"Selective Play"
KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "Sideways/Down" ต้าน 1374/1377 จุด รับ 1361/1355 จุด ดัชนี Dow Jones ดิ่งแรง -1.53% หลังรายงานเศรษฐกิจ พบว่า Flash PMI พ.ค. 24 ดีกว่าคาด ภาคผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ 50.9 จุด vs prev. 50 จุด ภาคบริการ ขยับขึ้นสู่ 54.8 จุด vs prev. ที่ 51.3 จุด เศรษฐกิจที่ขยายตัวดีกว่าคาด ทำให้ตลาดกลับมากังวลต่อเงินเฟ้อที่อาจใช้เวลานานขึ้น กว่าจะลงสู่เป้าหมาย Fed ที่ 2% กดดันตลาดปรับมุมมองดอกเบี้ยขาลงของ FED ลดลงเหลือ 1-2รอบ US Bond Yield 10 ปี ขึ้น +4bps มาอยู่ที่ 4.47% และ Dollar Index แข็งค่า กอปรกับ สถานการณ์การเมืองภายใน มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น หลังศาลรับฟ้องพิจารณาคุณสมบัตินายกคุณเศรษฐา แต่ยังไม่สั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ ถ่วงเงินบาทอ่อนค่าสู่ 35.6 +/- บาท ถ่วง SET วันนี้ปรับฐาน แต่ผลตอบแทน YTD -3.39% Underperform Global Equity น่าจะช่วยลดระดับความผันผวน กลุ่มประคองตลาด คือ กลุ่มธนาคาร กลุ่มอิงภาคผลิตโลกฟื้นตัว อาทิ กลุ่มส่งออกเกษตร, อาหาร, เครื่องดื่ม(เงินบาทอ่อน+ยอดส่งออก เม.ย. พลิก +6.8%y-y) กลุ่มอิงค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์เร่ง +16%w-w วันนี้แนะนำ BBL, CBG, OSP
Daily outlook: "Sideways" ต้าน 1374/1377 จุด รับ 1361/1355 จุด
What happened around the world ?
• (*/-) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐแนวโน้มพักฐานรับตัวเลข PMI สหรัฐแกร่ง Dow jones -1.53%d-d, S&P500 -0.74%, Nasdaq -0.39% โดย Sector ใน S&P500 กลุ่มที่ปรับขึ้น Outperform มีเพียงกลุ่ม IT ฯลฯ กลุ่มที่ลงหลักๆคือ Real estate, Utilities, Consumer Discretionaryฯลฯ หุ้นที่ปรับขึ้นเด่น คือ NVDIA+9.3%(รับงบ 1Q24 ออดมาดี) ฯลฯ หุ้นที่ลงแรงคือ AMD-3.1%, Tesla -3.5% และ Exxon -1.7% ที่ปรับลงตามราคาน้ำมันดิบที่ลงต่อเนื่อง
•(*) US Econ: ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งมากทำให้ตลาดยังกังวลการลดอัตราดอกเบี้ยปี 2024 จะเหลือเพียง 1 ครั้ง 1.)รายงานตัวเลข S&P PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ (Composite) เดือน พ.ค. (เบื้องต้น)ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 54.4 จุด สูงสุดในรอบ 2 ปี ดีกว่าตลาดคาดที่51.1 จุด หลักๆดีทั้ง PMI ภาคผลิต อยู่ที่ 50.9 จุดและดีกว่าคาด, PMI ภาคบริการอยู่ที่ 54.8 จุดดี โดยรวม PMI > 50 จุดสะท้อนกิจกรรมสหรัฐแข็งแกร่ง 2.)ยอดขอรับสวัสดิการว่างงาน(Initial Jobless Claims) +2.15 แสนรายดีกว่าคาดที่ 2.2 แสนราย ตัวเลขแรงงานที่ออกมายังไม่อยู่ระดับที่น่ากัวล สะท้อนภาพภาคแรงงานสหรัฐฯประคองในลักษณะ Soft Landing ได้ (ความเสี่ยง Hard Landing จะเกิดขึ้นผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรกเฉลี่ยจะสูงกว่าระดับ 4.0 แสนตำแหน่ง) 3.)ยอดขายบ้านใหม่ เดือน เม.ย. -4.7%m-m อยู่ที่ 6.34 แสนหลัง ลดลงและต่ำกว่าตลาดคาด แต่เป็น Lagging Indicator สะท้อนไปในเงินเฟ้อที่รายงานช่วงก่อนหน้าแล้ว โดยรวมทำให้ตลาดกังวลว่า Fed อาจจะคงดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานาน (ลดดอกเบี้ยช้า หรือ อาจจะลดเพียงครั้งเดียวในการประชุมรอบเดือน พ.ย.24)
•(*/+) EU Econ: PMI รวมภาคการผลิตและบริการของ(Composite) ยูโรโซนปรับขึ้นสู่ระดับ 52.3 จุด จาก 51.7 จุด ในเดือน เม.ย. (เหนือ 50 เป็นเดือนที่ 3 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี และหลักๆหนุนจาก PMI ภาคการผลิตดีขึ้นอยู่ที่ 47.4 จุดแต่ PMI ภาคบริการอ่อนตัวลงแต่ยังเหนือ 50 จุด อยู่ที่ 53.3 จุด) KSS ประเมินภาพเศรษฐกิจยุโรปที่มีสัญญาณดีขึ้น และมี Event สำคัญหนุนทั้งบอลยูโรที่เยอรมนี และโอลิมปิคที่ฝรั่งเศส ผสานกับ ECB ส่งสัญญาณจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%ในการประชุม 6 มิ.ย.นี้ มองบวกหุ้นทีมีรายได้ในยุโรป อาทิ(70%ของรายได้รวม), MINT(50%) SHR(40%), IVL (22%) CRC(6%)เน้น MINT, IVL
•(*) To monitor ฝั่งจีน 31 พ.ค. จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือน พ.ค.(ตัวเลขของ NBS) ฝั่งสหรัฐ 31 พ.ค. ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ (PCE Price Index) เดือน เม.ย.
• (*) US Bond & Dollar : Bond yields แนวโน้มสั้นเร่งขึ้นต่อรับตัวเลข PMI สหรัฐแกร่ง โดยอายุ 10 ปี ปรับขึ้น +4 bps อยู่ที่ 4.47% เช่นเดียวกับ 2 ปี ปรับขึ้น +5bps อยู่ที่ 4.91% ขณะที่ Dollar Index แกว่งตัวแข็งค่าต่อเนื่อง 105.0+/- จุด
• (*/+)World Container Index : ค่าระวางเรือโลก World Container Index World Container Index แนวโน้มเป็นขาขึ้น ปรับขึ้น 5 สัปดาห์ติด สัปดาห์ล่าสุด +16%w-w อยู่ที่ 4,076เหรียญต่อ 40 ft และปรับขึ้นต่อเกือบทุกเส้นทางเรือ (อาทิ เส้น Shanghai - Rotterdum +20%w-w, Shanghai – los Angelis +18%) ประเมินจิตวิทยาบวกต่อหุ้นเรือ Container อาทิ RCL และบวกต่อกลุ่มให้บริการโลจิสติกส์ในลักษณะ Freight Forwarder ที่มีสัดส่วน Sea Freight สูง อาทิ SINO (90% ของรายได้), SONIC (62% ของรายได้) LEO (75% ของรายได้) และ WICE (34% ของรายได้)
• (*/-)Oil : น้ำมันดิบ Brent -0.66%d-d ปิดที่ US$ 81.36/barrel West Texas -0.9%d-d ปิดที่ US$ 76.87/barrel ลดลงติดต่อเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน แรงกดดันมาจาก Dollar Index ที่แข็งค่า กังวลดอกเบี้ยที่คงอยู่ในระดับสูงจะกดดันดีมานด์พลังงาน มองเป็นจิตวิทยาลบกดดันกลุ่มน้ำมัน PTT, PTTEP โรงกลั่น TOP, BCP, SPRC แต่ในทางตรงข้ามบวกต่อหุ้นที่มีต้นทุนน้ำมัน อาทิ กลุ่มสายการบิน AAV, BA ฯลฯ
What happened in Thailand ?
• (*/-) SET: ตลาดหุ้นวานนี้ ปรับตัวลดลง -2.99 จุด หรือราว -0.22% ปิดบริเวณ 1367.84 จุด กลุ่มหนุน คือ กลุ่มชิ้นส่วน (DELTA, HANA) ตอบรับจิตวิทยาบวก NVIDIA รายงานกำไรดีกว่าคาด กลุ่มอาหาร+เครื่องดื่ม (CPF, CBG, TFG) ราคาหมู/ไก่ยังเด่น ยอดส่งออกไทย เม.ย. สินค้าเกษตรยังมีโมเมนตัมขยายตัวเร่ง ส่วน CBG โทนประชุมนักวิเคราะห์เป็นบวก กลุ่มถ่วง คือ พลังงาน (EA, PTTEP) EA เป็นภาพกังวลกำไรหดตัวแรงจาก Adder ที่จะทยอยหมดช่วง 3-4 ปีนี้ ขณะที่ภาพทางเทคนิคหุ้นทำ New Low กลุ่มน้ำมันเป็นไปตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง กลุ่มค้าปลีก (CPAXT, CPALL, BJC) มองตลาดมองความเสี่ยงการเมืองที่ Overhang ความเสี่ยงการขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องกรณี 40 ส.ว. ยื่นถอดถอนนายกฯ
• (-) Flow : เงินทุนต่างประเทศไหลออก ขายหุ้น -27.8 ล้านเหรียญฯ ขายพันธบัตร -34.4 ล้านเหรียญฯ TFEX เปิดสถานะ Net Short -15,962 สัญญา เงินบาทอ่อนค่า 36.6 +/- บาท
• (+) TH Trade: กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยยอดส่งออก เม.ย. 24 ขยายตัว +6.8%y-y ดีกว่าตลาดคาดว่าจะปรับตัวลดลง -0.2%y-y ขณะที่พลิกจากภาพปรับลดลงจาก prev. ที่ -10.9%y-y ส่วนนำเข้า +8.3%y-y มากกว่าตลาดคาดว่าจะขยายตัว +5%y-y ส่วนดุลการค้าเป็นภาพขาดดุลเพิ่มขึ้นสู่ -1.64 พันล้านเหรียญฯ จาก prev. -1.16 พันล้านเหรียญฯ
กลุ่มสินค้าส่งออกเด่น เม.ย. 24 ได้แก่
ข้าว (+91.5%y-y, 4M24 +53.8%) ยางพารา (+36.2%y-y, 4M24 +27.3%) บวกต่อกลุ่มอิงกำลังซื้อฐานราก และหุ้นเชื่อมโยงกับยาง อาทิ CPALL, DOHOME, STA
อาหารทะเลกระป๋องและสำเร็จรูป (+14.8%y-y, 4M24 +6.9%) บวกต่อ TU
อาหารสัตว์เลี้ยง (+52.9%y-y, 4M24 +27%) บวกต่อ AAI, ITC
ไก่แปรรูป (+17.2%y-y, 4M24 +5.7%) บวกต่อ CPF, GFPT
เครื่องดื่ม (+10.5%y-y, 4M24 +7.1%) บวกต่อ SAPPE, CBG, OSP
สิ่งปรุงรสอาหาร (+23.2%y-y, 4M24 +15.6%) บวกต่อ XO
ส่วนประเด็นน่าสนใจอื่นๆ คือ ตลาดที่ขยายตัวเร่งขึ้น คือ สหรัฐฯ และยุโรป ส่วนจีน ญี่ปุ่นยังหดตัวลง ทำให้ระยะถัดไป เราประเมินยังคาดหวัง Upside การส่งออกจากการฟื้นตัวจีนที่เริ่มชัดขึ้นได้ ขณะที่ยอดนำเข้าที่เร่งขึ้น ส่วนหนึ่งมาจาก สินค้าทุน (24.8% ของยอดนำเข้า) ขยายตัว +17.8%y-y, 4M24 +16% ยังสะท้อนภาพโมเมนตัมบวกเอกชนเร่งลงทุนรับเศรษฐกิจภายในฟื้นตัว
• (*/+) 3 Airports Hi-Speed Train: มติที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. มีมติให้แก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน โดยคาดจะออกเอกสาร Notice to Proceed (NTP) ให้กับกลุ่ม CP เริ่มก่อสร้างโครงการดังกล่าว เรามีมุมมองเชิงบวกต่อข่าวนี้ หากมีความคืบหน้าในการแก้ไขสัญญา รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินได้ จะทำให้มีโอกาสในการออก NTP โครงการ และจะเป็น Positive sentiment ต่อ STEC เพราะจะทำให้ โครงการ อู่ตะเภา (มูลค่า 2.7 หมื่น ลบ.) สามารถ ออก NTP เพื่อเริ่มงานก่อสร้างโครงการอู่ตะเภา
• (*/-) TH Politic: ศาลรธน.เสียงข้างมากรับคำร้อง 40 สว.ปมถอดถอน "เศรษฐา" แต่ไม่ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ มองเป็นกลางต่อตลาด โดยจากนี้รอติดตามคำตัดสิน คาดใช้เวลาราว 1 เดือน +/- (อิงกรณีล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ฯ) โดยยังเป็นภาพ Overhang ที่ตลาดรอติดตามต่อ
Daily Strategy : BBL, CBG, OSP เด่น
ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "Sideways/Down" ภาพตลาดต่างประเทศเป็นลบจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ Flash PMI พ.ค. 24 ออกมาเป็นภาพขยายตัว ทำให้มีความกังวลต่อคาดการณ์ดอกเบี้ยสหรัฐฯตลาดประเมิน ส่วนภายในยังมี Overhang การเมืองที่ศาลรัฐธรรมนูญรับฟ้องคุณสมบัตินายก อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ยังพอเคลื่อนไหวเด่นกว่าตลาด คือ 1) กลุ่มธนาคาร รับภาพ Bond Yield เร่งขึ้น 2) กลุ่มส่งออกเกษตร+อาหาร (เงินบาทอ่อน+เป็นกลุ่มนำยอดส่งออก เม.ย. กลับมา +6.8%y-y) กลุ่มชิ้นส่วน (บางสินค้ามีสัญญาณ Bottom Out) 3) กลุ่มได้ประโยชน์ค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์เร่ง +16%w-w
หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกผ่านจุดต่ำสุด + เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวหนุนอุตสาหกรรมทยอยเข้าสู่ Upgrade Cycle (IVL, HANA, SCGP, GLOBAL, DOHOME)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรการภาครัฐฯ บริโภค ท่องเที่ยว ฤดูร้อน (CPALL, CPAXT, BJC, OSP, ICHI, ILM, AOT, AAV, MINT)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, GPSC, CPALL, TRUE, MINT, BE8, WARRIX, MTC)
กลุ่มที่คาดกำไร 1Q24F จะดี / กลุ่มที่รายงานแล้วคาดกำไรมีโมเมนตัมบวกต่อ (AOT, ADVANC, CPALL, CPAXT, ICHI, OSP, WHA, NEO, MINT)
กลุ่มได้ประโยชน์ Microsoft ลงทุน Data Center ในไทย (ADVANC, TRUE, INSET, WHA)
• MAY24 Best Picks: ICHI, BJC, HANA, IVL, MINT, CPALL, OSP
• 2Q24Stock Picks : AOT, BJC, HANA, HMPRO, IVL, MINT, MTC, SCGP, TU Mid-Small Cap Play : OSP, WARRIX, SJWD, STEC