Berli Jucker (BJC TB)
อัตราภาษีที่สูงขึ้น กลับสะท้อนให้เห็น EBITDA ที่แข็งแกร่ง
โอกาส “ซื้อ” ลดราคาเป้าหมายเป็น 29 บาท
เราคงคำแนะนำ ซื้อ โดยปรับราคาเป้าหมายอิง DCF ลงเป็น 29 บาท (7.1% WACC 2% Growth) เราเชื่อว่าราคาหุ้นลดลงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหลังจากผลกำไร 1Q67 ที่น่าผิดหวัง และตลาดปรับลดคาดการณ์กำไรลงเพื่อสะท้อนอัตราภาษีที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี เราคาดว่าผลการดำเนินงานจะยังเติบโตได้ดี EBITDA เพิ่มขึ้น 9% YoY ในปี 67 จากการเติบโตของยอดขายในทุกกลุ่มธุรกิจของ BJC และอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจากต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบที่ลดลง หุ้น BJC ซื้อขายที่ P/E ปี 67 ที่น่าสนใจที่ 19 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่ 2 SD ปัจจัยหนุนระยะสั้นคือยอดขายได้อานิสงส์จากฟุตบอลยูโร 2024 และการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ
อัตราภาษีสูงขึ้น แต่ EBITDA ก็เติบโตแข็งแกร่ง
เราปรับลดประมาณการกำไรปี 67/68 ลง 23%/12% เพื่อสะท้อนอัตราภาษีที่แท้จริงที่สูงขึ้นเป็น 22-24% จากประมาณการเดิมของเราที่ 15% เนื่องจากผลประโยชน์ทางภาษีที่หมดลง ทั้งนี้ อัตราภาษีของ BJC อยู่ที่เพียง 7-10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีผลขาดทุนยกยอดมาจากบริษัทย่อย แต่อัตราภาษีมีแนวโน้มกลับสู่ระดับปกติที่ 20-24% ตั้งแต่ปี 67 เป็นต้นไป
คาดยอดขายปี 67/68 เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ
เราประเมินรายได้ในปี 67/68 จะเติบโต 5%/4% YoY 0kdการเติบโตของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ ยอดขายบรรจุภัณฑ์มีแนวโน้มฟื้นตัวเนื่องจากยอดขายกระป๋องอลูมิเนียมในประเทศเพิ่มขึ้นและการบริโภคในเวียดนามฟื้นตัว อีกทั้ง คาดว่า BJC จะได้อานิสงส์จากมหกรรมฟุตบอลยูโร 2024 สำหรับธุรกิจแก้วและบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในไทยและเวียดนาม ผนวกกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จะช่วยหนุนยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลจะช่วยกระตุ้นยอดขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับภาครัฐ เรายังคาดว่ายอดขายของบิ๊กซีจะเติบโตจากคาดการณ์ SSSG ที่ 2% และการขยายสาขา
อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจากต้นทุนลดลงและยอดขายเพิ่มขึ้น
เราปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 67/68 ขึ้น 65/61bps โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปี 67 จะเพิ่มขึ้น 79bps YoY เป็น 20.2% นำโดยบรรจุภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค และบิ๊กซี ขณะที่ต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบปรับตัวลดลง เช่น ก๊าซธรรมชาติและโซดาแอช ประกอบกับปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มบรรจุภัณฑ์ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นของสินค้าอุปโภคบริโภคจะได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของบิ๊กซีจะได้รับผลบวกจากยอดขายผลิตภัณฑ์เฮาส์แบรนด์ที่เพิ่มขึ้นเป็น 14% ในปี 67 จาก 12.8% ในปี 66 และต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลง
Suttatip Peerasub
suttatip.p@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1430