
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (14 พฤษภาคม 2567)------บอร์ด PROEN จัดชุดคอมโบเซ็ต! อนุมัติเพิ่มทุนจำนวน 519.47 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมราคาหุ้นละ 1 บาท อัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ1 หุ้นเพิ่มทุน พร้อมแจกวอร์แรนท์ (PROEN-W2) ฟรี! อัตราส่วน 4 หุ้นเพิ่มทุนต่อ 1วอร์แรนท์ ฟากซีอีโอ "กิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม" ระบุเตรียมระดมทุนสร้างอาคารศูนย์ข้อมูล และสำนักงานแห่งใหม่ (OTT DC) รวมทั้งชำระคืนหุ้นกู้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งฐานะทางการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน ผลักดันอนาคตเติบโตก้าวกระโดด
นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2567 มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯ จำนวน 259,739,070.50 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จำนวน 173,159,380.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียน จำนวน 432,898,451 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 519,478,141 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท พร้อมแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนดังกล่าว
โดยให้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 346,318,761 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นแต่ละรายที่ถืออยู่ (Rights Offering) ในอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น 1 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Record Date) วันที่ 19 มิถุนายน 2567
พร้อมกันนี้ ให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 173,159,380 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ PROEN-W2 ซึ่งจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ภายหลังการเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ PROEN-W2 โดยไม่คิดมูลค่า
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อนำไปลงทุนก่อสร้างอาคารศูนย์ข้อมูล และสำนักงานแห่งใหม่ (OTT DC) และนำไปชำระคืนหุ้นกู้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ซึ่งจะส่งผลให้มีโครงสร้างเงินทุน หรืออัตราส่วนทางการเงินที่เหมาะสม อีกทั้งเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อให้บริษัทฯ มีเงินทุนเพียงพอต่อการรองรับการดำเนินงานทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 12 มิถุนายน 2567 เวลา 14.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าประชุม (Record Date) ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2567
TEGH เปิดงบ Q1/67 โชว์รายได้ 3,708.65 ลบ. กำไร 63.43 ลบ.
เผยยอดขายยางแท่งทะลุ 3,158.05 ลบ. ลุ้นออลไทม์ไฮปีนี้
บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 มีรายได้รวมแตะ 3,708.65 ล้านบาท กำไรสุทธิ 63.43 ล้านบาท ฟากกรรมการผู้จัดการ "สินีนุช โกกนุทาภรณ์" ระบุยอดขายยางแท่งเพิ่มขึ้นแตะ 3,158.05 ล้านบาท ประเมินแนวโน้มดีต่อเนื่อง คาดยอดขายยางแท่งปีนี้ทำออลไทม์ไฮได้ตามเป้าหมาย พร้อมเดินหน้ารุกขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในแถบยุโรป จีน อินเดีย รับอานิสงส์กฎหมาย EUDR มั่นใจสนับสนุนอนาคตเติบโตอย่างยั่งยืน
นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2567) บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,708.65 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 63.43 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้ายางแท่งแตะระดับ 3,158.05 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัว และการเติบโตของอุตสาหกรรมยางล้อและรถยนต์
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินไตรมาส 2/2567 คาดมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติที่มีทิศทางสดใสตลอดทั้งปี และมีโอกาสที่จะทำให้ยอดขายยางแท่งในปี 2567 สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High) ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าปริมาณขายยางแท่งจะเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนที่มียอดขาย 197,000 ตัน
"ในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ มียอดขายยางแท่งที่เติบโตได้ดี และคาดว่าจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 2/2567 ตลอดจนถึงสิ้นปีนี้ และที่สำคัญ ยอดขายยางแท่งยังมีโอกาสทำออลไทม์ไฮ ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยางล้อและรถยนต์ รวมถึงมีสัญญาณที่ดีจากความต้องการยางแท่งมาตรฐาน EUDR ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อผลประกอบการในครึ่งปีหลัง ทั้งในด้านของยอดขายและราคาขายยางแท่งอีกด้วย" นางสาวสินีนุช กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งในยุโรป จีน และอินเดีย โดยได้รับผลเชิงบวกจากการบังคับใช้กฎหมาย EUDR ซึ่งเป็นกฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการเจรจาทำสัญญาซื้อขายยางแท่งเกรด EUDR แล้วทั้งในโซนยุโรปและเอเชีย จะเริ่มส่งมอบสินค้าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ลูกใหม่อยู่ระหว่างทดสอบระบบ คาดว่าจะเสร็จทันรองรับช่วงพีคของปาล์มในไตรมาส 3/2567 นี้ นอากจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะติดตั้งหม้อนึ่งปาล์ม (Sterilizer) เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นอีก 50% ภายในปี 2569
ส่วนธุรกิจด้านพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ หลังจากที่เดินระบบและเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 1 ในไตรมาส 4/2566 แล้วนั้น ในไตรมาสนี้ก็สามารถรับกากอินทรีย์ได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการรับบริหารจัดการกากอินทรีย์เพิ่มขึ้น 17.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าจะสามารถเริ่มโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 2 ได้ภายในปีนี้
////จบ///