ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อต่ำกว่า 1% ดอกเบี้ยลงยากขี้น
เงินเฟ้อเดือน พ.ค.67 ของบ้านเราออกมาสูงกว่าคาดที่ 1.54%YOY ส่งผลทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (ดอกเบี้ยนโยบาย-เงินเฟ้อ) ลดลงมาอยู่ที่0.96% ต่ำกว่าทั้ง สหรัฐ และ ยุโรป ภาวะดังกล่าวทำให้โอกาสที่จะเห็น กนง.ปรับลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.67 แทบจะไม่มี และเป็นไปได้ที่อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% ไว้ในช่วงที่เหลือของปี ทั้งนี้ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด และอัตราดอกเบี้ยแท้จริงต่ำกว่า 1% น่าจะมีส่วนทำให้เงินบาทอ่อนค่ากดดัน FUND FLOW ไหลออก สำหรับประเด็นการเมืองสัปดาห์นี้ ต้องรอความคืบหน้าของ 2 คดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญได้แก่ กรณีนายกฯเศรษฐา และ พรรคก้าวไกล ซึ่งถือเป็น SENTIMENT เชิงลบต่อ SET INDEX อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องติดตามคือกรณีที่ANAN นักประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 27 มิ.ย.67 ว่าจะมีแนวทางเพิ่มความเชื่อมั่นหรือไม่SET INDEX ยังอยู่ในภาวะที่ขาดแรงหนุน ขณะที่ความกังวลเรื่องการเมืองก็ยังปกคลุมตลาด คาด SET INDEX วันนี้อยู่ในกรอบ 1323 –1338 จุด หุ้นTOP PICK เลือก CPN, GULFและ SCCC
โอกาสลดดอกเบี้ยไทยปีนี้ยากขึ้น หลังเงินเฟ้อไทยดีดตัว
กระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือน พ.ค. +1.54%YOY (สูงกว่าคาด1.2%) ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ +0.19%YOY หลังฐานราคาต่ำ บวกกับราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มพลังงาน อาหารสด ผักสด และไข่ไก่ ส่งผลให้เงินเฟ้อไทย5 เดือนแรก -0.13%AOA ส่วน CORE CPI ล่าสุด +0.39%YOY ตามคาด โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ (0.37%)พร้อมกันนี้ยังได้คาดการณ์เงินเฟ้อไทยเดือน มิ.ย. 67 มีแนวโน้มสูงขึ้น แต่อยู่ในอัตราที่ชะลอตัวลง หลังราคาน้ำมันดีเซลขยับขึ้น 33 บาท/ลิตร และยังมีความเสี่ยงจากสงคราม อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้ออาจชะลอลงจากเศรษฐกิจเติบโตช้ากว่าคาดขณะที่ BLOOMBERG คาดการณ์เงินเฟ้อไทยใน 2Q67 จะขยับขึ้นเป็น +0.6%YOYและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นใน 3Q67-4Q67 ที่ระดับ 1.1%YOY –2.0%YOY สอดคล้องกับการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตต่อเนื่อง
ทิศทางเงินเฟ้อไทยที่สูงขึ้น เริ่มส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงมีแน้วโน้มปรับตัวลดต่อเนื่อง จนล่าสุดอยู่ที่ 0.96% (ดอกเบี้ย 2.5% - เงินเฟ้อ 1.54%) ซึ่งอยู่ในระดับต่ำกว่าหลายๆ ประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย 3.41%, สหรัฐฯ 2.1%, ยุโรป 1.65%, จีน 1.2%เป็นต้น อาจเป็นสาเหตุกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าในช่วงที่ผ่านมา และกระทบต่อการไหลเข้าของ FUND FLOW นอกจากนี้อาจทำให้โอกาสที่จะเห็น กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ น้อยลงไปเรื่อยๆ
สำหรับทิศทาเงินเฟ้อสหรัฐฯ มีแนวโน้มค่อยๆ ชะลอตัวลง ท่ามกลางตลาดแรงงานที่ยังดูแข็งแกร่ง โดยตัวเลข NONFARM PAYROLL ล่าสุดเพิ่มขึ้น 272,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าคาดและเดือนก่อนหน้า ทำให้มุมมองการลดดอกเบี้ยสหัรฐฯ ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ราว 1-2 ครั้ง ทั้งนี้ รอติดตามคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ย DOT PLOT ในการประชุมFED วันที่ 13 มิ.ย. นี้
สรุป ทิศทางเงินเฟ้อไทยที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงมีแน้วโน้มปรับตัวลดต่อเนื่อง อาจเป็นสาเหตุกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าในช่วงที่ผ่านมา และกระทบต่อการไหลเข้าของ FUND FLOW นอกจากนี้อาจทำให้โอกาสที่จะเห็น กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ยากขึ้น
กระแสการเมืองยังเป็นประเด็นหลักที่ต้องติดตาม ลุ้นค่อยๆผ่านไปทีละด่าน
ช่วง 3 วันที่ผ่านมา ความคืบหน้าทางการเมือง ผ่านไปหลายด่านเหมือนกัน ทั้งในวันศุกร์ กกต. ไม่เลื่อนเลือกตั้ง สว. และเริ่มเลือกตั้งสว. ระดับอำเภอในวันที่ 9 มิ.ย. 67ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่นายกเศรษฐา เซ็นคำชี้แจงศาล รธน. ปม 40 สว.ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 67 แล้ว
ส่วนประเด็นติดตามถัดไป คือ วันที่ 12 มิ.ย.67 รอดูศาลรัฐธรรมนูญประชุมคดียุบพรรคก้าวไกล ขณะที่วานนี้ “พิธา” หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวการสู้คดียุบพรรคก้าวไกล โดยย้ำแนวทางการต่อสู้มีทั้งหมด 9 ข้อต่อสู้โดยมีรายละเอียดดังนี้
▪ ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีเขตอำนาจพิจารณาวินิจฉัยคดี
▪ กระบวนการยื่นคำร้อง กกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
▪ คำวินิจฉัยของคดีเมื่อ 31 ม.ค.67ไม่ผูกพันต่อคดีนี้
▪ การกระทำที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นการล้มล้าง ไม่อาจเป็นปฏิปักษ์
▪ การกระทำตามคำวินิจฉัย เมื่อ 31 ม.ค.67ไม่ได้เป็นมติของพรรค
▪ โทษยุบพรรคต้องเป็นมาตรการสุดท้าย
▪ ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค
▪ จำนวนปีในการตัดสิทธิ์ทางการเมืองต้องได้สัดส่วนกับความผิด
▪ การพิจารณาโทษต้องสอดคล้องกับกรรมการบริหารพรรคในช่วงที่ถูกกล่าวหา
ส่วนระยะถัดไปยังมีปะเด็น วันที่ 18 มิ.ย.67 อัยการจะนำ อดีตนายกฯทักษิณ ส่งฟ้องศาลฯ ข้อหาความผิดตาม ป.อาญา ม.112 ซึ่งล่าสุด อดีตนายกฯ ทักษิณ ยืนยันว่าจะไปพบออัยการตามกำหนดส่งฟ้องฯ
ประเด็นทั้งหมดที่กล่าวมา หากนำมาพิจารณารวมกับทิศทางตลาดหุ้น พบว่า ในช่วงการเมืองร้อนแรงกดดันให้ FUND FLOW ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยทุกวันตลอด 12วันทำการที่ผ่านมา ด้วยมูลค่ารวมกว่า 2.28 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามในวันศุกร์เริ่มเห็นแรงขายที่ลดน้อยลงเหลือ 496 ล้านบาท และ SET INDEX ยังบวกเล็กน้อย4.33 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นที่แรงสุดในตลอด 12 วันทำการ
สรุปประเด็นการเมืองค่อยๆ ผ่านไปทีละด่าน อาจจะช่วยหนุนให้ FUND FLOW ค่อยๆชะลอการไหลออกในระยะถัดไป ตราบที่ไม่มีความรุนแรงใดๆ เพิ่มเติม และถ้ามีเม็ดเงินLTF หรือมาตรการคุมเข้มการชอร์ตเชลล์จากตลาดฯ มาช่วยหนุนน่าจะเร่งให้ SETINDEX ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นได้ ภายใต้ภาวะดังกล่าว แนะนำค่อยๆ สะสมหุ้นพื้นฐานดีราคาถูก AP SPALI SCC SCCC CK TTCL BBL TU MTC SNNP SJWD
Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์