Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

610

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 16 พ.ค.67 ปิด +7.28 จุด อยู่ที่ 1,377.72 จุด มูลค่าการซื้อขาย 51,462 ลบ.ต่างชาติซื้อ 3,565 ลบ.สถาบันขาย 1,650 ลบ.รายย่อยขาย 1,893 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 3,347 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น KBANK,PTTEP,DELTA,BBL,CPF และมียอดขายสุทธิ MINT,BDMS,BCP,TOP,MTC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 5,294 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ LVMH01,SCCC,EKH โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 15,820 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 75,833 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,084 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.10%, S&P500 -0.21%, Nasdaq -0.26% ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย -0.75%, วัสดุ -0.73% ขณะที่สินค้าอุปโภค +1.4% ส่วนตัวเลขเริ่มสร้างบ้าน เม.ย. +5.7% อยู่ที่ 36 ล.ยูนิต & คาดที่ 1.42 ล.ยูนิต ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.21% จากแรงขายกลุ่มรถยนต์ -1.2%, พลังงาน -1% เป็นผลจากการขึ้น XD

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนีปรับลดลง หลังวันพุธที่ผ่านมาปรับขึ้นรับ US CPI เม.ย. ชะลอตัวอยู่ที่ 3.4% & มี.ค. 3.5% YoY บ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัว ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ ปธ.เฟดสาขาริชมอนด์ โทมัส บาร์กิ้น ( Vote Member) เผยต้องการรอให้เงินเฟ้อสหรัฐลดลงจากระดับปัจจุบัน ก่อนจะตัดสินใจลดดอกเบี้ย ค่ำวันนี้ติดตามดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐ เม.ย. คาด -0.3% ทรงตัว MoM
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง หลัง BP, MBW, Daimler Truck ขึ้นเครื่องหมาย XD กอปรซีเมนต์ -6.6% รับข่าวกำไรด้านอุตสาหกรรมไตรมาสที่ผ่านมา -2% และต่ำกว่าคาด ค่ำวันนี้ติดตาม CPI ยูโรโซน เม.ย. คาดทรงตัวที่ 2.4% YoY เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยใน มิ.ย.   
  • ตลาดหุ้นเอเชียเหนือวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี จากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. นี้ ขณะที่ดัชนีหุ้นจีน CSI300 +0.39% รับข่าวรัฐบาลจีนจะออก ม.รับซื้อบ้านค้างสต็อค ซึ่งเป็นหนึ่งใน ม.กระตุ้นภาคอสังหา ฯ ขีน วันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีน เช่น ผลผลิตภาคอุตฯ เม.ย. คาด 5.5% & มี.ค. 4.5% YoY, ยอดค้าปลีก เม.ย. คาด 3.7% & มี.ค. 3.1% YoY และการลงทุนสินทรัพย์ถาวร เม.ย. คาด 4.6% & มี.ค. 4.5% YoY
  • SET +0.53% ปริมาณการซื้อขาย1 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 3.5 พัน ลบ. รายย่อยขาย 1.8 พัน ลบ. สถาบันขาย 1.6 พัน ลบ. ได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มอิเล็ก ฯ , ไฟแนนท์, โรงไฟฟ้า ขณะที่ข่าวรัฐบาลจีนเตรียมเข้าซื้อบ้านค้างสต็อค ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯ จีน และเป็นบวกต่อกลุ่มที่พึงพาอุปสงค์จากจีนของไทย เช่น พลังงาน & ปิโตรเคมี, บรรจุภัณฑ์ ส่วนรายงานกำไร บจ.Q1/67 มีกำไรดีกว่า BB.Consensus +4.7% โดยกลุ่มอาหาร, เครื่องดื่ม, ไอซีที และบริการสุขภาพ คาดกำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วง Q2 นี้ ประเด็นสำคัญวันจันทร์สภาพัฒน์จะรายงาน GDP ไทย Q1/67 คาด +0.7% & Q4/66 +1.7% YoY และคาด +0.5% & Q4/66 -0.6% QoQ โดยโมเมนตัมเศรษฐกิจไทยใน 2H/67 จะได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ                  

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET ทรงตัวอยู่ในกรอบ 1,370 – 1,385 ระหว่างรอรายงาน GDP ไทย Q1/67 ในช่วงเช้าวันจันทร์ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอาหาร & เครื่องดื่ม CPF,AAI,ITC,ICHI,CBG,OSP คาดกำไร Q2 มีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง/ CK,STEC,SCCC,TASCO รับงบลงทุนภาครัฐ
  • GPSC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 58.75 บาท) ผลประกอบการ 1Q67 กำไรฟื้นตัว QoQ ตามคาดเป็นผลจากปริมาณขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั้ง IPP และ SPP รวมถึงการปรับขึ้นค่า Ft งวด ม.ค.-เม.ย.67 ประกอบกับต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่ลดต่ำลงตามฤดูกาล ช่วยหนุนอัตรากำไรดีขึ้น ส่วนใน 2Q67 คาดกำไร +QoQ, YoY เข้าสู่ช่วง high season ความต้องการใช้ไฟฟ้าช่วงฤดูร้อน ประกอบกับมีโครงการที่เริ่ม COD ไปในช่วงปลายเดือน มี.ค.ได้แก่ Glow SPP2 Replacement และ IRPC-CP3 ขณะที่ต้นทุนเชื้อเพลิงมีแนวโน้มปรับลดลงทั้งก๊าซและถ่านหิน นอกจากนี้หากสรุปเรื่อง Single pool gas ได้อาจจะมีการบันทึกราคาก๊าซย้อนหลังเข้ามาตั้งแต่ต้นปี อีกทั้งได้ sentiment บวกจาก Bond Yield ที่ปรับลดลง ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 05 พันล้านบาท +35%YoY
  • TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมายปี67 19.50 บาท) กำไรปกติ 1Q67 อยู่ที่ 892 ลบ.(+10.60%YoY, -24.12%QoQ) สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ดีYoY ในส่วน ของ operation หลักจากธุรกิจ Petcare และ Ambient Seafood ส่วน 2Q67 เราคาดเห็นกำไรแกว่งขึ้น YoY QoQ จาก 1.ฐานต่ำปกติใน 2Q66 จากในช่วงเวลาดังกล่าว Inventory คู่ค้าอยู่ในระดับสูงจึงไม่ออเดอร์สินค้าใหม่คาดต้นทุนราคาปลาทูน่าอยู่ในระดับต่ำ 1,300-1,500 usd/ton (จากช่วง 2Q66 ที่ 2,000 usd/ton ) ทั้งนี้ราคาปลาทูน่าที่มีโอกาสแกว่งจากโซนล่าง(ราว1,300 usd/ton ใน 1Q67)ขึ้นบน(แต่ไม่สูงเกินไป ไม่สูงกว่า 1,800 usd/ton โดย เม.ย.67 อยู่ที่ 1,375 usd/ton) นอกจากต้นทุนสินค้าใน Inventory ถูกแล้ว ยังดีต่อการปรับราคาขายOEMขึ้นด้วย เป็นบวกมากต่อมาร์จิ้น

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI มิ.ย. +$0.60 อยู่ที่ $79.23/บาร์เรล Brent ก.ค. +$0.52 อยู่ที่ $83.27/บาร์เรล หลัง US CPI เม.ย. ชะลอตัว ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งเป็นผลบวกต่ออุปสงค์น้ำมันตลาดโลก

 

Gold Update(-) Comex Gold มิ.ย. -$9.40 อยู่ที่ $2,385.50 /ออนซ์ ถูกกดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.11% อยู่ที่ 104.462

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ
+128.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   ซื้อหุ้นไทย +98.62 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +33.10 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -3.42 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 36.287 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.367 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -72 จุด อยู่ที่ 1,817

(-) BitCoin เช้านี้ -1.36% อยู่ที่ 65,192 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

15 พ.ค.     ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

20 พ.ค.     สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 1/67

สัปดาห์ที4  ส.อ.ท. แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ,การค้าชายแดน

และการค้าผ่านแดน

 

ต่างประเทศ

14 พ.ค.     US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (เม.ย.)

15 พ.ค.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (เม.ย.)

                US ดัชนียอดขายปลีก (เม.ย.)

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

16 พ.ค.     US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย ( พ.ค.)

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

17 พ.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (เม.ย.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL* 

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE* 

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH* 

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR* 

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC* 

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2024: GFPT*, SAPPE*, OSP*, ITC*, ICHI*, CPALL

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้