Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

496

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 5 มิ.ย.67 ปิด +1.00 จุด อยู่ที่ 1,338.32 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,600 ลบ.ต่างชาติขาย 121 ลบ.สถาบันขาย 277 ลบ.รายย่อยซื้อ 444 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 575 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น BTS,SCB,COM7,HMPRO,SCC และมียอดขายสุทธิ AOT,KTC,BANPU,DELTA,KBANK มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 5,719 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ NOBLE,AWC-R,RATCH โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 14,866 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 45,169 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,528 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.25%, S&P500 +1.18%, Nasdaq +1.96% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +2.68, บริการสื่อสาร +1.51% นำโดย Nvidia +5.16% หลังตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ พ.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.81% กลุ่มเทคโนโลยี +3.7% จากคาดการณ์ ECB จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันนี้

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลัง ADP เผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน พ.ค. อยู่ที่ 152,000 & คาด 175,000 & เม.ย. 188,000 ตำแหน่ง กอปรตัวเลขเปิดรับสมัครงาน เม.ย. ลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐลดความร้อนแรงลง ดังนั้น CME Fed Watch ชี้โอกาส 57.2% เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ใน ก.ย. ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.284% โดยค่ำวันพรุ่งนี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ค. คาด 185,000 & เม.ย. 175,000 ราย , อัตราว่างงานคาดที่ 3.9%
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +3.7% นำโดย ASML ผู้ผลิตอุปกรณ์ชิปเซมิคอน ฯ +8.1% จากคาดการณ์เชิงบวกต่อคำสั่งซื้อจาก TSMC ส่วน PMI รวมภาคผลิต & บริการยูโรโซน พ.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 52.2 & เม.ย. 51.7 สูงสุดในรอบ 1 ปี โดยค่ำวันนี้คาด ECB จะลดดอกเบี้ยเงินฝาก ธ.พาณิชย์กับ ECB ลง 0.25% อยู่ที่ 3.75% หลังวานนี้ ธ.กลางแคนาดาลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 4.75%
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ & ฮังเส็งปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค & อสังหา ส่วนดัชนีนิเกอิ -0.89% ถูกกดดันจากค่าเงินเยนแข็งค่ากระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก ขณะที่ดัชนี BSE Sensex อินเดียวานนี้ +3.2% อยู่ระหว่างจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วม NDA ได้เสี่ยง 292 น้อยกว่าสมัยก่อนที่ 353 เสียง
  • ดัชนี SET วานนี้ +0.07% ปริมาณการซื้อขาย 86 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 121 ลบ. สถาบันขาย 277 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 45 ลบ. รายย่อยซื้อ 444 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก, ท่องเที่ยว, รพ. เริ่มมีแรงซื้อกลับ หลังถูก Sell on Fact ในช่วงหลังรายงานงบ Q1/67 กอปรกับกลุ่มเหล่านี้คาดการณ์กำไรปีนี้เติบโตดี ตามอุปสงค์การบริโภคในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเที่ยวไทย กอปรได้ปัจจัยหนุนหลัง ครม.เตรียมออก ม.กระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรองในช่วง พ.ค. – พ.ย. 67 ซึ่งเป็นช่วง Low Season ส่วนกลุ่มไฟแนนท์ปรับขึ้นตอบรับแนวโน้มดอกเบี้ยของ ธ.กลางหลัก ๆ เป็นขาลง ส่งผลให้ต้นทุนการเงินมีแนวโน้มลดลงด้วย ประเด็นทางเศรษฐกิจวานนี้ กกร. คาด GDP ไทยปีนี้เติบโตที่ 2.2 – 2.7% แม้ว่า GDP ไทย Q1/67 +1.5% ถูกกดดันจากส่งออกหดตัวและการใช้จ่ายภาครัฐที่ล่าข้า ส่วนปัจจัยการเมือง ศาล รธน.นัดพิจารณาต่อในคดียุบพรรคก้าวไกลวันที่ 12 มิ.ย. และวันพรุ่งนี้นายก ฯ เศรษฐาจะยื่นคำชี้แจงข้อกล่าว 40 สว.ในประเด็นคุณสมบัติไม่เหมาะสมต่อศาล รธน. ซึ่งเป็นปัจจัยฉุดการฟื้นตัวของดัชนี SET

Daily Strategy

  • วาง Filter แนวรับดัชนีที่ 1,330 จุด กรณียืนได้ ดัชนีมีโอกาสรีบาวน์ไปที่แนวต้าน 1,345 – 1,350 จึงให้น้ำหนักเชิงบวกระยะสั้นจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ ธ.กลางหลัก ๆ เป็นไปตาม Timeline เดิม แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มได้ประโยชน์จาก US Bond Yield ลดลง เช่น MTC, TIDLOR, KTC, GULF, MINT, DELTA, DIF   
  • PTG* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.85 บาท) ปี 2567 บริษัทประมาณการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันไว้ที่ 10-12% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ภาคการท่องเที่ยว และกลยุทธ์การตลาดผ่าน PT Max Card โดยมีแผนขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันเป็น 2,251 แห่ง ส่วนธุรกิจ Non-Oil วางเป้าเติบโตไว้ที่ 40-50% โดยเป็นการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG ที่ 30-40% ผ่านจำนวนสถานีบริการ Auto LPG & Gas Shop ที่เพิ่มขึ้นเป็น 788 สาขา ขณะที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทย เพิ่มเป็น 1,282 สาขา ในส่วนของผลประกอบการ 2Q67 คาดฟื้นตัว QoQ, YoY หนุนจากค่าการตลาดที่กลับเข้ามาสู่กรอบ 7-1.8 บาท/ลิตร จากรัฐทยอยปล่อยลอยตัวน้ำมันดีเซลให้สะท้อนต้นทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตามประเด็นค่าแรงยังคงเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตาม
  • SAV (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q67 อยู่ที่ 94 ลบ., +40.68%QoQ, +207.30%YoY ปัจจัยบวกหลัก คือ จำนวนเที่ยวบินรวมที่ยังมี Gap การฟื้นตัวPost Covid-19 ออกมาที่ +9%YoY +3%QoQ จากแรงหนุนของเที่ยวบินนานาชาติที่ +26%YoY +6%QoQ ด้านการดำเนินงานระยะถัดไป 2Q67 คาดว่าจะยังเป็นบวกฟื้นตัวต่อได้ YoY และมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจาก AirAsia Cambodia ที่เริ่ม operate ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และ คาด ช่วงเดือนมิ.ย.นี้ Angkor AIR จะเปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่ระหว่าง นิวเดลี และ พนมเปญ ทั้งนี้ ปัจจุบัน เราคาด กำไรสุทธิของ SAV ในปี67 ที่ 507 ลบ.(+31%YoY)

 

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ก.ค. +$0.82 อยู่ที่ $74.07 / บาร์เรล, Brent ก.ค. +$0.89 อยู่ที่ $78.41/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. เป็นปัจจัยช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมัน ขณะที่ EIA เผยสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 1.2 ล.บาร์เรล สวนทางคาดจะลดลง 2.3 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(-) Comex Gold ส.ค. +$28.10 อยู่ที่ $2,375.50/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. หลังตลาดแรงงานสหรัฐมีสัญญาณชะลอตัว   

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -48.80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -3.29 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -34.73 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -10.78 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 36.568 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.278 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +39 จุด อยู่ที่ 1,852

(+) BitCoinเช้านี้ +0.60% อยู่ที่ 70,982 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

03 มิ.ย.     วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ

พระบรมราชินี

สัปดาห์ที1  ดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภค

 

ต่างประเทศ

03 มิ.ย.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( พ.ค.)     

04 มิ.ย.     US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs (เม.ย.)

05 มิ.ย.     US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(พ.ค.)

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( พ.ค.)

06 มิ.ย.     EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (มิ.ย.)

                EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป 

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

07 มิ.ย.     US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)

                US อัตราการว่างงาน ( พ.ค.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL* 

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE* 

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH* 

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR* 

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC* 

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio June 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ

 

 

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้