Market Wrap-Up
- SET วันที่ 11 มิ.ย.67 ปิด -2.47 จุด อยู่ที่ 1,316.10 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,320 ลบ.ต่างชาติขาย 3,208 ลบ.สถาบันซื้อ 1,313 ลบ.รายย่อยซื้อ 1,881 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 1,247 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น EA,SPALI,JMART,KBANK,AOT และมียอดขายสุทธิ PTTEP,SCB,PTT,TOP,MINT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 5,956 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HTC,TCAP-R,IVL-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 19,204 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 78,854 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 949 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.31%, S&P500 +0.27%, Nasdaq +0.88% กลุ่มเทคโนโลยี +1.7% นำโดย Apple +7.3% รับข่าวเปิดตัว Ai รุ่นใหม่ และ GM +1.35% รับแผนซื้อหุ้นคืนมูลค่า 6 พัน ล.ดอลลาร์ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.93% กลุ่มธนาคาร -2.2%, เหมืองแร่ -2% จากความกังวลปัจจัยการเมืองในฝรั่งเศส
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500, Nasdaq ปิดทำจุดสูงสุด ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Apple +7.3% รับข่าวการเปิดตัวระบบ Apple Intelligence, Siri with ChaGPT ที่สามารถใช้งานอุปกรณ์ Iphone, Ipad, Mac กอปรกับ US Bond Yield 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 4% หลังผลประมูลพันธบัตรวงเงิน $ 3.8 หมื่น ล. มีอุปสงค์อยู่ในระดับสูง ประเด็นสำคัญค่ำวันนี้ติดตาม US Core CPI พ.ค. คาดทรงตัวที่ 3.4% YoY และ 0.3% MoM และผลการประชุมเฟด ซึ่งคาดจะคงดอกเบี้ยที่ 5.25 – 5.5% รวมถึง Fed Dot Plot ว่าจะปรับเปลี่ยนมุมมองใน มี.ค.ที่คาดจะลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้หรือไม่ ซึ่งปัจจุบัน Consensus คาดจะลดเพียง 1 ครั้ง หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ค. และอัตราค่าจ้างราย ชม. สูงกว่าคาด
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ CAC-40 ฝรั่งเศส -1.33% จากแรงขายกลุ่มธนาคาร, เหมืองแร่ หลังพรรคเรเนอซองส์ของ ปธ.มาครง แพ้การเลือกตั้งรัฐสภายุโรปต่อพรรคเนชั่นแนล แรลลี่ ของนางเลอ เปน ที่พรรคฝ่ายขวา ส่งผลให้ ปธ.มาครงประกาศยุบสภาผู้แทน ฯ และจัดเลือกตั้งใหม่วันที่ 30 มิ.ย. ซึ่งจากส่งผลลบต่อเสถียรภาพของ ปธ.มาครง ยังมีวาระดำรงตำแหน่งถีงปี 2027 หากแพ้เลือกตั้งในสภาผู้แทน ฯ
- ตลาดเอเชียวานนี้ทรงตัวรอผลการประชุมเฟดในช่วงค่ำวันนี้ ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ +0.25% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ปรับขึ้นตามอุปสงค์ชิป Ai โดยประเด็นสำคัญรอผลการประชุม BOJ ในวันศุกร์นี้ ซึงคาดจะคงดอกเบี้ยที่ 10% และอาจพิจารณาลดการซื้อพันธบัตรญี่ปุ่น เพื่อลด ม.ผ่อนคลายการเงิน หลังเงินเฟ้อญี่ปุ่นในระยะถัดไปมีโอกาสปรับสูงขึ้นตามการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานของสหภาพแรงงาน
- ดัชนี SET วานนี้ -0.19% ปริมาณการซื้อขาย 5 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 3.2 พัน ลบ. รายย่อยซื้อ 1.8 พัน ลบ และสถาบันซื้อ 1.3 พัน ลบ. จากแรงขายทำกำไรในกลุ่มเกษตร & อาหาร ที่ Outperform ดัชนีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กอปรถูกกดดันจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่วนกลุ่มขนส่งนำโดย AOT ปรับลดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ -5.1% wow ในช่วง Low Season ขณะที่กลุ่มช่วยหนุนดัชนี คือ รพ., สื่อสาร ที่เป็นกลุ่มปลอดภัย โดย INTUCH ปรับขึ้นรับข่าวการปรับโครงสร้างผู้ถือของ GULF โดยจะเปลี่ยนมาถือ ADVANC โดยตรงแทน Singtel ซึ่งเป็นปัจจัยบวกเชิง Synergy ระหว่าง ADVANC & GULF ส่วนปัจจัยสำคัญวันนี้ติดตาม การประชุม กนง.คาดคงดอกเบี้ยที่ 2.5%, ผลการประชุม Fed หากส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยสูงนาน จะเป็นผลลบต่อ Fund Flow ในตลาดอาเซียน และปัจจัยการเมือง ศาล รธน. นัดฟังคำสั่งคดียุบพรรคก้าวไกล ว่าจะมีการไถ่สวนเพิ่มเติมหรือไม่
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,305 – 1,313 แนวต้าน 1,325 – 1,330 ประเมินดัชนีมีแนวโน้มทรงตัวรอผลการประชุมเฟดในช่วงค่ำวันนี้ รวมถึงประเด็นการเมืองในประเทศ แนะนำ Selective Buy เช่น DELTA,HANA,KCE จากเทรนด์ AI และคาดอุต ฯ เซมิคอนดักเตอร์มีแนวโน้มฟื้นตัวหลัง Q3 นี้ / KTB ได้ปัจจัยหนุนสินเชื่อภาครัฐคาดเพิ่มขึ้นตามงบประมาณรายจ่าย/ เก็งกำไร INSET, ITEL ตามการลงทุนสร้าง Data Center
- KCE* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 46.50 บาท) บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโตราว 4-7%YoY และ GPM ที่ 24% โดยคาดยอดขายมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นใน 2Q67 ต่อเนื่อง 3Q67 จากที่ล่าช้าในช่วง 1Q67 อัตรากำไรขั้นต้นคาดทยอยเพิ่มจาก 1Q67 ที่ 23% จากการประหยัดต่อขนาด การลดต้นทุนด้วยระบบ Automation และค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตจะเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ HDI จากความต้องการในตลาด high technology และขยายฐานลูกค่าไปกลุ่ม telecom และ server เชื่อมโยงกันความต้องการด้าน AI ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67-68 อยู่ที่ 1 พันล้านบาท +22%YoY และ 2.3 พันล้านบาท +12%YoY
- ADVANC (ซื้อสะสม / ราคาเป้าหมายปี67 257.00 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q67 อยู่ที่ 8,451 ลบ., +21%QoQ, +25%YoY นอกจากจะได้ปัจจัยหนุนทางรายได้ตามฤดูกาลและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีรายได้ของTTTBB เข้ามาเสริม ขณะที่ฝั่งค่าใช้จ่ายสามารถควบคุมได้ดีโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายการตลาดที่ลดลงอย่างมีนัยยะ ทั้งนี้ สำหรับแนวโน้มที่เหลือของปี เรายังประเมินการดำเนินงาน +YoY จาก 1.รายได้ฝั่งธุรกิจ Fixed Broadband ที่ยังมีโมเมนตัมที่ดี 2.Blended ARPU ที่สูงขึ้นจาก User ที่ migrate package มาเป็น 5G 3.การแข่งขันที่ลดลง ปัจจุบัน ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรสุทธิปี67 ของ ADVANC ที่ 31,463 ลบ. +14%YoY
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ก.ค. +$0.16 อยู่ที่ $77.90 / บาร์เรล, Brent ส.ค. +$0.28 อยู่ที่ $81.92/บาร์เรล หลัง EIA คาดอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกปีนี้จะเพิ่มขึ้น 1.1 ล.บาร์เรล/วัน จากเดิมคาด 9 แสน บาร์เรล/วัน ส่วนกลุ่มโอเปกยังคงคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกปีนี้จะเพิ่มขึ้น 2.2 ล.บาร์เรล/วัน
Gold Update(-) Comex Gold ส.ค.-$0.40 อยู่ที่ $2,326.60/ออนซ์ ทรงตัวรอผลการประชุมเฟด และ US CPI พ.ค. ในช่วงค่ำวันนี้
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานี้ ขายสุทธิ -171.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -87.25 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -71.99 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -12.63 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 36.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.40 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -52 จุด อยู่ที่ 1,831
(-) BitCoinเช้านี้ -2.37% อยู่ที่ 67,049 ดอลลาร์สหรัฐ
(0) เช้านี้ติดตาม CPI จีน พ.ค. 0.4% & เม.ย. 0.3% YoY, PPI จีน พ.ค.คาด -1.5% & เม.ย. -2.5% YoY
Economic Calendar
ในประเทศ
12 มิ.ย. ประชุม กนง. ครั้งที่ 3/2567
15-16 มิ.ย. ตลท. จัดงาน SET in the City 2024
สัปดาห์ที2 ดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภค
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ
อัพเดตสถานการณ์ลงทุน
สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
10 มิ.ย. CN เทศกาลแข่งเรือมังกร
11 มิ.ย. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( พ.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
12 มิ.ย. US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของFOMC
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)
14 มิ.ย. US รายงานนโยบายการเงินของเฟด
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio June 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th