Market Wrap-Up
- SET วันที่ 4 มิ.ย.67 ปิด -8.34 จุด อยู่ที่ 1,337.32 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,875 ลบ.ต่างชาติขาย 2,243 ลบ.สถาบันซื้อ 984 ลบ.รายย่อยซื้อ 872 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิรวม 2,182 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น TRUE,JMT,ADVANC,HMPRO,CPN และมียอดขายสุทธิ BCP,PTTEP,LH,KTC,KBANK มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 5,824 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ PSH,AWC-R,TIDLOR-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3,132 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 30,303 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 992 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.36%, S&P500 +0.15%, Nasdaq +0.17% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหา, สินค้าอุปโภคบริโภค หลังตัวเลขเปิดรับสมัครงาน เม.ย. ลดลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.54% จากแรงขายกลุ่มพลังงาน -2.6%, ทรัพยากรพื้นฐาน -2.3% ระหว่างรอผลการประชุม ECB วันที่ 6 มิ.ย.
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุน หลัง JOLTs เผยตัวเลขเปิดรับสมัครงาน เม.ย. อยู่ที่ 8.06 ล.ตำแหน่ง & มี.ค. 8.36 ล.ตำแหน่ง ต่ำสุดในรอบ 3 ปี กอปรกับ Fed แอตแลนตาคาด US GDP Q2/67 +1.8% & Q1/67 +1.3% QoQ สัปดาห์นี้วันศุกร์ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ค. คาด 185,000 & เม.ย. 175,000 ราย , อัตราว่างงาน พ.ค. คาดทรงตัวที่ 3.9% บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ & ตลาดแรงงานสหรัฐมีสัญญาณชะลอตัว โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 55.3% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. โดยวันศุกร์นี้รอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ค. คาด 185,000 & เม.ย. 175,000 ราย , อัตราว่างงานคาดที่ 3.9%
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง จากแรงขายกลุ่มพลังงานที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมัน หลังโอเปกส่งสัญญาณเพิ่มกำลังการผลิตในช่วง Q4 นี้ นักลงทุนรอผลการประชุม ECB ในช่วงค่ำวันพรุ่งนี้ โดย Consensus คาดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณผ่อนคลายการเงินจาก ธ.กลางหลัก
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.41% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหา ฯ ขณะที่นิเกอิ -0.22% หลังกลุ่มยานยนต์ปรับลดลงจากปัญหาการทดสอบความปลอดภัยของ Toyota ส่วนดัชนี BSE Sensex อินเดีย -5.74% หลังพรรค BJP ของนายก ฯ โมดีได้ 240 เสียง ไม่ได้ครองเสียงข้างมากในสภา และต้องตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วม NDA ซึ่งอาจมีผลต่อความเชื่อมั่นนโยบายเศรษฐกิจในอนาคต
- ดัชนี SET วานนี้ -0.62% ปริมาณการซื้อขาย 58 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 2.2 พัน ลบ. รายย่อยซื้อ 872 ลบ. สถาบันซื้อ 984 ลบ. และพอร์ตโบรกซื้อ 387 ลบ. จากแรงขายกลุ่มขนส่งนำโดย BTS -4.17% หลังผลประกอบการงวด 66/67 ขาดทุน 5.2 พัน ลบ. สาเหตุหลักมาจากการตั้งด้อยค่าเงินลงทุนใน KEX กอปรกับผลขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง & ชมพู ซึ่งส่งผลลบไปยังบริษัทพันธมิตรในกลุ่ม เช่น VGI, RABBIT และกลุ่ม JMART ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศ มิ.ย. รอความชัดเจนคดียุบพรรคก้าวไกล, การวินิจฉัยสถานภาพนายก ฯ เศรษฐา และอัยการสั่งฟ้องทักษิณในคดี ม.112 ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ รอผลการประชุม ธ.กลางหลัก ECB & FED ว่าจะสามารถลดดอกเบี้ยได้ตาม Timeline ที่ตลาดคาดไว้หรือไม่ ส่วนการประชุม ครม.วานนี้เตรียมออก ม.กระตุ้นภาคท่องเที่ยวเมืองรอง โดยให้บุคคล & นิติบุคคลสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักภาษีได้ในช่วง 1 พ.ค. – 31 พ.ย. 67
Daily Strategy
- วาง Filter แนวรับดัชนีที่ 1,330 จุด กรณียืนได้ ดัชนีมีโอกาสรีบาวน์ไปที่แนวต้าน 1,345 – 1,350 จึงให้น้ำหนักเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่หนุนดัชนี แนะนำซื้อเก็งกำไร ITC ได้แรงหนุนจากยอดสั่งซื้ออาหารสัตว์ & มีโอกาสเข้าดัชนี SET50 และพักเงินบางส่วนกลุ่มปลอดภัย เช่น SISB, BCH, ADVANC
- BANPU (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 45 บาท) แนวโน้ม 2Q67 คาดผลการดำเนินงานปกติมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ QoQ โดยธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ที่เคยถูกถ่วงด้วยปัจจัยทางด้านราคาขายน่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากราคาก๊าซฯ อ้างอิง Henry Hub ที่ขยับขึ้นมาตลอดเดือน พ.ค.เป็นผลจาก Free port กลับมาดำเนินการส่งออกได้ ประกอบกับราคาก๊าซในยุโรปที่สูงขึ้นจากการปิดซ่อมท่อก๊าซของนอร์เวย์ ด้านราคาประเมินว่าน่าจะฟื้นต่อใน 3Q67 เพราะเป็นฤดูกาลเก็บสต๊อกก่อนเข้าฤดูหนาว ส่วนทางธุรกิจถ่านหินมีปัจจัยหนุนจากราคาขายและปริมาณที่เพิ่มขึ้น QoQ ตามสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย รวมถึงธุรกิจผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าในประเทศไทยที่เข้าช่วง high season ของความต้องการใช้ไฟฟ้า ด้าน Valuation เทรดต่ำ Book มาก มองว่า downside น้อยในช่วงตลาดผันผวน
- ADVANC (ซื้อสะสม / ราคาเป้าหมายปี67 257.00 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q67 อยู่ที่ 8,451 ลบ., +21%QoQ, +25%YoY นอกจากจะได้ปัจจัยหนุนทางรายได้ตามฤดูกาลและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีรายได้ของTTTBB เข้ามาเสริม ขณะที่ฝั่งค่าใช้จ่ายสามารถควบคุมได้ดีโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายการตลาดที่ลดลงอย่างมีนัยยะ ทั้งนี้ สำหรับแนวโน้มที่เหลือของปี เรายังประเมินการดำเนินงาน +YoY จาก 1.รายได้ฝั่งธุรกิจ Fixed Broadband ที่ยังมีโมเมนตัมที่ดี 2.Blended ARPU ที่สูงขึ้นจาก User ที่ migrate package มาเป็น 5G 3.การแข่งขันที่ลดลง ปัจจุบัน ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรสุทธิปี67 ของ ADVANC ที่ 31,463 ลบ. +14%YoY
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ก.ค. -$0.97 อยู่ที่ $73.25 / บาร์เรล, Brent ก.ค. -$0.84 อยู่ที่ $77.52/บาร์เรล หลังโอเปกมีมติลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปี 68 แต่เปิดช่องให้สมาชิก 8 ชาติสามารถเลือกแนวทางการปรับลดกำลังการผลิตแบบสมัครใจอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ ต.ค. เป็นต้นไป ส่วนค่ำวันนี้ EIA จะรายงานสต็อคน้ำมันสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมา
Gold Update(-) Comex Gold ส.ค. -$21.90 อยู่ที่ $2,347.40/ออนซ์ โดยนักลงทุนรอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่จะรายงานในวันศุกร์นี้
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -86.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -61.28 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -2.80 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -22.37 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 36.58 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.335 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +5 จุด อยู่ที่ 1,813
(+) BitCoinเช้านี้ +2.87% อยู่ที่ 70,983 ดอลลาร์สหรัฐ
(-) API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น +4.05 ล.บาร์เรล
Economic Calendar
ในประเทศ
03 มิ.ย. วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ
พระบรมราชินี
สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภค
ต่างประเทศ
03 มิ.ย. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( พ.ค.)
04 มิ.ย. US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs (เม.ย.)
05 มิ.ย. US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(พ.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( พ.ค.)
06 มิ.ย. EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (มิ.ย.)
EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
07 มิ.ย. US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)
US อัตราการว่างงาน ( พ.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio May 2024: GFPT*, SAPPE*, ITC*, BTG*, KLINIQ
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th