ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook
สรุปภาพตลาดวานนี้
SET ไปไม่ไหว ก็ลงต่อไปเลยซะอย่างงั้น โดยเป็นแรงขายต่างชาติ และหน้าหุ้นขายก็เป็นหุ้นฝรั่งเป็นหลัก เช่น AOT PTT PTTEP IVL BBL KBANK เป็นต้น แต่ก็เห็นการ Switching มาอยู่ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA HANA KCE ส่วนหุ้นนักเทรดชาวไทยที่บวกสวน ไม่สนตลาด เช่น RS SAV SFLEX
แนวโน้มตลาดวันนี้
HOLD (รอห้ามเลือด)
แม้ว่ากลยุทธ์หลักในการเลือกเล่นรายตัวยัง Valid และราคาหุ้นรายตัวที่เรา Cover บวกได้ดี อย่างเมื่อวาน เช่น HANA DELTA KCE แต่การไล่ราคาต่อวันนี้อาจมีความเสี่ยงปรับฐาน และหุ้นอื่นที่นอกเหนือจากที่เรา Cover ก็เลือกบวกเช่นกัน แต่เป็นการยากที่จะแนะนำในช่วงที่ตลาดหุ้นโดยภาพรวมเป็นขาลง
วันนี้เราขออยู่ในโหมดรอดูสถานการณ์ตลาด เพราะหากภาพรวมตลาดขาลงยังไหลลงไม่หยุด เรากังวลว่าจะมี Panic sell อีกระลอกกดตลาดให้ได้ซื้อของถูกกว่าเดิม
ซึ่งกลยุทธ์หลักตอนนี้ เราจะเน้นไปที่หุ้นรายตัวแบบ Single Stock Selective แต่วันนี้ขอ รอโอกาสใหม่ ในการเลือกหุ้นเล่นเมื่อตลาดเริ่มนิ่ง (รอให้เลือดหยุดไหล)
กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์ แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว เริ่มโฟกัสไปข้างหน้าหลังเห็นงบทั้งหมดในสัปดาห์นี้ เน้นไปที่แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการณ์ หรือ มองเห็นปัจจัยหนุนชัดเจนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนต่อผลการดำเนินงานหลังจากนี้ เช่น ฤดูกาลท่องเที่ยวของฝั่งตะวันตก (โอลิมปิกฝรั่งเศส, บอลยูโร เยอรมัน)
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ดัชนีปรับลงหลุด low ที่เคยทำไว้บริเวณ 1,330 จุด สัญญาณดูไม่ดีเลย! โดยเฉพาะดัชนีหุ้นใหญ่ กลุ่มธนาคาร พลังงานและปิโตรฯ ซึ่งมีมูลค่าการตลาด market cap. รวมกันสูงกว่า 80% ของตลาดร่วง อาจฉุดให้ SET ไหลลงหลุด low (ผิดคาด) ส่วนคำถาม SET จะลงลึกหรือไม่! มุมกราฟเทคนิคชี้ว่าปัจจุบันดัชนีเข้าสู่ภาวะ oversold เต็มตัวเมื่อ RSI < 30 และกำลังเกิดขึ้นทั้งภาพรายวัน & รายเดือน ส่วนค่า PE ของตลาดก็อยู่ในโซนต่ำเช่นเดียวกัน อาจส่งผลให้ดัชนีมีโอกาสเกิดภาพ technical rebound ระยะสั้น แนวรับถัดไปคาดว่าจะอยู่บริเวณ 1,300-1,320 จุด…ลงไม่ลึก! อย่างไรก็ตามเราแนะแผนป้องกันความเสี่ยงหากผิดคาด อาจต้องยอมลดพอร์ต ลงไปบ้าง….ส่วนแผนแก้เกมส์ หุ้นที่เคยแนะนำ
What to watch
การลดดอกเบี้ย 0.25% ครั้งแรก ในรอบเกือบ 5 ปี ของ ธนาคารกลางยุโรป (6 มิ.ย.) ส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินฝากเหลือ 3.75% ดอกเบี้ยเงินกู้ 4.5%
เงินเฟ้อ ไทย เดือน พ.ค. เร่งตัวขึ้น 1.2% y-y
ราคาน้ำมันดิบ ไม่ตอบรับข่าว OPEC+ ขยายเวลาลดการผลิตน้ำมันจนถึงปี 68 OPEC+ ปรับลดกำลังการผลิตรวมกันอยู่ที่ 5.86 ล้านบาร์เรลต่อวัน /ขยายเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันออกไปอีก 3 เดือนจนถึง สิ้นไตรมาสที่ 3/2567
หวั่น 'แซดคอม' ยุติบริการมาร์จิน 'ภากร' รับห่วงกระทบ 'เซนติเมนต์ตลาด' หากยกเลิก (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
ตลท.เตรียมจัดโรดโชว์ กลุ่ม นลท.ตะวันออกกลาง ครึ่งหลังปีนี้
คาดหุ้นเข้า SET50 BJC TIDLOR BCP ITC หุ้นออก SAWAD COM7 KCE BANPU
หุ้นแนะนำวันนี้
Wait and see
รายงานพื้นฐานวันนี้
Commerce Sector
ฝนตกหนักปลาย พ.ค. กระทบ SSSG
อัปเดทตัวเลขการเติบโตยอดขายเดิม (SSSG) เดือน พ.ค. ภาพรวม ชะลอตัวลงเล็กน้อยจาก เม.ย. เพราะฝนตกหนักในครึ่งหลังของเดือน โดยภาพรวมอยู่ที่ +0.4% YoY (เดือน เม.ย. อยู่ที่ 0.5% YoY) ซึ่งผิดไปจาก Guidance ผู้บริหารหลังงบฯ ออกว่าจะดูดีขึ้นจาก เม.ย.
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเน้นสินค้าอุปโภค-บริโภค (Grocery retail) แม้การเติบโตจะชะลอตัวลง แต่ยังเติบโตเฉลี่ยที่ 1.4% YoY (เม.ย. 2.8% YoY) เด่นกว่ากลุ่มอื่นๆ หนุนโดย CPALL และ CPAXT (ขณะที่ BigC ยังติดลบ)
ส่วนกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (Discretionary retail) อยู่ที่ 1% YoY (ดีกว่า เม.ย. ที่ 0.8% YoY เล็กน้อย) แต่ใส้ในจริงๆ เกิดจาก ILM ที่ยังได้อานิสงค์เมืองท่องเที่ยว ส่วน CRC ก็ดีขึ้นเล็กน้อยจากกลุ่มแฟชั่น จากติดลบพลิกมาบวก
สำหรับกลุ่มค้าวัสดุซ่อมแซมบ้าน (Home Construction retails) เป็นตัวหลักที่กดดัน โดยอยู่ที่ -2.8% YoY ติดลบน้อยลงจาก -4.5% YoY ในเดือน เม.ย. จากลูกค้างานโครงการที่กลับมาบ้าง
Fundamental View: เรายังชอบ CPALL CPAXT มากที่สุด จากการเติบโตที่โดดเด่น นอกจากนี้ ยังมอง DOHOME เล่นเก็งกำไรได้ จากการฟื้นตัวจากฐานต่ำมากปีที่แล้ว และการเร่งเบิกจ่ายงบฯ
Technology Sector
การขยายการลงทุน Data center และ AI ในประเทศไทย
ในช่วงที่ผ่านมามีการขยับตัวในการขยายการลงทุนทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่าง Data center และ AI จากผู้เล่นระดับโลกในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น Microsoft และ Amazon ซึ่งน่าจะหนุนเม็ดเงินการลงทุนและการขยายตัวด้านเทคโนโลยีในประเทศไทย อย่างไรก็ตามการเติบโตของ Data center ในประเทศไทย มีโอกาสที่จะช้ากว่าประเทศอื่นในภูมิภาคจากทั้งพื้นที่ (มาเลเซียและอินโดนีเซียจะได้การขยายตัวออกมาจากสิงคโปร์) ข้อจำกัดด้านเคเบิ้ลใต้น้ำ ราคาค่าพลังงาน และพลังงานสีเขียว
สำหรับเฟสการลงทุนเราประเมินเป็น 3 เฟสหลักคือ
1) ช่วงก่อสร้าง (กลุ่มนิคม, ก่อสร้าง, ผู้วางระบบ และกลุ่มผู้ให้บริการด้านอุปกรณ์) เช่น WHA, PROEN, INSET, KJL,
2) ช่วงการให้บริการ (กลุ่มไฟฟ้า โดยเฉพาะพลังงานทดแทน, กลุ่มผู้วางระบบและ Cyber security, กลุ่ม Telco) เช่น WHAUP, ITEL, SECURE, GABLE และ
3) เฟสการใช้ AI จะเป็นกลุ่มผู้ให้คำปรึกษษด้าน IT และนวัตกรรม เช่น BBIK, YGG
สรุปประเด็นจาก Quick take
Global Marco Update
ภาคบริการสหรัฐฯ แข็งแกร่ง + ตลาดแรงงานชะลอ หนุนความหวัง Fed ลดดอกเบี้ย
ดัชนีภาคบริการ (ISM Services PMI) ของสหรัฐฯ พุ่งสูงเกินคาด แตะระดับ 53.8 ในเดือนพ.ค. สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในภาคบริการ (สูงกว่าที่คาดการณ์ 50.8) กิจกรรมทางธุรกิจ คำสั่งซื้อใหม่ โดยเฉพาะคำสั่งซื้อส่งออกใหม่ เติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามดัชนีการจ้างงานยังอยู่ในโซนหดตัว
BTS
บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์กับ BTS โดยเรายังไม่เห็นปัจจัยหนุนผลประกอบการในระยะสั้น
View From Fundamental: เนื่องจากแนวโน้มกำไรของบริษัทดูไม่น่าตื่นเต้นในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เราจึงไม่เห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตามการขยายระบบขนส่งมวลชนทั่วกรุงเทพฯ ในอีกหลายปีข้างหน้าจะเสริมสร้างโอกาสในการเติบโตในระยะยาวให้กับ BTS เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” ต่อ BTS ด้วยราคาเป้าหมาย 6.20 บาท
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน