Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

547

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ AGI: AI กำลังเป็นซูเปอร์ชาร์จให้ Cloud โตระลอกใหม่
คุยกันเรื่องเมกะเทรนด์ครั้งนี้เราจะพูดถึงอีก Theme หนึ่ง ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการเติบโตของ AI นั่นก็คือ Theme Cloud Computing
1 Cloud Computing ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทต่อการพัฒนา AI เพราะว่าโมเดล AI มีอัลกอลิทึมที่ซับซ้อนต้องใช้พลังการประมวลผลมหาศาล ในการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณเยอะ ซึ่งการใช้ Cloud เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนา AI จะมีข้อดีในการช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ประหยัดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการพัฒนา AI ... ทำให้ในปัจจุบัน Cloud จึงเป็นที่ต้องการสูง คาดว่ายอดการใช้จ่ายของผู้ใช้งานทั่วโลกในบริการ Public Cloud จะเติบโต 20.4% ในปี 2024 และแตะระดับ 678.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
2 พัฒนาการของโมเดล AI เอง จากสมัยก่อนที่เป็นประเภท Reactive Machine คือไม่ได้มีความซับซ้อนมาก สามารถทำงานได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องใช้ Cloud แต่พอพัฒนามาเป็นประเภท Generative AI ในยุคปัจจุบันที่มีความซับซ้อนขึ้น หรือ Artificial General Intelligence (AGI) ที่เป็นอนาคตของ AI ก็ยิ่งมีความซับซ้อนขึ้นไปอีก ทำให้ความจำเป็นต้องใช้ Cloud ก็มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
3 หากจะเปรียบเทียบเป็นตัวเลข ประเมินกันว่า Gen AI โมเดล GPT-3.5 นั้นใช้พลังงานคอมพิวเตอร์ระดับ 10^23 FLOPS (เป็นหน่วยวัดสมรรถนะในการทำงานของคอมพิวเตอร์ ย่อมาจาก Floating Point Operations per Second) แต่สำหรับ AGI อาจต้องใช้พลังงานคอมพิวเตอร์ในระดับไม่ต่ำกว่า 10^25 FLOPS หรือมากขึ้นไม่ต่ำกว่า 100 เท่า ซึ่งทำให้เห็นว่าแนวโน้มการใช้ Cloud ในอนาคตจะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
4 ในช่วงปี 2021-22 การใช้จ่าย Capex ของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในระดับเฉลี่ย 22% ต่อปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิดผลักดันให้โลกปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลกันมากขึ้น...แต่พอมาปี 2023 ตัวเลขได้ชะลอตัวลงเหลือเพียง 2% ทำให้ตลาดกังวลว่าโมเมนตัมของธุรกิจนี้จบแล้วหรือยัง อย่างไรก็ตามในปีนี้เราได้เห็นบริษัทชั้นนำหลายๆแห่งกลับมาประกาศแผนการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ปัจจัยหนุนหลักก็จากการขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ AI นั่นเอง
5 ในช่วงหลังการประกาศผลประกอบการที่ผ่านมา เราเห็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่งได้ออกมาแถลงการณ์ถึงแผนการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน Cloud และ AI ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงบวกที่น่าตื่นเต้น อาทิ Microsoft แถลงว่า Capex สำหรับไตรมาส 2 ปีปฏิทินนี้จะโตถึง 79%YoY และปี 2025 จะสูงกว่าปี 2024 อีก รวมถึง Google (Alphabet) แถลงว่างบ Capex ปี 2024 น่าจะโตในระดับมากกว่า 50%YoY หรืออย่าง Facebook(Meta) แม้ว่ายอด Capex ไตรมาสที่ผ่านมาจะลดลง 6%YoY แต่ทั้งปีก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 33%YoY
6 ทำให้คาดว่าการใช้จ่าย CapEx รวมของผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่ 10 รายแรก (ไม่รวม Amazon) จะเติบโตสูงถึง 44%YoY ในปี 2024 ซึ่งตัวเลขนี้ก็น่าจะคลายข้อกังวลต่อแนวโน้มของธุรกิจ Cloud และเป็นสัญญาณยืนยันว่าวงจร CapEx Supercycle จะยังดำเนินต่อไป
7 สำหรับนักลงทุนที่สนใจในการลงทุนในธีม Cloud แนะนำ First Trust Cloud Computing ETF (SKYY), Fidelity Cloud Computing ETF (FCLD), และ Global X Cloud Computing ETF (CLOU)


สรุปภาพตลาดวานนี้ ดัชนีไหลลงต่ออังคารที่แล้ว เช่นเดียวกับวันจันทร์ ยังเห็นแรงขายหุ้นใหญ่ออกมาทั้ง DELTA GULF GPSC EA ADVANC PTTEP PTTGC TOP TU CPN AWC และ NEX ลงแรงต่อ ส่วนหุ้นบวกสวนตลาด CPALL AOT CPF BTG TTB SCB BH BA GLOBAL

แนวโน้มตลาดวันนี้
“เดจาวู”?
สงสัย หุ้นไทยจะเล่นท่าเดิม วนๆเวียนๆอยู่ตรงที่เดิมนี้เหมือน 6 เดือนที่ผ่านมา เจอด่านแล้วกลับรถ...
ทั้งนี้เรายังคงให้น้ำหนัก เชิงบวก แต่ก็ต้องดูหน้างานด้วยว่าบรรยากาศหุ้นไทยจะไหวไหม ทั้งที่ปัจจัยบวก ยังคงเดิม ส่วนปัจจัยลบไม่มีเพิ่มเติม...
หากแต่เป็นแรงขายทำกำไรปกติ เราเห็นว่ายังสามารถเลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัวได้ ด้วยปัจจัยหนุนหุ้นไทยในอนาคตอันใกล้ยังเป็นตามที่เราประเมิน ขณะที่ข่าวซึ่งเคยดูเป็นลบ อาจไม่ได้ลบอย่างที่กังวล เช่น การเมืองในประเทศ ล่าสุด รมต.พิชิตลาออก ช่วยลดแรงกดดัน สว.ร้องถอดนายกฯ เป็นต้น
กลยุทธ์ แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว โฟกัสไปข้างหน้ามองหาปัจจัยหนุนแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/24 และครึ่งปีหลัง ตลอดจนการเลือกหุ้นเล่นตามกระแส เช่น หุ้นรับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนขนานใหญ่ เป็นต้น

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์ แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว เริ่มโฟกัสไปข้างหน้าหลังเห็นงบทั้งหมดในสัปดาห์นี้ เน้นไปที่แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการณ์ หรือ มองเห็นปัจจัยหนุนชัดเจนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนต่อผลการดำเนินงานหลังจากนี้ เช่น ฤดูกาลท่องเที่ยวของฝั่งตะวันตก (โอลิมปิกฝรั่งเศส, บอลยูโร เยอรมัน) MINT AOT อาหารส่งออก TU CPF เป็นต้น

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET ลงผิดคาด! กลับมาตั้งหลักบริเวณ 1,370 จุด ภาพหลัก Year to date ดัชนีเคลื่อนที่ sideway ออกข้างนานกว่า 4-5 เดือน โดยตลาดแกว่งขึ้นลงตามตำแหน่ง Fibonacci retracement ล่าสุดอยู่บริเวณ 38.2% มุมมองภาวะตลาดคาดขาดปัจจัยหนุนหลังผ่านพ้นการประกาศงบ 1Q24 ไปแล้ว ขณะที่สถิติไตรมาส 2 จะเข้าสู่ช่วง low season ของหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม โรงพยาบาล ค้าปลีกและอื่นๆ
สรุป: แนวโน้มตลาดย่อ (ผิดคาด) แต่แนวรับ 1360 จุด....สู้ไหว ลงไม่ลึก แนะเลือกหุ้นเป็นรายตัว Selective play! กลุ่มเด่นได้แก่ นิคม อาหารปศุสัตว์ ธนาคารและอิเล็คทรอนิกส์

 

What to watch
MSCI ปรับหุ้น BTS MTC LH และอาจมีการลดน้ำหนักหุ้นรายตัว ช่วงนี้ก่อนจะถึงวันมีผลใช้สิ้นเดือนนี้ (กดดันภาพรวมการลงทุน)
ประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เดือน ต.ค. ยังไม่นิ่ง หลังมีองค์กรเอกชนเกือบ 200 องค์กร ค้านนโยบายรัฐบาลดังกล่าว ทั้งนี้ วันที่ 19 มิ.ย. คาดว่าจะมีการประชุมและหาทางออกอีกที
การประชุม FETCO เมื่อวันที่ 21 พ.ค. เตรียมเสนอ คลัง มาตรการสนับสนุนการออม เช่น กองทุนหุ้นไทย 100% โดยเงื่อนไขคล้าย LTF
รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐวันพุธ เดจาวู อีกแล้ว คกก.เฟด กังวลเงินเฟ้อไม่ลด อาจตรึงดอกเบี้ยนาน และชะลอ การลดขนาดวงเงิน QT


หุ้นแนนำวันนี้
KTBข่าว ITD ปลดล็อคเหมืองโปแตสให้กลุ่มทุน จีน คาดหนุน Sentiment ราคาหุ้นธนาคารเจ้าหนี้ (S 17, R 17.6, SL 16.5)

 


รายงานพื้นฐานวันนี้

STEC
ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น
ปีนี้ตั้งความหวังที่ธุรกิจรับเหมาฯ
เราปรับลดประมาณการกำไร เพื่อลดความหวังต่อผลการดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง ฟื้นช้ากว่าคาดเดิม โดยหั่นกำไรหลักปี 2024 ลง 36% เป็น 408 ล้านบาท ลดลง 20% YoY อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการส่วนแบ่งกำไร-ขาดทุนจาก JV จะมีกำไรของธุรกิจหลักที่ 858 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% YoY โดยปัจจัยหนุนมาจากอัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้น 90bps YoY จากปีที่แล้วที่มีการบันทึกต้นทุนจากการปรับปรุงพื้นผิวสายสีเหลือง และซ่อมโครงการหนองบอน และปีนี้มีการรับรู้รายได้จากงานโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ช่วยหนุน GM ด้วย
เรายังเชื่อมั่นตามเดิมว่า 2Q24 จะมีกำไรหลัก เบื้องต้นมองเติบโต 10-20% YoY (Turnaround QoQ) จากฐาน GM ใน 2Q23 ที่ต่ำเพียง 2.1% ใน 2Q23 และมีรายได้เพิ่มเติมจากโรงไฟฟ้าที่ GM สูงเข้ามาในสัดส่วนที่มากขึ้น นอกจากสตอรี่จากงานใหม่ทยอยเข้ามาในปีนี้ ระยะกลาง 1-2 เดือนนี้ เราเชื่อว่าจะเห็นการขยับของ Mega Project อย่างรถไฟความเร็วสูงสามสนามบินฯ ซึ่งจะเชื่อมโยงมาต่อที่โครงการเมืองการบินอู่ตะเภา ที่ STEC ก็เข้าร่วมอยู่
Fundamental View: ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 12.00 บาท เปลี่ยนแปลงไม่มากจากเดิมที่ 12.20 บาท เนื่องจากเราใช้วิธิอิง PBV 1 เท่า (มีฐาน Book Value ที่ใหญ่อยู่แล้ว) และเรายังคงคำแนะนำซื้อ มองว่าปีนี้ ตลาดให้น้ำหนักธุรกิจรับเหมา

NEX
เน็กซ์ พอยท์
ขับระวังหลังเต่า
ราคาหุ้นก็มีการปรับตัวลงมาแรงหลังจากงบ 1Q24 โดยภาพของ GM ที่ลดลง และส่วนแบ่งขาดทุนจากโรงงาน Absolute assembly เราคาดว่าภาพใน 2Q24 จะคล้ายๆ กัน แต่อาจจะเห็นภาพรวมส่วนแบ่งกำไรพลิกเป็นบวก เพราะจะมีการรวม Tera เข้ามาด้วยในไตรมาสนี้ ขณะที่ GM คาดจะฟื้นตัวเล็กน้อย แต่คงจะไม่ขึ้นไประดับ 10% เหมือนก่อนหน้านี้ ดังนั้น แนวโน้มกำไร 2Q24 คาดยังลดลง YoY แต่ฟื้นตัว QoQ
ภาพรวมทั้งปี 2024 เรายังคงคาดยอดส่งรถ 3,000 คัน โดยคาดว่ายอดส่งรถจะเข้าในช่วง 2H24 มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความแน่นอนของการส่งมอบรถ คงเป็นปัญหาหลักของบริษัท จากโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่ยังคงตามไม่ทัน ส่วน GM คาดลดลงตามสัดส่วนสินค้า และโรงงาน AAB ที่ยังต้องใช้เวลาเพิ่ม Utilization rate อีกระยะหนึ่ง เราปรับประมาณการลดกำไรของ NEX ลงมาอีก 19% เหลือ 574 ล้านบาท
Fundamental View: เราปรับลดเป้าหมาย PER (De-rate PER) ลงมาที่ 16 เท่า หรือเทียบเท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1.5SD (ลดทอนตามความคาดหวังที่ลดลง) จะได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 4.4 บาท แนะนำ “ถือ” รอจังหวะการลงทุนหลังงบ 2Q24 ออกมา

 

 

PTG
(Visit Note)
พีทีจี เอ็นเนอยี
แนวโน้มปี 2024 เติบโตต่อเนื่องทั้งธุรกิจ Oil & Non-Oil
จากการประเมินเบื้องต้น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของทั้งธุรกิจ Oil และธุรกิจ Non-Oil หนุนโดยการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องซึ่งน่าจะหนุนการเติบโตของกำไรสุทธิในปี 2024 ของ PTG
สำหรับธุรกิจ Oil แนวโน้ม 2Q24 คาดว่าปริมาณขายจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ในขณะที่ค่าการตลาดเฉลี่ยคาดว่าจะสูงขึ้น QoQ (2Q24QTD อยู่ที่ 1.70-1.80 บาท/ลิตร, จาก 1Q24 ที่ 1.56 บาท/ลิตร)
ส่วนธุรกิจ Non-Oil แนวโน้ม 2Q24 คาดว่ายอดขายจะเติบโตต่อเนื่องจาก 1Q24 ที่มีปัจจัยหนุนการเติบโตมาจาก ธุรกิจ LPG, กาแฟพันธุ์ไทย (รายได้เติบโต 88% YoY และ 37% QoQ ใน 1Q24) และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของปริมาณขายน้ำมันไว้ที่ 10-12% YoY และตั้งเป้าหมายการขยายสถานีบริการเพิ่มอีก 50 แห่ง เป็น 2,251 แห่งในปีนี้ เป้า Non-oil รายได้เติบโต 40-50% YoY โดยขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยในประเทศไทย 400 สาขา เป็น 1,282 นอกจากนี้ เรายังมองผลประกอบการมีอัพไซด์จากการลงทุนใหม่ๆ
Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไร PTG เติบโต 5% ในปี 2024 และปัจจุบัน PER ปี 2024 ที่ 14.2 เท่า (ค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 19.5 เท่า)

STGT
(Visit Note)
ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย)
กำไรดีต่อเนื่อง
STGT ภาพโดยรวมดีขึ้นจากสินค้าคงคลังกลับมาเป็นปกติแล้ว และใน 1Q24 กำไรหลักเติบโต 32% YoY (ยอดขายที่ทำ all time high ต่อเนื่อง และ Utilization rate ขึ้นมาที่ 87.2%, มากกว่า pre-covid) แม้ว่า GM จะลดลงจากที่ปรับราคาขายขึ้นได้เพียง 1-2% (เทียบกับต้นทุนที่ขึ้น 6%)
แนวโน้ม 2Q24 ยังคงจะเห็นภาพปริมาณขายทรงตัว แต่จะเห็นการปรับราคากับลูกค้าที่มากขึ้นประมาณ 4-5% เพราะฉะนั้นเราคาดรายได้เพิ่มขึ้น YoY, QoQ และ GM ที่ทรงตัว ทำให้กำไรน่าจะเติบโต YoY, QoQ
Highlights จะอยู่ที่ 2H24 คาดว่ายอดขายจะมี Upside จาก 4 เรื่อง
1) มีการอนุมัติ มาตรการ Anti-dumping ที่บราซิล ที่จะกระทบต้นทุนคู่แข่ง
2) การประกาศเพิ่มภาษีของ สหรัฐฯ สำหรับถุงมือทางการแพทย์จากจีนเป็น 25% (จาก 7.5%) โดยบริษัทมีรายงานลูกค่าเริ่มติดต่อกลับมาแล้วตั้งแต่ 1Q24
3) สินค้าใหม่อย่างที่อิงตาม EUDR (กฎตัดไม้ทำลายป่าของยุโรป) คาดเห็นคำสั่งซื้อเข้ามาใน 3Q24
4) มีการใช้ BOI ในสายการผลิตใหม่ที่มากขึ้น เราคาดว่าจะส่งผลให้ดอกเบี้ยจ่ายและอัตราภาษีลดลงไป
ดังนั้น เราคาดว่าจะเห็นแนวโน้มกำไรเพิ่มขึ้นได้ QoQ ทุกไตรมาสต่อจากนี้
Bloomberg consensus คาดกำไรปี 2024 ที่ 985 ล้านบาท เติบโต 96% YoY และซื้อขายบน PER ที่ 33 เท่า (สูงกว่าค่าเฉลี่ย +1SD แล้ว) ดังนั้น คำแนะนำเบื้องต้น เรามอง รอจังหวะ เพราะ Valuation สูงแล้ว


สรุปประเด็นจาก Quick take

ITEL
อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม
ประเด็นสำคัญจาก Opportunity Day
เราเข้าร่วมงาน Opportunity Day ITEL โดยเรามีมุมมองเป็นบวก
View From Fundamental: Backlog ของ ITEL คิดเป็น 66% ของประมาณการปีนี้ของเรา และ เริ่มเห็น ความชัดเจนและโมเมนตัมของงานที่จะเข้ามามากขึ้นทั้งของภาครัฐและเอกชน เรายังคงแนะนำซื้อ ITEL

COCOCO
ไทย โคโคนัท
ยังคงไต่ระดับเพดานไปต่อ
งาน Opportunity Day ของ COCOCO โดยรวมยังคงยืนยันมุมมองบวกต่อแนวโน้มธุรกิจ โดยแนวโน้ม 2Q24 ยังเป็นไปในทิศทางดียวกับที่เราประเมินไว้
View From Fundamental: เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 14.50 บาท มองราคาที่ลงมาจากการขายทำกำไรจากงบฯ น่าจะเริ่มเบาลงเร็วๆ นี้ เป็นโอกาสทยอยสะสม เพราะแนวโน้มกำไร 2Q24 ลุ้นทำ All-time high ต่อเนื่อง พร้อมแนวโน้มที่ดีต่อใน 3Q24 เป็นแรงส่งรีบาวน์ในระยะกลาง

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

วันขาย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ขายเมื่อมีข่าวดี วันนี้ วันขาย ท่ามตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น ตอบรับข่าวดี สหรัฐกับจีน ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้