AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ทยอยรับจาก Valuation ที่น่าสนใจ
กลยุทธ์ Selective เลือกหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะ
Market Strategy
SET Index วันนี้คาด Sideways ตามกรอบ 1340-1360 จุด ปัจจัยแวดล้อมมีทั้งบวกและลบ เริ่มจาก ประเด็นบวก คือ 1) ความกังวลดอกเบี้ยสหรัฐฯ ลงช้าลดลง หลังการรายงาน GDP 1Q67 ครั้งที่ 2 ขยายตัว 1.3%QoQ ชะลอลงจากรายงานครั้งก่อนที่ขยายตัว 1.6%QoQ และ 4Q66 ที่ 3.4%QoQ ส่งผลต่อ U.S. Bond Yield 10 ปี ลด -7 bps Dollar Index อ่อนค่า -0.4% ด้าน Dow Jones ลดลง -0.9% แต่หากหักผลกระทบ Salesforce ที่ราคาหุ้นลดลง -20% ดัชนีพลิกเป็นบวก +0.06% โดยวันนี้ติดตามการรายงาน Core PCE เดือนเม.ย.ตลาดคาด +2.8%YoY 2) รายงานดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย. ของไทยที่ขยายตัวครั้งแรกในรอบ 19 เดือนที่ +3.4%YoY สอดรับไปภาคส่งออกเดือนเม.ย. เรามองเป็นบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจในประเทศที่จะผ่านจุดต่ำสุดช่วง 1Q67 ไปแล้ว
ด้านปัจจัยลบ คือ 1) ราคาน้ำมันดิบ Brent ที่วานนี้ปรับลงไป 2% จากการรายงานสต๊อคน้ำมันเบนซินโดย EIA วานนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดคาดและ 2) วันนี้ช่วงท้ายตลาดอาจเห็นความผันผวนจาก MSCI Rebalance โดยหุ้นที่ถูกคัดออกจากดัชนี MSCI Global Standard คือ MTC LH และ BTS
เชิงกลยุทธ์ สภาพแวดล้อมที่ปัจจัยบวกและลบผสมผสานประกอบการเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวอาจทำให้ SET Index แกว่งผันผวน แต่ด้วยระดับ Valuation ปัจจุบันที่ PER67E อยู่ที่ 14.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี – 1 S.D. จึงประเมินเป็นระดับที่น่าเข้าสะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยหุ้นเด่นที่เราเลือกของวันนี้เน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ MINT และ SAK
Market Summary
SET Index แกว่งผันผวนช่วงแรกปรับลงติดลบ 9 จุด ก่อนจะมีแรงซื้อกลับให้กลับมาปิดบวกเล็กน้อย 1.7 จุด โดยกลุ่มที่บวกเด่น คือ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนที่ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มส่งออกอาหาร CPF +3% GFPT +3% PLUS +7.8% COCOCO +5.5% และแรงซื้อกลับของหุ้นกลุ่มค้าปลีกหลังสัปดาห์นี้ลงแรง CPAXT +2.7% CPALL +1.3% เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่กดดันกลุ่มธนาคาร -0.6% กลุ่ม ร.พ. -1.5%
ATO Daily Stock Picks
แนะนำ MINT SAK
SAK แนวโน้มผลประกอบการดี
มี Upside ต้นทุนทางการเงินลดลง
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อต้นทุนทางการเงินของ SAK ที่ลดลงตั้งแต่ 2Q67 เป็นต้นไป เนื่องจากได้มีการเจรจาลดดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารลง 60bps ของมูลหนี้ 4,000 ล้านบาท คือเป็นสัดส่วน 62% ของทั้งหมด นอกจากนี้ผู้บริหารระบุว่าหาก กนง. มีการปรับ ลดดอกเบี้ยลง (ตลาดคาดว่าจะเกิดใน 2H67) ต้นทุนทางการเงินจะปรับลด ตามได้อีก
ด้านทิศทางผลประกอบการ 2Q67 เชื่อว่าจะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY และมีโอกาสเร่งตัวขึ้นในช่วง 2H67 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ที่บริหารจัดการได้รวมถึงผลบวกจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง โดยเราคาดกำไร 67 ขยายตัวที่ 14%YoY และยังมี Upside ต่อประมาณจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากสมมติฐานของเรา ที่คาด 5.2%
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 6.50 บาท
MINT กำไรสู่ High Season
เราประเมินโมเมนตัมการเติบโตของกำไรรายไตรมาสของ MINT ใน 2Q67-3Q67น่าจะเร่งตัวขึ้นจาก RevPAR ที่สูงขึ้นในช่วงไฮซีซั่น และมีมหกรรมกีฬาและคอนเสิร์ตใหญ่หลายรายการในยุโรป
นอกจากนี้ เรายังเห็นอัพไซด์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในยุโรปในช่วง 2H67 เนื่องจากหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายในสกุลเงิน EUR ของ MINT คิดเป็น 64% ของหนี้สินรวม ณ ไตรมาส 4/66
ขณะที่ Valuation ยังคงน่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PER67E 23 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ 26 เท่า MINT แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นในประเทศ เนื่องจากดาวน์ไซด์จำกัดจากอุปทานโรงแรมใหม่ในกรุงเทพฯ และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรายวันเป็น 400 บาท/วัน จาก 350 บาท (มีแนวโน้มจะมีผลบังคับในเดือน ต.ค. 67)
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 36.00 บาท
KEY FACTOR
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่รายงานเมื่อคืนที่ผ่านมา ถือว่าสนับสนุน มุมมองดอกเบี้ยที่ผ่อนคลายลง 1) GDP 1Q67 รายงานครั้งที่ 2 +1.3% ลดลงจากตัวเลขประมาณการณ์ครั้งแรกที่ +1.6% QoQ 2) Core PCE งวด 1Q67 +3.6% QoQ ต่ำกว่าที่ Consensus คาดการณ์ที่ +3.7%QoQ 3) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น +2.19 แสนราย สูงกว่าที่ Consensus คาดระดับ +2.17 แสนราย
ตลาดการเงินโลกตอบรับเชิงบวก 1) มุมมองตลาดพลิกกลับมาให้น้ำหนัก การลดดอกเบี้ยในปีนี้ เฉลี่ยเพิ่มเป็นประมาณ 1.366 ครั้ง จาก 1.276 ครั้ง เมื่อวานนี้ 2) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ชะลอลงสู่ระดับ 4.57% 3) Dollar index ปรับตัวลงต่ำกว่า 105 จุด แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงปรับฐายต่อเนื่อง -0.6% ถึง -1.08% แต่มีสาเหตุหลักมาจากความผันผวนของหุ้นบางตัว ดังนั้น หากมองภาพ Risk sentiment ที่จะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้ น่าจะออกมาเป็นเชิงบวก น่าจะกลับมาช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยที่ปรับฐาน ซึมลงในช่วงก่อนหน้ากลับมามีลุ้น Rebound ได้ในระยะสั้น
Eyes on
31 พ.ค. PMI จีน
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ