มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SETอาจไม่ไปไหน: โดยมองน้ำหนักปัจจัยลบกดดันทางขึ้นยังมีมากกว่าบวก นำโดย 1)การปรับดัชนี MSCI ซึ่งจะใช้ราคาปิดในวันนี้ในการคำนวณคาดอาจมีแรงขายเข้ามากดดันหุ้นที่ถูกลดขั้น จาก Global Standard ไปยัง Global Small Cap ได้แก่ MTC BTS และ LH2)Sentiment ลบกดดันจากภายนอกหลังตัวเลข GDPสหรัฐใน 1Q67 ออกมาขยายตัวเพียง 1.7%q-q ต่ากว่าที่ตลาดคาดจะขยายตัว2%ภาพดังกล่าวได้ชี้นำการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งอาจต้องได้รับการกระตุ้นจากนโยบายการเงินผ่านการลดดอกเบี้ยแต่มองตลาดจะให้น้ำหนักกับตัวเลข PCE และ Core PCE สหรัฐเดือนเม.ย. ในคืนนี้ที่คาดคงตัวจากเดือนก่อนที่ระดับ 2.7 และ 2.8%ตามลำดับ ซึ่งดูมีน้าหนักต่อการตัดสินใจของเฟดมากกว่า โดยหากออกมาตามคาดอาจสร้างความกังวลการตรึงดอกเบี้ยยาวนาน เนื่องจากเลข PCEที่2.7%y-y เป็นการคงตัวต่อเป็นเดือนที่ 2 หลังปรับขึ้นจากระดับ 2.4%y-yในเดือน ก.พ. สะท้อนภาพเงินเฟ้อจากพลังงานที่ยังคงอยู่อาจทำให้เฟดต้องการข้อมูลเพิ่มในการตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ย3)การปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ WTIสู่ระดับ 77.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐออกมาที่ -4.156 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าคาดที่ -1.9 ล้านบาร์เรล แรงขายอาจมาจากการปิดสถานะในสัญญาฟิวเจอร์น้ำมันดิบเพื่อลดความผันผวนก่อนถึงการประชุม OPEC+4)เข้าสู่ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาว 3 วันของไทยอาจมีแรงขายเข้ามาเพื่อลดความเสี่ยงด้านปัจจัยบวกมาจาก ก.คลังเตรียมเสนอกฏหมายเก็บภาษีสินค้านำเข้ามูลค่าไม่เกิน 1500 บาทและเคาะเห็นชอบงบประมาณ 1.22 แสนล้านบาทส หรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในการประชุมสัปดาห์หน้า คาดเป็นบวกต่อหุ้นค้าปลีกและ ท่องเที่ยว ปัจจัยอื่นติดตามตัวเลข Non-Manufacturing และ Service PMIจีนคาดออกมาที่ 50.5 และ 51.5 จุดและตัวเลข CPIเดือน เม.ย. ยูโรโซน คาด +2.5%y-y(เดือนก่อน +2.4%y-y)แต่มองตลาดจะให้น้ำหนักกับการลดดอกเบี้ยของ ECB มากกว่า
กลยุทธ์การลงทุน :1)Spending : CPALL, CPAXT, BJC, CPN, OSP, NSL, TACC 2)Defensive Play :CHG, PR93)ศก.ยุโรปฟื้น:GFPT, MINT, XO 4)หวังศก.จีนฟื้น:TTA, PSL, RCL,PRM, SCGP, IVL, PTTGC, NER, STA และ 5) Selective : TRUE, SAFE, PTG, OR
แนวรับ-ต้าน
1,340 –1,355
ปัจจัยบวก
+ รมช.คลัง เปิดเผยว่า เตรียมเสนอเรื่องการแก้ไขกฎหมายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีมูลค่าต่ากว่า 1,500 บาท เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยสร้างความเป็นธรรมให้ภาคเอกชนที่นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศรวมถึงผู้ประกอบการ SME ไทยที่อยู่ภายใต้พื้นฐานของกฎหมายของภาษีเดียว
+ สศค. เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนพ.ค. 67 สะท้อนความเชื่อมัน่ เศรษฐกิจใน6 เดือนข้างหน้าที่ยังขยายตัวได้แต่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยยังมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการโดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคใต้
+บริษัท China Vanke ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ อันดับ 2 ของจีน อยู่ในระหว่างการขอเจรจารับเงินสินเชื่อราว 5 หมื่นล้านหยวน หากได้รับอนุมัติจะเป็นสินเชื่อก้อนใหญ่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหากดีลดังกล่าวประสบความสำเร็จจะทำให้บริษัทรอดพ้นจากการผิดนัดชำระครั้งใหญ่สุด
ปัจจัยลบ
- กบน.ปรับเพิ่มราคาน้ำมันดีเซลอีก 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 32.94 บาทต่อลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.2567 เพิ่มต้นทุนการขนส่งให้ระบบเศรษฐกิจ และอาจสร้างความกังวลถึงเงินเฟ้อที่อาจตามมา
- โตโยต้า มอเตอร์เผยข้อมูลการผลิตทั่วโลกในเดือนเม.ย. ลดลง 4.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 756,254 คัน ซึ่งนับเป็นการลดลงเดือนที่ 3ติดต่อกัน
- สศอ. ปรับประมาณการดัชนี MPI ปี 2567 อยู่ที่ขยายตัว 0.0 - 1.0% จากประมาณการเดิมขยายตัว 2.0 - 3.0% ด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจ(GDP) ภาคอุตสาหกรรม ปี 2567 คาดขยายตัว 0.5–1.5% จากประมาณการครั้งก่อนคาดว่าจะขยายตัว 2.0 - 3.0%
- NATO ได้จัดการซ้อมรบครั้ง ใหญ่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็นโดยส่งคำเตือนถึงปูตินให้อยู่ห่าง ๆ ขณะที่ยูเครนกำลังต่อสู้ในสงครามจริง และยังมีแนวโน้ม
ลุกลามออกไป โดยNATOย้ำหากสมาชิกรายใดถูกคุกคามจะพร้อมโจมตีกลับ
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
กิตติ บัวบึง – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #038313
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ภัทรดนัย จตุรพร – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์