Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

528

 

AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งตามกรอบ 1375-1390
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่กำไรแนวโน้มโตแกร่ง
Market Strategy


SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1375-1390 จุด สภาพแวดล้อมต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ยืนในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ บนความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยฯของ FED โดยเฉพาะ Dow Jones ปรับขึ้น 0.34% ทำระดับ All Time High ฝั่งจีนรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน เม.ย. ขยายตัว 2.3%YoY ต่ำตลาดคาด 3.7%YoY แต่ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย. ขยายตัว 6.7%YoY ดีกว่าตลาดคาด 5.5%YoY ประกอบกับได้ Sentiment บวกจากการออกมาตรการกระตุ้น ภาคอสังหาฯ โดยล่าสุดได้มีการประกาศปรับลด เงินดาวน์ในบ้านหลังแรกและหลังที่สองมาที่ 15% และ 25% จากเดิม 20% และ 30% รวมถึงมาตรการให้รัฐบาลท้องถิ่นซื้อบ้านค้างสต็อควงเงิน 3 แสนล้านหยวน เพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องต่อผู้ประกอบการ จึงมองเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นที่เกี่ยวกับเนื่องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน อย่างปิโตรฯ (IVL PTTGC) กลุ่มบรรจุภัณฑ์ (SCGP) ต่อไป


ปัจจัยในประเทศ ความสนใจหลักวันนี้อยู่ที่การรายงาน GDP 1Q67 โดยสภาพัฒน์ ซึ่งตลาดคาดว่าจะขยายตัว 0.8%YoY ชะลอลงจากเดือนก่อนที่ 1.7%YoY หากออกมาระดับข้างต้นเรามองจะไม่สร้างแรงกดดันต่อตลาดเพราะจะเป็นจุด Bottom ก่อนที่จะฟื้นตัวในไตรมาสถัดไป โดยอิง Bloomberg Consensus คาด GDP2Q67/3Q67/4Q67 จะขยายตัวเร่งขึ้นที่ 2%/2.8%/3.9%YoY ตามลำดับ

สำหรับประเด็นการเมืองในประเทศจากกรณี 40 ส.ว. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถอดถอนตำแหน่งนายกฯและ รมว. ประจำสำนักนายกฯ ซึ่งต้องติดตามวันที่ 23 พ.ค. ว่าศาลฯ จะรับวินิจฉัยหรือไม่ หากรับให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งมองเป็นปัจจัยที่อาจสร้างแรงกดดันต่อตลาดในระยะสั้น กลยุทธ์เลือกหุ้นที่กำไรมีแนวโน้มเติบโตและมีประเด็นเฉพาะตัวหนุน


Market Summary
SET Index ปรับขึ้นราว 5 จุด หนุนหลักมาจากกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ DELTA +2.3% กลุ่มขนส่ง AOT มีแรงซื้อกลับ +1.5% และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างกลุ่มบรรจุภัณฑ์ SCGP +7.2% กลุ่มปิโตรฯ IVL +1.6% PTTGC +4.1% ด้านกลุ่มที่กดดันมาจากกลุ่มพลังงาน -0.4% หลังขาดปัจจัยหนุน กลุ่มท่องเที่ยว CENTEL -4.0% ERW -4.1% ที่ขายทำหลังผ่านช่วง High Season ท่องเที่ยวไทย

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPALL KBANK

KBANK สัญญาณบวก
เพิ่มจากFund Flow
ผลประกอบการ 1Q67 ที่แข็งแกร่ง ทำให้เรามีมุมมองเชิงบวกนโยบายบริษัทที่มุ่งเน้นไปที่คุณภาพสินเชื่อที่ดีเพื่อลด credit cost ในปี 67-68 นอกจากนี้เราเชื่อว่า KBANK มีโอกาสปรับ Dividend Payout Ratio สูงขึ้นเพื่อช่วยหนุนต่อ ROE ที่ตั้งเป้าหมายที่ 10% ภายในปี 69 ส่งผลบวกต่อการจ่ายปันผลสูงขึ้นตาม โดยเราคาด Dividend Yield ปี 67/68 ที่ระดับ 5.6%/6% ต่อปี ขณะที่ Valuation ซื้อขายบน PBV67E ถูกเพียง -0.54 เท่า
ในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมาเราเห็นสัญญาณบวกจากทิศทาง Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าโดยเป็นการซื้อสุทธิ 5.2 พันล้านบาท หลังทิศทางกำไรบริษัทจดทะเบียน 1Q67 ออกมาดีกว่าคาด ซึ่งเราพบว่า KBANK ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่เป้าหมาย Fund Flow รอบนี้ สะท้อนจากการซื้อสุทธิใน NVDR มากที่สุดในตลาดด้วยมูลค่า 1.7 พันล้านบาท
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 145.00 บาท


CPALL ถึงจุดทยอยรับ
ทิศทางผลประกอบการ 2Q67 ยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อ YoY จากทิศทาง SSSG ช่วง 2QTD ที่ยังขยายตัว 4%YoY เช่นเดียวกับอัตราการทำกำไรขั้นต้นดีขึ้นเนื่องจาก Product Mix จากสินค้า Margin สูงที่ขายดี อาทิ อาหาร Ready to Eat และ Personal Care ที่ฟื้นตามการเดินทางและภาคท่องเที่ยวที่ดีขึ้นรวมถึงสินค้าเครื่องดื่มที่ได้ประโยชน์จากอากาศร้อนในปีนี้
ด้านกำไรทั้งปี 67E คาดเติบโต 36%YoYและยังมี Upside จากมาตรการ Digital Wallet ช่วงปลายปี โดยราคาหุ้นในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมาปรับลงไป 3% คาดว่ามาจาก Sell on Fact หลังการรายงานงบ1Q67 ทำให้ในมุม Valuation ซื้อขายบน PER67E 26.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีกว่า-1 S.D.ราว จึงมองการอ่อนตัวน่าใช้เป็นโอกาสสะสม
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75.00 บาท

KEY FACTOR
Consensus คาด GDP 1Q67 ของไทย ขยายตัว +0.8% YoY และ +0.6% QoQ
ในสัปดาห์นี้ทิศทางตลาดหุ้นไทยน่าจะให้น้ำหนักกับทั้ง1) ปัจจัยต่างประเทศ ซึ่งมีปัจจัยที่มีผลต่อการปรับมุมมองดอกเบี้ยสหรัฐฯ ต่อเนื่อง นำโดย รายงานการประชุม FOMC เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา (รายงานวันที่ 23 พ.ค.) ซึ่งหากย้อนกลับไปมองถึงการส่งสัญญาณของประธาน Fed พบว่ายังเปิดโอกาสการปรับลดดอกเบี้ย แต่พิจารณาเงินเฟ้อเป็นตัวแปรสำคัญ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นใจความสำคัญของรายงานการประชุมครั้งนี้ รวมทั้ง 2) ปัจจัยในประเทศ การรายงานตัวเลข GDP 1Q67 ซึ่ง Consensus คาด +0.8% YoY และ +0.6% ซึ่งโดยรวมน่าจะยังทำให้ตลาดคงโมเมนตัมเชิงบวกได้ จากภาพเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และจะเร่งตัวหลังการเบิกจ่ายงบฯรัฐ

 

Eyes on
20 พ.ค. GDP 1Q67 ของไทย, จีนประกาศดอกเบี้ย LPR 1 และ 5 ปี
23 พ.ค. รายงานการประชุม FOMC เดือน พ.ค., S&P Global PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐฯ, HCOB PMI ภาคการผลิตและบริการของ Eurozone
24 พ.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

NER สานต่อโครงการ “NER ยิ้มสวย สุขภาพฟันดีกับทันตกรรมเคลื่อนที่” ปี 2 ร่วมดูแลสุขภาพช่องปากพนักงานกว่า 1,000 คน

ในยุคที่การดูแลสุขภาพกลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน ทั้งการออกกำลังกายหรือการทานอาหารที่ดี แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือ

หมดแรง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหลายตลาด หมดแรง อ่อนตัวลง แต่หุ้นไทย วูบไป 1.44% ในเช้าวันนี้ ด้วยใช้ข่าวดี .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้