Today’s NEWS FEED

News Feed

BTS ประเมินงวดปี 67/68ไม่มีการรับรู้การด้อยค่าเงินลงทุนอื่นๆเพิ่มเติม -คาดบุ๊ครายได้ O&M 7.3 พันลบ. รายได้ดอกเบี้ยรับที่เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าในธุรกิจ MOVE 4.9 พันลบ.

880


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(31 พฤษภาคม 2567)------- บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) BTS เปิดเผยมุมมองผู้บริหาร ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ขยายตัวเพียง 1.9% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่3.5% สำหรับปี 2567 สภาพัฒน์ ประมาณการการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อยู่ที่ 2.0 – 3.0% ต่อปี โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากการบริโภคภาคเอกชน 4.5% และการลงทุนภาคเอกชน 3.2%

อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาครัฐคาดว่าจะลดลง 1.8% เนื่องจากความล่าช้าของกระบวนการงบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาล และจากคาดการณ์ของตลาด อัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มลดลง 0.5% มาอยู่ที่ 2.0% เป็นผลจากอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง

ในส่วนของธุรกิจภายใต้บีทีเอส กรุ๊ป ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากมีการรับรู้รายได้ตามสัญญากับทั้งกทม. และภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ในปี 2566/67 บริษัทฯ ไม่ได้รับชำระรายได้ตามสัญญาดังกล่าวจากกทม. อันเนื่องมาจากข้อพิพาททางกฎหมายที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ดีข้อกังวลเหล่านี้มีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังจาก กทม. ได้ชำระเงินต้นพร้อมทั้งดอกเบี้ยค้างชำระหนี้ E&M จำนวนประมาณ 23.3 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับการชำระคืนหนี้ O&M ในไม่ช้าเช่นกัน

นอกเหนือจากเงินสดและเงินลงทุนที่มีสภาพคล่อง จำนวน 19.4 พันล้านบาทณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 การได้รับชำระหนี้ E&M เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา รวมถึงหนี้ O&M ที่คาดว่าจะได้รับชำระ อีกจำนวน 36.3 พันล้านบาทและเงินอุดหนุนจากภาครัฐสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองจำนวน 4.8 พันล้านบาทต่อปีจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกระแสเงินสดของบีทีเอส กรุ๊ป อย่างมีนัยสำคัญ


สำหรับรายได้ของธุรกิจ MOVE คาดว่าจะลดลงในปี 2567/68 จากรายได้จากการให้บริการรับเหมาที่ลดลง เนื่องจากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองที่แล้วเสร็จ รวมถึงความสามารถในการทำกำไรที่มีข้อจำกัดจากจำนวนเที่ยวเดินทางของผู้โดยสารในสองโครงการรถไฟฟ้าดังกล่าวที่ยังคงอยู่ในช่วงแรกของการดำเนินงาน นอกจากนี้ ในปี 2567/68 บริษัทฯ คาดว่าจะบันทึกรายได้ O&M จำนวน 7.3 พันล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยรับที่เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าในธุรกิจ MOVE จำนวน 4.9 พันล้านบาท และรายได้จากงานก่อสร้าง (โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีชมพู) อีกราว 0.8 พันล้านบาท

เราเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นจากธุรกิจ MIX โดยคาดว่ารายได้ รวมไปถึงกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยและภาษี(EBITDA) และกำไรสุทธิจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ การดำเนินงานของธุรกิจสื่อโฆษณากลางแจ้งและสื่อดิจิทัลคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากตลาดการบริโภคที่แข็งแกร่งขึ้นในปีนี้โดยวีจีไอคาดการณ์รายได้สำหรับปี 2567/68 ในช่วง 6.0 – 6.5 พันล้านบาทและได้จำหน่ายหุ้นทั้งหมดในบริษัท เคอรี่ เอ็กเพรส (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนที่ส่งผลกระทบต่องบการเงินดังที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ คาดว่าธุรกิจ MATCH จะมีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นในปี2567/68 จากแรบบิท โฮลดิ้งส์และ TNLแม้ว่าบริษัทฯ คาดว่าจะเผชิญกับผลขาดทุนจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง แต่เราคาดว่าจะไม่มีการรับรู้การด้อยค่าเงินลงทุนอื่นๆเพิ่มเติมในปี 2567/68 ทั้งนี้ จากผลขาดทุนที่เกิดขึ้นในปี 2566/67

คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ทบทวนและพิจารณาอย่างรอบคอบในการงดการจ่ายเงินปันผล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2553 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในการบริหารจัดการผลขาดทุนสะสมในงบแสดงฐานะการเงินตลอดจนการกลับมาสู่การทำกำไรของบริษัทฯ เพื่อให้สามารถจ่ายเงินปันผลอีกครั้งได้โดยเร็วที่สุด

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้