Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KSS Daily Strategy

488

 


"Global Play"

 

KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "Rebound" ต้าน 1325/1330 จุด รับ 1313/1307 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัว ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิด New high หนุนจากหุ้นเทครายตัว อาทิ Nvidia (แตกพาร์ 10:1) และ Meta ผสาน แรงหนุนกลุ่มพลังงานที่ราคาน้ำมันฟื้นตัว 2.5-2.9% อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยรวมยังเป็นการรอรายงานสำคัญๆ เงินเฟ้อ CPI (12 มิ.ย.) ผลประชุม Fed (ไทยทราบผลเช้า 13 มิ.ย.) ส่วนภายใน มองวันนี้มีโอกาสรีบาวน์จากหุ้นฝั่ง Global Plays ได้แก่ กลุ่มน้ำมันตามราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวแรง, กลุ่มชิ้นส่วนฯ มองจิตวิทยาบวกกลุ่มเทคฯ ต่างประเทศนำ ผสาน กรณี Apple เปิดตัว AI – Apple Intelligence มีโอกาสเร่งภาพเปลี่ยน Smart Devices ระยะถัดไป ส่วนภายในรัฐฯมีแผนผลักดันนโยบายเร่ง GDP ปี 2024 สู่ 3.0% แม้คาดตลาดจะรอความชัดเจนคุณสมบัตินายกฯก่อน แต่ SET ที่ตอบรับความกังวลการเมืองล่วงหน้าไปแล้วจนอยู่ในโซนลงทุน เชื่อว่ากลุ่ม Domestic จะเริ่มตั้งฐานรอความชัดเจน หุ้นเด่นวันนี้ มองกลุ่มน้ำมัน+โรงกลั่น, กลุ่มชิ้นส่วน กลุ่ม Defensive อาทิ สื่อสาร ร.พ. ขนส่งมวลชน และกลุ่มเกาะกระแส EURO 2024 วันนี้แนะนำ HANA, SPRC, OSP


Daily outlook: "Sideways" ต้าน 1325/1330 จุด รับ 1313/1307 จุด

What happened around the world ?

• (*/) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นเล็กน้อย Dow jones +0.18%d-d, S&P500 +0.26%, Nasdaq +0.29% มองเคลื่อนไหวในกรอบแคบรอตัวเลขเงินเฟ้อ CPI และผลการประชุม Fed สัปดาห์นี้ โดย Sectorใน S&P500 กลุ่มที่ Outperform คือ Utilities, Energy, Communication กลุ่มที่ Underperform คือ Financials, Consumer Staples, Materials

• (*/+) Inflation Expectation: ผู้บริโภคคาดการณ์เงินเฟ้อ 1 ปีข้างหน้ามองลงจาก 3.3% เป็น 3.2%, 3 ปี ทรงตัวที่ 2.8% แต่ 5 ปีมองปรับขึ้นเป็น 3% จาก 2.8% ทั้งนี้ ยังคาด ตลาดรอดูเงินเฟ้อ CPI & Fed meeting 12 มิ.ย. นี้

• (*) Apple WWDC 2024: งาน Apple Worldwide Developers Conference (WWDC) เป็นงานประชุมประจำปีของ แอปเปิล เพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์จากทั่วโลกได้มีอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ และเครื่องมือใหม่ๆ แบบเชิงลึก เพื่อนำไปต่อยอดแอปพลิเคชัน สำหรับระบบ IOS ในปี 2024 จะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 มิ.ย. (เวลาไทย 11-15 มิ.ย.) ไฮไลท์ คือ Apple เปิดตัวเปิดตัว AI ในชื่อ Apple Intelligence ประกอบด้วย AI หลากหลายฟังก์ชั่น รวมทั้งมีการนำ Chatgpt เข้ามามีส่วนร่วม และจะเป็นขุมพลังขับเคลื่อนในระบบปฎิบัติการใหม่ IOS 18, tvOS18, watchOS 11 และ iPadOS18 เน้นจุดเด่นความเข้าใจผู้ใช้งาน ทำให้เรามองความต้องการอุปกรณ์ต่างๆสูงขึ้น บ่งชี้ทิศทาง PC, Smart Devices ต่างๆ ที่มีโอกาสเข้ารอบการเปลี่ยนใหม่ จากการอัพเกรดอุปกรณ์เพื่อรองรับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น เน้น HANA ที่มีโอกาสได้ประโยชน์

• (*) US Bond & Dollar : Bond yields US Bond Yield อายุ 10 ปี ปรับขึ้น +4 bps สู่ระดับ 4.47% เช่นเดียวกับอายุ 2 ปี +6 bps อยู่ที่ 4.88% โดยรวมยังมองเป็นจิตวิทยาบวกต่อกับหุ้นในกลุ่มธนาคารและประกัน ขณะที่ Dollar Index แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 105.15+/- จุด

• (*) ECB Comments: คุณ Christine Lagarde ประธาน ECB ให้ความเห็นกับนักข่าวว่าทาง ECB ยังไม่ได้ตัดสินใจถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่ออีกในอนาคต หลังการเริ่มปรับลงครั้งแรกในสัปดาห์ก่อน เช่นเดียวกับคณะกรรมการอีก 2 ท่านได้แก่คุณ Peter Kazimir และคุณ Joachim Nagel ได้ให้ความเห็นว่ามีโอกาสไม่มากที่ ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอนาคต

•(+) Oil น้ำมันดิบฟื้นแรง จาก 1) สหรัฐสั่งคว่ำบาตรบุคคลและบริษัทกว่า 10 ราย โดยมีเป้าหมายเพื่อจำกัดแหล่งรายได้ของกลุ่มฮูตี้ในประเทศเยเมน ที่ยังเดินหน้าโจมตีเรื่อขนส่งสินค้าในเขตทะเลแดงอย่างต่อเนื่อง และ 2) รัสเซียประกาศตัวเลขการผลิตน้ำมันดิบเดือนก่อนเฉลี่ยระดับ 9.39 ล้านบาเรลล์ต่อวัน นับว่าเป็นการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่หยุด และยังอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายราว 3.44 แสนบาเรลล์ต่อวันจากการคำนวณของ Bloomberg ผสานความคาดหวัง Demand จาก Driving Season หนุนราคาน้ำมันดิบ Brent +2.52%d-d ปิดที่ US$ 81.63/barrel น้ำมันดิบ West Texas +2.93%d-d ปิดที่ US$ 77.74/barrel มองเป็นปัจจัยหนุนต่อการฟื้นตัวของ SET Index และหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำ อาทิ PTT, PTTEP และกลุ่มโรงกลั่นที่ราคาร่วงแรงมีโอกาสเห็น Technical Rebound

• (*) To monitor : ฝั่งสหรัฐฯ 12 มิ.ย. เงินเฟ้อ CPI พ.ค. 24 24 ตลาดคาด +3.4%y-y, +0.4%m-m vs prev. +3.4%y-y, +0..3%m-m ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน พ.ค. คาด +0.3%m-m เท่า prev. ตามด้วย 13 มิ.ย. ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ คาดคงดอกเบี้ยนโยบาย 5.25 – 5.5% นอกจากนี้ แนะนำติดตามรายงาน Dot Plot และแนวโน้มเศรษฐกิจ ฝั่งจีน 12 มิ.ย. ติดตามเงินเฟ้อ CPI เดือน พ.ค. คาด +0.4%y-y vs prev. +0.3%y-y

 

What happened in Thailand ?

• (*/+) SET: ตลาดหุ้นไทยวันทำการล่าสุด ปรับตัวลดลง -14.17 จุด (-1.06%) ปิดที่ 1,318.6 จุด ทำจุดต่ำสุดในรอบ 3.5 ปี มูลค่าการซื้อขาย 3.8 หมื่นล้านบาท เป็นการปรับตัวลดลงทุก Sector กลุ่มที่กดตลาดหลักๆ คือ หุ้นในกลุ่มพลังงาน (EA, TOP, SPRC, BCP ) กลุ่มขนส่ง (AOT) กลุ่มค้าปลีก (CPAXT, CPALL) และหุ้นรายตัว ANAN -8.2% หลังมีประเด็นแจ้งปิดสมุดทะเบียนพักโอนเพื่อจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 5 ชุด มูลค่า 11.3 พันล้านบาท โดยที่ยังไม่แจ้งวัตถุประสงค์ ทำให้ตลาดกังวลต่อความเสี่ยงการขอเลื่อนชำระหรือชำระคืน ส่วนกลุ่มปรับขึ้นได้ส่วนใหญ่มีประเด็นเฉพาะตัวหนุน เช่น BEM, OSP

• (*/-) Flow : เงินทุนต่างประเทศไหลออก ขายหุ้น -43.8 ล้านเหรียญฯ ขายพันธบัตร -34 ล้านเหรียญฯ TFEX สถานะ Net Short -28,057 สัญญา เงินบาทอ่อนค่าสู่ 36.7+/- บาท

• (+) EURO 2024: ม.หอการค้า คาดช่วงมหกรรม ฟุตบอลยูโร 2024 ว่าคาดว่าจะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจ 8.76 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0% เมื่อเทียบกับการแข่งขัน ฟุตบอลยูโร ครั้งก่อน โดยการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ 2.06 หมื่นล้านบาท +5.1% สูงสุดในรอบ 8ปี โดยการจับจ่ายเน้นที่การซื้ออาหารและเครื่องดื่ม สอดคล้องกับที่ KSS นำเสนอกลยุทธ์ช่วงก่อนหน้าที่หุ้นในกลุ่มค้าปลีก เครื่องดื่ม สื่อสาร ท่องเที่ยวมักให้ผลตอบแทนเป็นบวกเด่นกว่าตลาดในช่วงที่มีมหกรรม เชิงกลยุทธ์ หุ้นในธีม EURO 2024 แนะนำ CPALL ADVANC TRUE MINT BJC HMPRO SAPPPE DOHOME OSP ICHI

• (*/+) Econ Cabinet: ผลประชุม ครม. เศรษฐกิจครั้งที่ 2 ของปี 2024 วานนี้

เรื่องหลัก คือ วางแผนจะผลักดัน GDP ปี 2024 ให้ขยายตัวถึง 3% ผ่านการเดินหน้า 3 มาตรการ คาดหนุน GDP เพิ่มได้ราว 0.51% คือ

1) กระตุ้นท่องเที่ยว วางเป้าหมายเพิ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 1 ล้านคนเป็น 36.7 ล้านคน (เป้าเดิม 35.7 ล้านคน) จิตวิทยาบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว อาทิ AOT MINT

2) เร่งรัดการลงทุนภาครัฐฯ จากปัจจุบันที่การเบิกจ่ายยังต่ำกว่าเป้าหมายในส่วนงบลงทุน (20% ของงบประมาณ) คือ ปัจจุบันเพิ่งเบิกจ่ายราว 41% ซึ่งภาวะปกติจะเบิกจ่ายได้ราว 60% แต่รัฐบาลตั้งเป้าหมายจะเบิกจ่ายให้ได้มากกว่า 70% โดยวันที่ 12 มิ.ย. จะหารือกับหน่วยงานที่ยังเบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมายถึงแนวทางในการเร่งเบิกจ่าย จิตวิทยาบวกต่อกลุ่มรับเหมา เน้น CK

3) กระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะในส่วน BOI ที่อนุมัติไปแล้ว จะเร่งให้มีการลงทุนจริง จิตวิทยาบวกต่อกลุ่มนิคม เน้น WHA

เชิงกลยุทธ์ โดยรวมเรามองเป็นบวกเล็กน้อย แม้เราเห็นแนวทางการผลักดัน Upside ของ GDP ในช่วงที่เหลือของปีนี้ที่มีความเป็นไปได้จากแนวทาง ครม. เศรษฐกิจดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ด้วยความเสี่ยงภาวะการเมืองปัจจุบันที่อาจจะสะดุด จากกรณีคดีคุณสมบัตินายกฯ เรามองระยะสั้นตลาดจะยังไม่ให้น้ำหนักต่อ Upside ดังกล่าว จนกว่าจะเห็นภาพ ครม. ชุดปัจจุบันหรือ ครม. ที่แต่งตั้งใหม่ (กรณีคุณเศรษฐาผิดคุณสมบัติ) เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต่อ

• (*/+) LTF: รมว. คลัง เปิดเผย ความคืบหน้าในเรื่องการตั้งกองทุนระยะยาว เพื่อสนับสนุนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งการฟื้นกองทุน LTF ว่าในแนวทางของรัฐบาลสนับสนุนการตั้งกองทุนเพื่อลงทุนหุ้นระยะยาว โดยจะมีการตั้งขึ้นใหม่แน่นอน อยู่ระหว่างให้ตลาดทุนทำงานร่วมกับกรมสรรพากร เพื่อให้กำหนดว่าหน้าตาเป็นอย่างไร แล้ว สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) จะมาหารือร่วมกัน และจะมีกองทุนอื่นๆ ที่รัฐบาลพยายามจะดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มเติมด้วย มองจิตวิทยาบวกส่วนหนึ่งช่วยลดความผันผวน SET ระยะนี้

• (*) TH Tourism: จำนวนผู้ใช้บริการสนามบิน AOT เดินทาง ตปท. (ชี้นำนักท่องเที่ยวต่างชาติ) 1-8 มิ.ย. อยู่ที่ 88.4% ของช่วง Pre-COVID ชะลอลงจาก พ.ค. 24 ที่ สูง 92.9% ของช่วง Pre-COVID เรามองส่วนหนึ่งน่าจะมาจากฐานผู้ใช้บริการ มิ.ย. 19 ที่สูงกว่า พ.ค. 19 (นักท่องเที่ยวต่างชาติ มิ.ย.19 = 3.06 ล้านคน พ.ค. 19 = 2.74 ล้านคน) ทั้งนี้ ภาพรวมระดับผู้ใช้บริการที่ใกล้ 90% +/- ของ Pre-COVID ผสาน มาตรการฟรี วีซ่าชาติต่างๆที่เพิ่มขึ้นจะมีผลตั้งแต่ ก.ค. 24 หนุนเรามองนักท่องเที่ยวปี 24F ที่ 35.5-36 ล้านคน ระยะสั้นเน้น AOT ที่ผันผวนช่วงนอกฤดูกาลจำกัด, MINT ที่มีแรงหนุนฤดูกาลฝั่งยุโรป

• (*) To monitor: 12 มิ.ย. 1) ศาลปกครองสูงสุด นัดอ่านคำพิพากษาในคดี BTSC บ.ย่อย BTS ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม กรณีเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ให้แตกต่างจากหลักเกณฑ์เดิม ทั้งนี้ คดีนี้ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง 2) ติดตามการประชุม กนง. คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% 3) การเมือง i) ติดตามกำหนดการศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำตัดสินคดีคุณคุณสมบัติคุณเศรษฐา หลังนายกเซ็นลงนามคำชี้แจงแล้ว โดยจับตาวันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งเป็นปกติที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมกันทุกวันพุธว่าจะมีการวางกรอบเวลาคดีดังกล่าวเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง ii) ) 12 มิ.ย. การพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล 4) ติดตามความชัดเจนกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF)

 

 

Daily Strategy : HANA, SPRC, OSP เด่น

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "Rebound" ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นภาพรอเงินเฟ้อ CPI และผลประชุม Fed กลางสัปดาห์ แต่มีจุดดีที่ราคาน้ำมันฟื้นตัวแรง 2.5-2.9% ผสาน หุ้นเทคฯนำตลาดสหรัฐฯ มองหุ้นในกลุ่ม Global Plays ใน SET มีภาพ Rebound ได้บ้าง ระหว่างรอความชัดเจนกลางสัปดาห์ที่บ่งชี้ทิศทางหุ้น Domestic ชัดเจนเพิ่มขึ้น ทั้งกรณีศาลรัฐธรรมนูญเตรียมพิจารณาคดีพรรคก้าวไกล และอาจมีการระบุถึงกรอบเวลาคดีคุณสมบัติคุณเศรษฐาฯ ทั้งนี้ หุ้นนำระยะสั้นวันนี้ เรามอง 1) หุ้นน้ำมัน+โรงกลั่น อาทิ PTTEP TOP SPRC 2) หุ้นชิ้นส่วน อาทิ HANA แรงหนุนจาก Apple เปิดตัว AI – Apple Intelligence มีโอกาสเร่งภาพเปลี่ยน Smart Devices ระยะถัดไป 3) หุ้น Defensive อาทิ สื่อสาร ร.พ. ขนส่งมวลชน 4) กลุ่มเกาะกระแสฟุตบอล EURO 2024 เช่น เครื่องดื่ม

 

หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกผ่านจุดต่ำสุด + เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวหนุนอุตสาหกรรมทยอยเข้าสู่ Upgrade Cycle (HANA, SCGP, IVL, GLOBAL, DOHOME)
กลุ่มภาคผลิตไทยฟื้นตัว y-y ครั้งแรกในรอบ 19 เดือนหนุน (GFPT, TU, OSP, CBG, SCGP, IVL, STA, NER)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรการท่องเที่ยวชุดใหญ่ของรัฐฯ หนุน บริโภค ท่องเที่ยว โรงแรม ร.พ. (CPALL, BJC, ICHI, AOT, MINT, ERW)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, GPSC, CPALL, TRUE, MINT, WARRIX, MTC)
กลุ่มได้ประโยชน์ Microsoft ลงทุน Data Center ในไทย (ADVANC, TRUE, INSET, WHA)
กลุ่มได้ประโยชน์เทศกาลฟุตบอลยูโร 2024 (CPALL ADVANC TRUE MINT BJC HMPRO GLOBAL SAPPPE DOHOME OSP ICHI)

• JUNE24 Best Picks: MINT, GFPT, HANA, ICHI, OSP, BJC, MTC

• 2Q24Stock Picks : AOT, BJC, HANA, HMPRO, IVL, MINT, MTC, SCGP, TU Mid-Small Cap Play : OSP, WARRIX, SJWD, STEC

 

Tactical & Investment Idea

 

Research Highlight

 

• Strategy Update : SET50/100 Last Update

ทีมกลยุทธ์ได้คำนวณหุ้นเข้า/ออก SET50-SET100 สำหรับรอบ 2H24 ก่อนที่ตลาดจะประกาศการคัดเลือกหุ้นเข้าออกรอบนี้ในช่วงกลางเดือน มิ.ย. 2024 และมีผลเริ่มใช้ 1 ก.ค. 2024 ด้วยเกณฑ์การคัดเลือกล่าสุด โดยสำหรับผลการคำนวนครั้งนี้ใช้ข้อมูลตั้งแต่ 1 พ.ค. 2023 – 31 พ.ค. 2024 (ข้อมูลครบตามเกณฑ์คำนวณของตลาดฯ) ผลของการคาดการณ์น่าจะมีความใกล้เคียงสูง เราหวังว่าบทวิเคราะห์ฉบับนี้จะช่วยให้นักลงทุนเตรียมตัวสำหรับการลงทุนในดัชนี SET50 และ SET100 ล่วงหน้าได้ หุ้นเข้าและออกมีรายละเอียดดังนี้

• หุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 รอบนี้มี 4 บริษัท คือ BJC (โอกาสเข้า 100%), BCP (โอกาสเข้า 90%), TIDLOR (โอกาสเข้า 90%) และ ITC (โอกาสเข้า 90%)

• หุ้นคาดว่าจะหลุด SET50 รอบนี้ 4 บริษัท คือ BANPU, (โอกาสหลุด 90%), SAWAD (โอกาสหลุด 90%), KCE (โอกาสหลุด 100%) และ COM7 (โอกาสหลุด 100%)

• หุ้นที่คาดเข้า SET100 รอบนี้มี 9 บริษัท คือ BJC, BA, MBK, CKP, JAS, QH, SKY, PRM, TIPH

• หุ้นที่คาดว่าจะหลุด SET100 รอบนี้ 9 บริษัท คือ AURA, BYD, FORTH, MOSHI, NEX, ORI, SNNP, THG, TKN

กลยุทธ์ แนะนำ เก็งกำไร BJC, BCP, ITC ที่จะเข้า SET50 ส่วน SET100 แนะนำเก็งกำไร BA, CKP

• Strategy Update : EURO 2024 Plays

Fact : มหกรรมฟุตบอลยูโร หนึ่งในรายการฟุตบอลนานาชาติที่จุดทุกๆ 4 ปี ที่ชาวไทยเฝ้าติดตามสูงสุด จะเริ่มต้นอีกครั้ง กลาง มิ.ย. 2024 นี้ โดยทุกๆทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลระดับโลก เม็ดเงินจับจ่ายใช้สอยจะเร่งขึ้นสูงถึงระดับ 1.5-1.8 หมื่นล้านบาท นับว่ามีนัยสำคัญ เทียบกับช่วงเวลามหกรรมที่สั้นราว 1 เดือน โดยมีสินค้าหลักที่ความต้องการพุ่งสูงขึ้นช่วงเวลา ได้แก่ อาหาร+เครื่องดื่ม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์กีฬา

Analysis จากการผลการศึกษาผลการเคลิ่นไหวอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกลุ่มสินค้าดังกล่าวในช่วงเวลาที่มีเทศกาลเกิดขึ้นย้อนหลัง 5 ครั้ง กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากกำลังซื้ออุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงมหกรรมดังกล่าว อาทิ สื่อสาร โรงแรม ค้าปลีก และอาหาร ให้ผลตอบแทน 7.2% 6.3% 4.5% และ 1.8% ในช่วงฟุตบอลยูโร 3 รอบ (ไม่รวมรอบที่มี Market Risk ในปี 2008 (Subprime Crisis) และ 2021 (COVID-19)) ขณะที่พบว่ากลุ่มอาหารระยะหลังที่ทยอยมีหุ้นเครื่องดื่มเข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น แม้ในช่วงปี 2021 ที่ตลาดมีปัจจัยเสี่ยง Market Risk ยังสามารถให้ผลตอบแทนชนะตลาดได้ที่ +1.0% vs SET -5.3%

Strategy : เชิงกลยุทธ์ พบว่า หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวที่มักให้ผลตอบแทนเด่นชนะตลาดในช่วงเวลาที่มีเทศกาลฟุตบอลยูโรเฉลี่ย 15.3%-2.7% ถือเป็นชุดหุ้นที่มีความน่าสนใจและเหมาะกับการเก็งกำไรในรอบตลาดปัจจุบันที่กำลังตั้งฐานฟื้นตัว ได้แก่ CPALL(TP-80) ADVANC(TP-275) TRUE (TP-10.3) MINT (TP-42) BJC (TP-33) HMPRO (TP-15) GLOBAL (TP-17.6) SAPPPE(TP-125) DOHOME (TP-12.3) OSP(TP-26) ICHI(TP-22)

 

• Strategy Update : FTSE Rebalance

FTSE ประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่จะมีผล Rebalance ในราคาปิด วันที่ 21 มิ.ย.2024FTSE ALL World Index(Large + Mid Cap) วัน Rebalance เป็นการเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย คิดเป็นเม็ดเงินราว +50 ล้านเหรียญฯโดยหลักๆ เป็นการเพิ่มน้ำหนัก SAWAD BGRIM, CPF ,MINT เฉลี่ยราว +20 ถึง +10 ล้านเหรียญฯ ขณะที่หุ้นเข้า – ออก ในส่วนต่างๆ ดัชนี สรุปได้ดังนี้

o FTSE Large Cap : ไม่มีหุ้นเข้าและหุ้นออก

o FTSE Mid Cap : ไม่มีหุ้นเข้าและหุ้นออก

o FTSE Small Cap : ไม่มีหุ้นเข้าและหุ้นออก

o FTSE Micro Cap : หุ้นเข้า SAFE, TAN หุ้นออก : ไม่มี

• Strategy Update : Data Center

• กระแสลงทุน Data Center ในไทยกำลังเร่งขึ้น อย่างเป็นรูปธรรม มีสัญญาณบ่งชี้จาก 1) WHA มีโอกาสสูงเซ็นสัญญาขายที่ดินขนาด 400-500 ไร่ให้กับผู้ประกอบการ Data Center ระดับโลกกลางปี 2024 นี้ 2) เริ่มผู้ประกอบการ Data Center ที่เคยลงทุนในประเทศไทยไปแล้วติดต่อผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า วางแผนร่วมกันถึงกำลังผลิตไฟฟ้าที่ต้องการสำหรับแผนขยายการลงทุนเพิ่มเติมระดับ 100+ MW

• การลงทุนดังกล่าว เรามองบวกต่อการสร้าง S Curve ใหม่ๆต่อเศรษฐกิจไทยที่ชัดเจนขึ้น อิงขนาดที่ดินที่มีโอกาสขายขนาดใหญ่ WHA บ่งชี้ทิศทางผู้ประกอบการต่างชาติน่าจะมองไทยหนึ่งในศูนย์กลางData Center ของภูมิภาค

• KSS ประเมินทิศทางจะเปิด Upside ของหุ้นกลุ่มต่างๆ ดังนี้ 1) กลุ่มนิคม จากโอกาสขายที่ดิน 2) กลุ่มโรงไฟฟ้า จากโอกาสต่อยอด Upside กำลังผลิตเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มที่เน้นพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น 3) กลุ่มผู้ให้บริการโทรคมนาคม ที่มักเป็นกลุ่มช่วยให้ผู้ประกอบการระดับโลกเช่าใช้ Data Center ที่มีเพื่ออำนวยความสะดวกธุรกิจช่วงเริ่มต้น + โอกาสเติบโตจากการผลักดันมีการใช้งานข้อมูลเพิ่มขึ้นระยะกลาง-ยาว 4) กลุ่มผู้รับเหมา ICT ที่มีศักยภาพสร้าง Data Center 5) กลุ่ม Digital Tech จากมุมมองเชิงบวกต่อภาพ Digital Transformation ระยะยาว เชิงกลยุทธ์หากประกอบภาพพื้นฐานหุ้นระยะสั้น ให้เน้น WHA(TP-6) GULF(TP-45.5) TRUE(TP-10.3) INSET(TP-3.2)

 

• AP (Buy, TP*15.5): มุมมอง slightly positive ต่อ Apr-May 24 presale ที่ราว 10.5 พันลบ. ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีกว่าที่คาด ทั้งนี้หาก Jun-24 presale ยังดี จะทำให้ 2Q24F presale มีโอกาสโต y-y, q-q มาที่ราว 14.0-15.0 พันลบ. ได้ (Vs. 1Q24 ที่ 9.7 พันลบ. และ 2Q23 ที่ 12.6 พันลบ.) สำหรับแนวโน้มการโอน 2Q24F คาดดีขึ้น q-q เช่นกัน และคาดกำไรสุทธิ 2Q24F จะโต q-q หรืออยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงราว 1.2-1.3 พันลบ. ได้ สำหรับกำไรสุทธิ 2024F ที่เราคาดโต +6% y-y ที่ 6.4 พันลบ. จะมีโอกาส downside เล็กน้อย แต่คาดว่ายังพอมีโอกาสใกล้เคียงปีก่อน (ซึ่งเป็น new high ปีที่ 4 ต่อกัน) หรือโตเล็กน้อย y-y เราคงคำแนะนำ BUY ที่ TP24F ที่ 15.5 บาท/หุ้น และเป็น top pick โดยจุดเด่นคือ แผนธุรกิจปี 2024F ที่ยัง aggressive ผลักดันให้ยังมีโอกาสเพิ่ม market share ต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันคาดได้ประโยชน์จากมาตรการลดค่าโอนและจดจำนองมากกว่าบริษัทอื่นในกลุ่มฯ ทำให้ภาพรวมกำไรสุทธิ 2024-25F น่าจะยังดีกว่ากลุ่มฯ ทั้งนี้ราคาหุ้นปัจจุบัน trade ที่ PER เพียง 4.3x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมาก จึงยังเป็นโอกาสสะสม

• BE8 (Buy, TP*21): We still have a negative outlook on BE8 during short-term as 2Q24's earnings should continue to fell yoy. Thus, we trim its earnings forecast in 2024 down by another 8% to Bt265m (+4% yoy) and cut our TP to Bt21. However, given that we believe its share price is too undervalued. We upgrade our recommendation from NEUTRAL to BUY on 3Q24.

• TTW (Buy, TP*9.4): TTW's prospects are looking better in 2Q24 in the light of earnings recovery for both tap water unit and power unit. Tap water sales grew favorably 8.4% qoq in April-May coupled with stable electricity cost, profit from tap water is set to rise. Power unit is anticipated to turnaround to a profit in 2Q24 from and loss in 1Q24 premised on higher water level at NN2 and XPCL and lower gas cost for SPP units. TTW's share price correction 5% YTD did not factored in these better outlook. At last close, it is trading at -0.6SD of historical average PER and it provides attractive TTR of 14%. We believe TTW is a safe heaven in the current climate and we upgrade to BUY rating with unchanged TP of Bt9.4.

 

2Q24F Equity Outlook : Entering into "Search of Yield", Standby for Asia & Thailand Recovery

Stock Best Picks : AOT, BJC, HANA, HMPRO, IVL, MINT, MTC, SCGP, TU

Mid-Small Cap Play : OSP, WARRIX, SJWD, STEC

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้