Company Note
Prima Marine

คงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดปี 2024F กำไรปกติเติบโตต่อเนื่องจากเรือที่เพิ่มขึ้น

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หลังจากเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ของ PRM จาก 1) คาด Core profit ใน 2Q24F เติบโตทั้ง YoY และ QoQ, 2) คาด Core profit จะเติบโตทำ New high ต่อเนื่องในปี 2024F จากเรือกองเคมีลำใหม่เดินเต็มทั้งปีและเรือธุรกิจ Offshore ที่เพิ่มขึ้น, 3) มีอัพไซด์เพิ่มจากแผนเพิ่มกองเรือเพิ่มเติมระหว่างปี, และ 4) ราคาหุ้นต่ำมากโดยราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PER ปี 2024F แค่ 9x เท่านั้น

คาดกำไร 2Q24F เติบโตทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดกำไรใน 2Q24F จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จาก 1) ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและปิโตรเคมี (PCT) คาดเติบโตจากปริมาณการขนส่งน้ำมันอากาศยาน Jet A-1 ที่เพิ่มสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว, มีเรือปิโตรเคมีเพิ่ม 1 ลำโดยซื้อเรือเก่ามาจากญี่ปุ่นทำให้เรือ PCT เพิ่มเป็น 39 ลำเริ่มให้บริการช่วงปลายเดือนพ.ค. อีกทั้งเรือปิโตรเคมีที่เข้าซ่อมบำรุง 2 ลำใน 1Q24 ได้กลับเข้าให้บริการแล้วซึ่งน่าจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น, 2) ธุรกิจขนส่งน้ำมันดิบ (COC) เรือ VLCC ที่เข้าอู่แห้งใน 1Q24 กลับเข้าให้บริการแล้วทำให้รายได้และกำไรน่าจะมากขึ้น, 3) ธุรกิจ FSU มีดีมานด์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทำให้คาดว่า Utilization rate เพิ่มขึ้นทุกไตรมาสส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้น, และ 4) ธุรกิจเรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิต (OSV) เรือ Crew Boat 2 ลำที่เพิ่มใน 1Q ลำแรกเริ่มให้บริการในเดือนมี.ค.จะรับรู้เต็มไตรมาส ในขณะที่ลำที่ 2 เริ่มให้บริการวันที่ 1 เม.ย. สำหรับการนำเรือเข้าอู่ในช่วง 1Q24 ทำเรือลำใหญ่ๆไปหมดแล้วที่เหลืออีก 15-16 ลำเหลือแต่เรือลำเล็กซึ่งใช้ระยะเวลาไม่นานทำให้คาดว่าไม่น่ามีผลกับงบมากนัก

ครึ่งปีหลังยังมีอัพไซด์จากการเพิ่มกองเรืออีก

ผลประกอบการ 2H24F มีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากบริษัทตั้ง CAPEX ในปีนี้ไว้มากกว่า 2 พันล้านบาทโดยในช่วงครึ่งปีหลังมีแผนดังนี้ 1) ซื้อเรือ FSU เพิ่มอีก 1 ลำ (ตั้งเป้าในช่วงกลาง 3Q24) เนื่องจากมองว่าธุรกิจ FSU กลับมาเป็นขาขึ้นแล้วหลังตกต่ำสุดใน 3Q23 จากความต้องการกักเก็บน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ Renewable Energy เพื่อนำมา blend เป็นน้ำมันหลากหลายประเภทมากขึ้นซึ่ง FSU ของบริษัทมีความได้เปรียบเนื่องจากมีความสามารถในการ blend ปรับเกรดน้ำมันตามความต้องการของลูกค้าได้ 2) ซื้อเรือ Aframax 1 ลำ (คาดจะได้เรือลำใหม่ในปลาย 4Q24F) เพื่อมาทดแทนเรือที่จะหมดสัญญากับลูกค้ารายหนึ่งในเดือนมิ.ย. และจะนำเอาเรือ Aframax ลำดังกล่าวซึ่งมีอายุถึง 19 ปีแล้วไปดัดแปลงเป็น FSO สร้างรายได้ได้อีก 5 ปี(คาดปลาย 4Q24F) ส่วนแผนระยะยาวบริษัทยังมีแผนที่จะปลดระวางเรือ 6 ลำที่มีอายุมากโดยจะสั่งต่อเรือ 6 ลำโดยจะเริ่มมีการจ่าย Deposit บางส่วนในปีนี้และจะทยอยรับเรือในปี 2025-26F ทั้งนี้เงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท โดย ณ สิ้น 1Q24 บริษัทมีเงินสดในมือ 4.64 พันล้านบาทและมีอัตราส่วน IBD/E ที่ต่ำเพียง 0.36x เท่านั้น อย่างไรก็ตามแผนทั้งหมดนี้ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะทำได้ตามแผนที่ตั้งไว้หรือไม่เราจึงยังไม่ได้รวมแผนดังกล่าวในประมาณการของเรา

คงคำแนะนำ “ซื้อ”โดยมีมูลค่าเหมาะสมที่ 8.60 บาท

เราคงประมาณการกำไรและมูลค่าที่เหมาะสมที่ 8.60 บาท ซึ่งอิงจาก PER 10 เท่า ปี 2024F (คิดจากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของหุ้น) จากราคาหุ้นที่ไม่แพงและแนวโน้มที่ยังสดใสทำให้เรายังคงแนะนำซื้อ ปัจจัยเสี่ยงมาจากความผันผวนราคาพลังงานที่จะส่งผลต่อดีมานด์การใช้เรือและต้นทุน