Company Note
BTS Rail Mass Transit Growth Infrastructure Fund
รายได้จากการลงทุนสุทธิยังเติบโต YoY ตามจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
BTSGIF รายงานขาดทุนสุทธิใน 4Q23/24 อยู่ที่ 5,708 ล้านบาท แย่ลง YoY และ QoQ จากกำไร 1,914 ล้านบาทและ 52 ล้านบาท สาเหตุมาจากในไตรมาสนี้มีการบันทึกขาดทุนจากการปรับมูลค่ากองทุน (non-cash) จำนวน 6,880 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับสมมติฐานจำนวนผู้โดยสารเพื่อสะท้อนสถานการณ์ในปัจจุบัน หากไม่รวมรายการดังกล่าว กำไรจากการลงทุนสุทธิ (Net Investing Income) อยู่ที่ 1,172 ล้านบาท (+11% YoY แต่ลด 5.6% QoQ) สำหรับปี 2023/24 บริษัทมีขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 5,112 ล้านบาท หากไม่รวมการปรับมูลค่ากองทุน -9,760 ล้านบาท กำไรจากการลงทุนสุทธิจะอยู่ที่ 4,648 ล้านบาท (+37% YoY) ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนผู้โดยสารที่เติบโต 19% YoY รวมถึงอัตราค่าโดยสารเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 3.2%
จำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น YoY หนุนรายได้ค่าโดยสาร
รายได้ค่าโดยสารใน 4Q23/24 อยู่ที่ 1,670 ล้านบาท (+4.9% YoY) เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 7.2% YoY แต่ค่าโดยสารเฉลี่ยลดลง 2.2% YoY มาอยู่ที่ 33.4 บาท เนื่องจากโปรโมชั่นค่าโดยสาร แต่หากเทียบ QoQ รายได้ค่าโดยสารจะลดลง 1.8% หลักๆเนื่องจากค่าโดยสารเฉลี่ยลดลง 2% จากโปรโมชั่นค่าโดยสาร ในขณะที่จำนวนผู้โดยสารใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน (+0.2%) ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 7.5% YoY (จากค่าใช้จ่ายในการขายพอยท์ Rabbit Rewards และค่าใช่จ่ายในการวิเคราะห์ข้อมูลและการตลาดลด) แต่เพิ่มขึ้น 7.7% QoQ จากค่าซ่อมบำรุงที่เพิ่มขึ้น
อัตราผลตอบแทนสูงถึง 21.5% และคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 23% ในปี 2024/25F
BTSGIF ประกาศจ่ายคืนทุนจำนวน 0.18 บาทต่อหน่วย (XN วันที่ 10 มิถุนายน) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนรายไตรมาสที่ 5.1% และทำให้ทั้งปี 2023/24 จ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหน่วยรวมทั้งสิ้น 0.765 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 21.5%
คงคำแนะนำ “ซื้อ”
โดยรวมงบที่ออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้หลักๆมาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามเราปรับลดประมาณการกำไรจากการลงทุนสุทธิปี 2024/25F ลง 1% เนื่องจากเราปรับลดจำนวนผู้โดยสารลง 2.7% มาอยู่ที่ 221.6 ล้านเที่ยว (+14% YoY) แต่ปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลง 5.5% เพื่อสะท้อนงบที่ออกมา โดยประมาณการกำไรจากการลงทุนสุทธิใหม่อยู่ที่ 4,744 ล้านบาท (+2% YoY) และคาดจะสามารถจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหน่วย (เงินลดทุน) อยู่ที่ 0.82 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 23% ดังนั้น เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสมใหม่อยู่ที่ 4.50 บาท (จากเดิม 4.82 บาท) อิงจาก DCF (WACC 9.6%, Rf 3.2%, RPM 6.4%)