ภาวะตลาด : SET Index วานนี้แกว่งแคบในกรอบ 1362-1369 ปิดตลาดบวกเล็กน้อย +1.89 จุด ที่ 1366.37 มูลค่าซื้อขายเพียง 3.5 หมื่นลบ. ทั้งนี้ตลาดขาดปัจจัยใหม่ นักลงทุนรอดูสถานการณ์การเมืองไทย ตัวเลขดัชนี PCE สหรัฐ และ MSCI Rebalancing ซึ่งจะมีผล 31 พ.ค.นี้ ตลาดมีทั้ง แรงซื้อและขายหุ้นเป็นรายตัวกระจายในกลุ่มต่างๆ เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.1 พันลบ. สถาบันในปท.ซื้อสุทธิ 391 ลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
•/+ สหรัฐ : ดัชนี PCE เดือนเม.ย.จะออกมาศุกร์นี้ ตลาดคาดการณ์ว่าดัชนี PCE ทั่วไปจะเพิ่ม 0.3%MoM และ 2.7%YoY เท่ากับเดือนมี.ค. ส่วน Core PCE คาดเพิ่ม 0.3%MoM และ 2.8%YoY เท่ากับเดือนมี.ค.เช่นกัน

•/+ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวที่ 104.5, US bond yield ถอยเล็กน้อย, ดัชนี VIX อยู่ในระดับตํ่า, ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเช้านี้บวกเล็กน้อย

+ ยุโรป : เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประสานเสียงส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 6 มิ.ย.นี้

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
•/- การเมืองไทยไม่แน่นอน หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องกรณีนายกฯเศรษฐาตั้งพิชิตเป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ แม้ยังไม่ยุติปฏิบัติหน้าที่

+/- MSCI Rebalancing สำหรับ MSCI Global Standard Index ไม่มีหุ้นเข้า หุ้นออก BTS, LH, MTC ส่วน MSCI Global Small Cap Index มีหุ้นเข้า คือ BTS, JTS, LH, MTC หุ้นออก BLAND, DITTO, FORTH, KSL, MAJOR, PSL, RS, SGP, SPCG, WHAUP…มีผลราคาปิด 31 พ.ค.นี้

ปัจจัยติดตาม : สถานการณ์ตะวันออกกลาง, กรณียุบพรรคก้าวไกล, โครงการดิจิตอลวอลเล็ต, ดัชนี PMI ภาคผลิตและบริการของประเทศต่างๆ,ยอดขายสินค้าคงทน ดัชนีความเชื่อมั้นผู้บริโภค ดัชนี PCE ของสหรัฐวันที่ 31 พ.ค.นี้

กลุยทธ์ : SET ไม่หลุด 1355-1350 ยังมีลุ้นแกว่งขึ้น ...ถ้าดัชนีแกว่งไม่หลุด 1355-1350 มีโอกาสปรับขึ้นไปยังแนวต้าน 1374/1380-1384/1395 แต่ถ้าหลุด 1355-1350 ควรลดพอร์ต เพราะมีสิทธิแกว่งลงไปจุดตํ่าสุดเดิม 1330 หรือตํ่ากว่า หุ้นเด่นทางเทคนิควันนี้เป็น KBANK, LANNA

หุ้นพื้นฐานแนะนำลงทุน : MTC คาดกำไรสุทธิ 2Q24F เติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ หนุนโดยรายได้เพิ่มขึ้นประสิทธิภาพดำเนินงานดีขึ้นและบริหารคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี ทั้งนี้คาดสินเชื่อขยายตัวมากขึ้น Yield สูงขึ้น QoQ จากจำนวนวันที่มากขึ้น และ C/I ratio ลดลง QoQ ส่วน credit cost คาดไว้ที่ 3.4% เราชอบ MTC ที่เป็นผู้นำสินเชื่อจำนำรถจักรยายนต์มาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอุตสาหกรรมแข่งขันสูงขึ้นแต่บริษัทได้ปรับแผนกลยุทธ์และทำกำไรได้ดี คาดการณ์กำไรสุธิปี 24F-25F เติบโต 22% และ 26% ตามลำดับ แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 59 บาท อิง P/BV ปีนี้ที่ 3.4 เท่า (Mean-1SD)

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@th.dbs.com : Tel 02 587 7829