Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

573

 

AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ประคองฐาน 1310-1340 จุด
กลยุทธ์เลือกหุ้นกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ


Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1310-1330 จุด ปัจจัยแวดล้อมในภาพใหญ่ยังเป็นการติดตาม ผลประชุม FED(รู้ผลช่วงเช้าวันที่ 13 มิ.ย.) ทำให้สินทรัพย์ต่างๆแกว่งในกรอบแคบ โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯแกว่งในช่วง 0.2%-0.4% แต่ Bond Yield 10 ปีปรับขึ้น 2.4 bps จากผลประมูลพันธบัตรฯ 3 ปีกระแสตอบรับลดลงจาก Bid-Cover Ratio อยู่ที่ 2.43% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 รอบที่ผ่านมา 2.58% ด้าน Dollar Index แข็งค่า 0.2% จากยูโรที่อ่อนค่าหลังคุณประธานาธิบดีมาครง ฝรั่งเศสประกาศยุบสภาฯ หลังการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาพรรคคู่แข่งสามารถชนะเลือกตั้ง สภาพแวดล้อมข้างต้นมองเป็นลบต่อทิศทาง Fund Flow ยังไม่ไหลกลับมาในตลาดหุ้นภูมิภาค ส่วนประเด็นบวกที่พอมีอยู่บ้าง คือ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 2.5% จากความคาดหวังต่อปริมาณการใช้ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นตามการเข้าฤดูร้อน ซึ่งเรามองดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่นอย่าง PTTEP SPRC

สำหรับในประเทศการประชุม ครม. เศรษฐกิจวานนี้ คลังตั้งเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 67 ที่ 3%YoY มากกว่าที่เราและสภาพัฒน์คาดไว้ ที่ 2.4%YoY โดยเตรียมออกมาตรการกระตุ้นระยะสั้นขับเคลื่อน 3 ด้าน ประกอบด้วย 1) ภาคการท่องเที่ยวที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่ม1 ล้านคน โดยเพิ่มเป้าหมายเป็น 36.7 ล้านคนในปีนี้ 2) เร่งเบิกจ่ายงบประมาณโดยตั้งเป้าเบิกจ่ายงบลงทุนปีนี้ 70% จากปัจจุบันเบิกจ่ายแล้ว 41% 3) เร่งการลงทุนภาคเอกชนในโครงการที่ผ่าน BOI ตั้งเป้าวงเงิน 3-4 หมื่นล้านบาท ในมุมมองเราเชื่อว่าการเบิกจ่ายภาครัฐฯ น่าจะเป็นส่วนที่ทำได้เร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างอย่าง TASCO และ SCCC กลยุทธ์การลงทุนวันนี้เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะอย่าง BBL GULF


Market Summary
SET Index ปรับลง 14 จุด ตามทิศทาง Fund Flow ที่ไหลออก ซึ่งเป็นการปรับลงในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยกลุ่มที่ปรับลงแรงกว่าตลาด 3 กลุ่มแรก คือ ยานยนต์ -3% กลุ่มปิโตรฯ -2% จาก Spread ที่ฟื้นช้าและกลุ่มท่องเที่ยวกดดันจาก MINT -2.4% CENTEL -1.2% ส่วนหุ้นที่ปรับขึ้นเด่นสวนตลาดกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า ITC +1.3% AAI +5% และกลุ่มที่ปัจจัยบวกเฉพาะ BEM +2% CK +3% จากศาลฯ นัดอ่านคำพิพากษาการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มวันที่ 12 มิ.ย.นี้


ATO Daily Stock Picks
แนะนำ BBL GULF

GULF โอกาสในการสะสม
เรามองการปรับฐานของราคาหุ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา 12% กดดันจาก Bond Yield 10 ปีไทยที่ปรับขึ้น 30 bps ตามทิศทาง Bond Yield สหรัฐฯ จากความคาดหวังต่อลดดอกเบี้ยสหรัฐฯที่ช้าลง รวมถึงกังวลต่อต้นทุน LNG ที่ปรับขึ้น
แต่เชื่อว่าแรงกดดันจาก 2 ประเด็นข้างต้นสะท้อนไปในราคาหุ้นมากแล้ว จนลงมาซื้อขายบน PER67E 26.8 เท่า (-1.3 S.D.) ซึ่งแรงกดดันต่อจากนี้เชื่อว่าเป็นไปได้ยาก เนื่องจากแนวโน้ม Bond Yield ของไทยน่าจะใกล้จึงสูงสุดตามทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯและไทยที่น่าจะถึงจุด Peak แล้ว ด้านราคา Spot LNG ที่ USD 11.9 /mmbtu เชื่อว่า Upside จำกัดเมื่อเทียบกับคาดการณ์ สนพ. ที่คาดเฉลี่ยที่ USD 12.35 /mmbtu
เชื่อว่าการเปิดประชาพิจารณ์แผน PDP 2024 ในเดือนนี้จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นซึ่ง GULF จะเป็นผู้รับผลประโยชน์จากการประมูลในรอบนี้เป็นอันดับต้นๆ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 57.00 บาท


BBL ปรับเพิ่มประมาณการกำไรหนุนราคาหุ้น
แนวโน้มผลประกอบการเติบโตชัดเจน โดยคาดกำไรปี 67-68 ที่ 5-7% ได้แรงหนุนจากการเติบโตของ NII และ credit cost ที่ลดลง และคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง โดย BBL มุ่งเน้นที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ขณะที่สัดส่วนลูกค้าผู้มีรายได้น้อยมีไม่มาก ดังนั้นธนาคารจึงมีแนวโน้มกำไรเติบโตดีจากคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งและสำรองหนี้สูญที่สูง เราคาดว่าต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) จะค่อย ๆ ลดลง QoQ ตั้งแต่ 2Q67 เป็นต้น
ขณะที่ valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยหุ้นซื้อขายที่ PER67E ที่ 5.8 เท่า PBV67E 0.48 ต่ำกว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ 7และ 0.61 เท่าตามลำดับ นอกจากนี้มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.6% ต่อปี ช่วยจำกัด Downside
แรงหนุนต่อราคาหุ้นในระยะสั้นอยู่ที่แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ กนง. มีโอกาสถูกเลื่อนออกไปเป็น 2H67 ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันต่อ NIM ซึ่งเราคาดที่ 2.97% เทียบกับเป้าหมายของธนาคารที่ 2.8% ในปีนี้
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 180.00 บาท

 

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นไทยผันผวนเชิงลบและยังคง Underperform ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย ปิดลบ –1.06% โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องอีก -1.61 พันลบ. สะสมเป็นวันที่ 13 ติดต่อกัน -2.44 หมื่นลบ. สะท้อนความเชื่อมั่นที่ยังไม่ฟื้นตัว
แม้ว่าในระยะสั้นจะมีการหารือในที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจ (10 มิ.ย.) วางเป้า GDP ปี 2567 ขยายตัว +3% โดยจะเร่งขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้น ประกอบด้วย 1) เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวอีก 2 ล้านคน จากเป้าหมายเดิม 35.7 ล้านคน (1 ล้านคน หนุน GDP+0.12%) 2) เร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 โดยตั้งเบิกจ่ายงบลงทุนให้ได้ 70% - 75% จากระดับปัจจุบัน 41% (คาดหากงบลงทุน 70% จะหนุน GDP +0.24%) และ 3) เร่งการลงทุนภาคเอกชน
แต่อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยง จากประเด็นการเมืองในประเทศหลังนายกฯ ส่งคำชี้แจงถึงศาล รธน. ไปแล้ว และจะมีความคืบหน้าและรายละเอียดเพิ่มเติมในวันพุธที่ 12 มิ.ย. ซึ่งตุลาการศาล รธน. จะนำเรื่องการถอดถอนนายกฯ (รวมทั้งกรณีพรรคก้าวไกล) เข้าหารือในที่ประชุม และจะมีบทสรุปคำวินิจฉัยในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ข้างหน้า


Eyes on

12 มิ.ย. ประชุม FOMC, ดัชนี CPI และ PPI ของจีน เดือน พ.ค., ประชุม กนง.
13 มิ.ย. ดัชนี PPI ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค., ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของ Eurozone
14 มิ.ย. ตัวเลขนำเข้าส่งออกของสหรัฐฯ เดือน พ.ค.

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้