Market Wrap-Up
- SET วันที่ 7 มิ.ย.67 ปิด +4.33 จุด อยู่ที่ 1,332.74 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,269 ลบ.ต่างชาติขาย 495 ลบ.สถาบันซื้อ 115 ลบ.รายย่อยซื้อ 427 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 860 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น AOT,BBL,KTB,ADVANC,CPALL และมียอดขายสุทธิ HANA,DELTA,BTS,LH,PTTEP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 5,430 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ PSH,IVL-R,THANI-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 12,686 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 70,001 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 161 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.22%, S&P500 -0.11%, Nasdaq -0.23% กลุ่มสาธารณูปโภค, วัสดุ, บริการสื่อสารปรับลดลง หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ค. สูงกว่าคาด ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี อยู่ที่ 433% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.22% อสังหา ฯ -3% หลัง Euro Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.624% กังวลเฟดอาจลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด
Market View
- สัปดาห์ที่ผ่านมา DJIA +0.29%, S&P500 +1.32%, Nasdaq +2.38% WoW ได้แรงหนุนจากตัวเลขเปิดรับสมัครงาน, จ้างงานนอกภาคเอกชนสหรัฐมีสัญญาณชะลอตัว แต่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ค. เพิ่มขึ้น 272,000 & คาด 185,000 & เม.ย. 175,000 ราย, อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0% และค่าจ้างเฉลี่ยราย ชม. พ.ค. +0.4% & คาด +0.3% MoM ส่งผลให้ CME Fed Watch คาดเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยใน พ.ย. หรือ ธ.ค. และคาดลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง วันอังคารติดตาม US CPI พ.ค. คาดทรงตัว +3.4% YoY แต่ +0.2% & เม.ย. +0.3% MoM , วันพุธประชุม FOMC คาดคงดอกเบี้ยที่ 5.25 – 5.50% และคาดการณ์ Fed Dot Plot
- ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.03% WoW หลัง ECB ลดดอกเบี้ย 25% ดอกเบี้ยเงินฝากลดลงอยู่ที่ 3.75% โดย ECB คาดเงินเฟ้อยูโรโซนปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 2.5%, ปี 68 คาดที่ 2.2% และปี 69 คาดที่ 1.9% แต่คาดจะยังไม่ลดดอกเบี้ยต่อใน ก.ค. เนื่องจากยังกังวลต่อเงินเฟ้อมาจากภาคบริการ
- MSCI Asia Picific X Japan +2.79% WoW หลัง BSE Sensex อินเดีย +3.69% WoW จากผลการเลือกตั้งอินเดีย นายกฯโมดีชนะเลือกตั้งสมัยที่ 3 แม้ว่าจะได้เสียงในสภา ฯ น้อยกว่าครั้งก่อน ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเหนือ เช่น ฮ่องกง, เกาหลีใต้, ไต้หวัน ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลังตลาดแรงงานสหรัฐมีสัญญาณชะลอตัว สัปดาห์นี้วันพุธ ติดตาม CPI จีน พ.ค. คาด 0.4% & เม.ย. 0.3% YoY , PPI จีน พ.ค. คาด -1.5% & เม.ย. -2.5% YoY และวันศุกร์ประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.1%
- ดัชนี SET -0.96% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน25 หมื่น ลบ. -7.9% WoW ต่างชาติขาย 6,045 ลบ. สถาบันซื้อ 1,947 ลบ. รายย่อยซื้อ 3,962 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 136 ลบ. โดยกลุ่มปิโตร -6.4%, พลังงาน -1.9% WoW ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ กอปรอุปสงค์จากจีนฟื้นตัวเนื่องจากยังมีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลืออยู่มาก ส่วนกลุ่มไฟแนนท์ -3.0% WoW ถูกกดดันจากคาดการณ์การประชุม กนง. วันที่ 12 มิ.ย. ยังคงดอกเบี้ยที่ 2.5% และอาจตรึงจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่กลุ่มช่วยหนุนดัชนี คือ ไอซีที +2.0% WoW เป็นกลุ่มปลอดภัยและได้ประโยชน์จากการใช้มือถือในช่วงเทศกาลฟุตบอลยูโร และกลุ่มอิเล็ก ฯ +1.6% WoW ฟื้นตัวกลุ่มเทค ฯ ในภูมิภาค หลัง US Bond Yield ปรับลดลง โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิจากความกังวลปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยวันที่ 12 มิ.ย. ศาล รธน.นัดฟังคำสั่งกรณียุบพรรคก้าวไกล, 18 มิ.ย. อัยการสั่งฟ้องทักษิณกรณีละเมิด ม.112 และคำร้อง 40 สว.กรณีคุณสมบัตินายก ฯ เศรษฐา ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล รวมถึงข่าวรัฐบาลพยายามเข้าแทรกแซงการสรรหาผู้ว่า ธปท.ท่านใหม่ แทนผู้ว่าปัจจุบันที่หมดวาระใน ก.ย. 68
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,330 จุด กรณียืนไม่ได้มีโอกาสปรับฐานลงสู่แนวรับถัดไปที่ 1,293 – 1,313 จุด โดยมีแนวต้านที่ 1,340 สัปดาห์นี้ติดตามผลการประชุม Fed, กนง. และ BOJ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มปลอดภัย ADANC,INTUCH,BH/ กลุ่มได้ประโยชน์ในช่วงฟุตบอลยูโร CPALL,MINT / เก็งกำไร RCL,WICE,SINO ตามค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ที่ปรับขึ้น
- กลุ่มเดินเรือและโลจิสติกส์ มีปัจจัยหนุนจากแนวโน้มค่าระวางเรือ Container ที่ปรับตัวขึ้นในช่วง 2Q67 เนื่องจากความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง ปัญหา Port congestion ประกอบกับความขัดแย้ง Trade war สหรัฐฯ จีน ในเรื่องกำแพงภาษีจะเป็นตัวกระตุ้นให้มีการเร่งส่งออก นอกจากนี้ยังคาดว่าการขนส่งในภูมิภาคอยู่ในช่วงฟื้นตัวตามทิศทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งจะข้าสู่ช่วง manufacturing season ใน 3Q67 ดังนั้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์ตรงอย่าง RCL และกลุ่ม freight forwarder ที่มีธุรกิจขนส่งทางเรือมากและอิงกับเส้นทางการขนส่งของจีนและสหรัฐ เช่น WICE, SINO
- TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมายปี67 19.50 บาท) กำไรปกติ 1Q67 อยู่ที่ 892 ลบ.(+10.60%YoY, -24.12%QoQ) สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ดีYoY ในส่วน ของ operation หลักจากธุรกิจ Petcare และ Ambient Seafood ส่วน 2Q67 เราคาดเห็นกำไรแกว่งขึ้น YoY QoQ จาก 1.ฐานต่ำปกติใน 2Q66 จากในช่วงเวลาดังกล่าว Inventory คู่ค้าอยู่ในระดับสูงจึงไม่ออเดอร์สินค้าใหม่คาดต้นทุนราคาปลาทูน่าอยู่ในระดับต่ำ 1,300-1,500 usd/ton (จากช่วง 2Q66 ที่ 2,000 usd/ton ) ทั้งนี้ราคาปลาทูน่าที่มีโอกาสแกว่งจากโซนล่าง(ราว1,300 usd/ton ใน 1Q67)ขึ้นบน(แต่ไม่สูงเกินไป ไม่สูงกว่า 1,800 usd/ton โดย เม.ย.67 ที่ 1,375 usd/ton& พ.ค.67ที่ 1,480 usd/ton) นอกจากต้นทุนสินค้าใน Inventory ถูกแล้ว ยังดีต่อการปรับราคาขายOEMขึ้นด้วย เป็นบวกมากต่อมาร์จิ้น
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ก.ค. -$0.02 อยู่ที่ $75.53 / บาร์เรล, Brent ส.ค. -$0.25 อยู่ที่ $79.62/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI -1.9%, Brent -2.5% WoW ถูกกดดันหลังการประชุมโอเปกส่งสัญญาณค่อย ๆ เพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่ ต.ค. นี้ กอปรกังวลอุปสงค์น้ำมันอาจชะลอตัว หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ค. สูงกว่าคาด อาจส่งผลให้เฟดต้องตรึงดอกเบี้ยสูงนานกว่าคาด
Gold Update(-) Comex Gold ส.ค. -$65.90 อยู่ที่ $2,325.00/ออนซ์ สัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาทองคำ -1% WoW หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐสูงกว่าคาด ดังนั้นเทรดเดอร์คาดเฟดจะลดดอกเบี้ยเพียง 0.37% ในปีนี้ จากเดิมคาดจะลด 0.48% ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่า +0.75% อยู่ที่ 104.885 ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อสัญญาทองคำ
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -345.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -165.64 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -143.95 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -35.78 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 36.88 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.446 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +12 จุด อยู่ที่ 1,881
(+) BitCoinเช้านี้ +0.42% อยู่ที่ 69,562 ดอลลาร์สหรัฐ
(0)ตลาดหุ้นจีน, ฮ่องกงวันนีหยุดในเทศกาล Dragon Boat / ออสเตรเลีย หยุดในวัน King’s Birthday
Economic Calendar
ในประเทศ
12 มิ.ย. ประชุม กนง. ครั้งที่ 3/2567
15-16 มิ.ย. ตลท. จัดงาน SET in the City 2024
สัปดาห์ที2 ดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภค
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ
อัพเดตสถานการณ์ลงทุน
สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
10 มิ.ย. CN เทศกาลแข่งเรือมังกร
11 มิ.ย. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( พ.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
12 มิ.ย. US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของFOMC
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)
14 มิ.ย. US รายงานนโยบายการเงินของเฟด
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio June 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th