรแกว่งขึ้น YoY QoQ จาก 1.ฐานต่ำปกติใน 2Q66 จากในช่วงเวลาดังกล่าว Inventory คู่ค้าอยู่ในระดับสูงจึงไม่ออเดอร์สินค้าใหม่คาดต้นทุนราคาปลาทูน่าอยู่ในระดับต่ำ 1,300-1,500 usd/ton (จากช่วง 2Q66 ที่ 2,000 usd/ton ) ทั้งนี้ราคาปลาทูน่าที่มีโอกาสแกว่งจากโซนล่าง(ราว1,300 usd/ton ใน 1Q67)ขึ้นบน(แต่ไม่สูงเกินไป ไม่สูงกว่า 1,800 usd/ton โดย เม.ย.67 ที่ 1,375 usd/ton& พ.ค.67ที่ 1,480 usd/ton) นอกจากต้นทุนสินค้าใน Inventory ถูกแล้ว ยังดีต่อการปรับราคาขายOEMขึ้นด้วย เป็นบวกมากต่อมาร์จิ้น

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI Futures เช้านี้ -0.13% อยู่ที่ $80.50/บาร์เรล และ Brent Futures -0.18% อยู่ที่ $85.08/บาร์เรล

 

Gold Update(+) Spot Gold เช้านี้ +0.12% อยู่ที่ $2,331.16/ ออนซ์    

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -126.94 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -73.46 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -43.36 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นฟิลิปปินส์ -10.12 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 36.68 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.244 %

(-) ดัชนี BDI -18 อยู่ที่ 1,943

(+) BitCoinเช้านี้ +0.28% อยู่ที่ 65,200 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

15-16 มิ.ย.                ตลท. จัดงาน SET in the City 2024

18-21 มิ.ย.                เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ

19 มิ.ย.     ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า

                ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

 

ต่างประเทศ

18 มิ.ย.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( พ.ค.)

                US ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)

19 มิ.ย.     US วันหยุด - Juneteenth

20 มิ.ย.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

                US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (มิ.ย.)

21 มิ.ย.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มิ.ย.) 

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มิ.ย.) 

US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( พ.ค.)

US รายงานนโยบายการเงินของเฟด

               

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL* 

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE* 

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH* 

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR* 

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC* 

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio June 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้