มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SETฟื้นบ้างสั้นๆ : รับปัจจัยบวกจาก 1) ความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB ในการประชุมวันนี้คาดจะปรับลด0.25% ซึ่งจะเป็นบวกต่อภาพรวมของเศรษฐกิจยุโรปหลัง ECB ได้ตรึงดอกเบี้ยในระดับ 4.5% มาเป็นเวลากว่า 9 เดือน สถิติย้อนหลังชี้ หากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ค่าเงินยูโรจะอ่อนค่าลง 0.54% ในช่วง 1 เดือนให้หลัง มองส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไทยและยุโรปที่ลดลงเหลือ 1.75% (เดิม 2%) จะช่วยหนุนฟันด์โฟลวไหลเข้าไทยมากขึ้น 2) ตัวเลข ADP NonfarmEmployment Change ประจำเดือน พ.ค. ออกมาเพิ่มขึ้นเพียง 1.52 แสนตำแหน่ง เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.73 แสนตำแหน่ง สะท้อนภาพความอ่อนแอของภาคแรงงานสหรัฐ สร้างความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ตลาดหุ้นสหรัฐตอบรับในทิศทางบวกคาดจะเป็นแรงหนุนต่อตลาดหุ้นไทยเช่นกัน 3)รฐบาลยืนยันจะแจกเงินดิจิทัลพร้อมกันทั้ง 50 ล้านรายไม่แยกกลุ่มเปราะบาง ช่วยหนุนความมั่น ใจของผู้บริโภคเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก
ขณะที่ปัจจัยกดดันคาดมาจาก 1) ภาพการเมืองที่ยังคงOverhang หลังต้องจับตาคดียุบพรรคก้าวไกลซึ่งศาลรธน.ชี้จะตัดสินคดีดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 12 มิ.ย. 67 และการเข้าชี้แจงข้อมูลของนายกฯต่อเจ้าพนักงานศาลรธน.กรณีการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่อาจมิชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงคดีมาตรา 112 และพรบคอมพิวเตอร์ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องเข้าพบเจ้าพนักงานในวันที่ 18 มิ.ย. 67 ยังกดดันภาพรวมของตลาดหุ้นไทย 2) กกร.คงกรอบการเติบโตของGDPไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ที่ 2.2-2.7% โดยชี้สงครามการค้าจะกดดันภาพการส่งออก ให้โตต่ากว่า 0.5%(กรอบ 0.5-1.5%) นอกจากนี้ผลของเอลนีโญ จะกดดันผลผลิตการเกษตรให้ลดลง ร่วมกันกดดัน GDP ในช่วงที่เหลือของปี ในคืนนี้ติดตามตัวเลขผู้ขอสวสั ดิการว่างงานครั้งแรกของสหรฐั ประจำสัปดาห์และตัวเลขนำเข้า-ส่งออกสหรัฐประจำเดือน เม.ย.
กลยุทธ์การลงทุน :1)ศก.ยุโรปฟื้น:CPF,GFPT,SAPPE,TEGH,TU,XO, DELTA, KCE2)Spending :CPALL,TNP,DOHOME,ICHI,OSP3)ท่องเที่ยว: AAV, CENTEL, ERW4)SET50/100: ITC,PRM,BAและ 4) Selective: SCGP, WHA, TTA
แนวรับ-ต้าน
1,335–1,350
ปัจจัยบวก
+อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเผย ครม. เห็นชอบยกเว้นนำเข้ารถยนต์ใช้แล้วพิกัดอัตราศุลกากรประเภท 87.03 เท่านัน้ เพื่อเป็นการส่งเสรมิงานศิลปะ และ รถยนต์โบราณ พร้อมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางรถยนต์คลาสสิก
+ รมว.คลังย้ำแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทพร้อมกันคราวเดียว 50 ล้านคนในไตรมาสสุดท้ายของปี 67 คาดจะเปิดให้ลงทะเบียนรับเงินได้ในช่วง3Q67 เป็นต้นไป
+ ททท.เตรียมเปิดตัว ลาบูบู้ไทยแลนด์อิดิชั่น ในวันที่ 1 ก.ค.โดยเริ่มขายที่แรกที่ เมกา บางนา และคาดจะต่อยอดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมกิจกรรมเพิ่มเติมตามเส้นทางท่องเที่ยวในไทย
+ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ เผยการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำเดือน เมษายน 2567มีมูลค่า 511.97 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.57% และฟื้นตัวต่อเนื่อง 8 เดือนแล้ว
ปัจจัยลบ
-อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณปี 68 กรมสรรพสามิตจะเริ่มจัดเก็บภาษีคาร์บอน คาด ณ ราคาน้ำมันปัจจุบัน จะเสียภาษีคาร์บอนลิตรละ 46 สตางค์ โดยจะเร่งนำเข้าที่ประชุมครม.เพื่อเห็นชอบให้มีผลบังคับใช้ทันปีงบประมาณปี 68
- ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยเผยว่า อัตราการเกิดในญี่ปุ่นลดลงเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน โดยปี 2023 ญี่ปุ่นมีจำนวนทารกเกิดใหม่ 727,277 คน(-5.64%y-y) และค่าเฉลี่ยการมีบุตรอยู่ที่ 1.20 คนต่อผู้หญิง 1 คนลดลงจากปี 2022 ที่ 1.26 คน
- ประธานสรท. เผยถึงการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลังว่า ต้องจับตาปัญหาค่าระวางเรือที่กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ในทุกเส้นทางจากปัญหาทะเลแดง มองอาจกระทบผู้ส่งออก
- PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของฝรั่งเศสออกมาที่ 49.3 จุดในเดือน พ.ค.หดตัวมากกว่าคาดเล็กน้อย และเป็นการกลับมายืนต่ากว่า 50 อีกครั้งสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในระยะสัน
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
กิตติ บัวบึง – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #038313
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ภัทรดนัย จตุรพร – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์