TASCO : ผลประกอบการใน 1Q พลาด เนื่องจากทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้

ยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นน่าจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้ตั้งแต่ 2Q เป็นต้นไป
แม้ว่าเราคาดการณ์ไว้แล้วว่าผลประกอบการใน 1Q24 ของ TASCO จะอ่อนแอ แต่กำไรสุทธิที่ออกมากลับแย่กว่าที่คาด เนื่องจากมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ หากไม่รวมรายการดังกล่าว กำไรสุทธิปกติก็ยังต่ำกว่าประมาณการของเรา เพราะทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าคาด ยอดขายซบเซาเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศอ่อนแอจากความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากราคายางมะตอยที่อ่อนตัวลง และขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงด้านราคา อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการใน 1Q น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี เรายังคงมองโอกาสการเติบโตของยอดขายในประเทศที่มีอัตรากำไรสูงตั้งแต่ 2Q เป็นต้นไป หลังการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาลเริ่มขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลบวกต่อกำไรในปี 2024 คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ TASCO

ผลประกอบการที่แย่ลงใน 1Q24 เป็นผลมาจากความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาลประจำปีงบประมาณ 2024
TASCO มีกำไรสุทธิใน 1Q24 เพียง 8 ล้านบาท ลดลง 99% YoY และลดลง 97% QoQ โดยมีสาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ 100 ล้านบาท หากไม่รวมรายการนี้ กำไรสุทธิปกติจะอยู่ที่ 108 ล้านบาท ลดลง 91 YoY และ 51% QoQ ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของเราถึง 21% ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการแย่ลงคือ 1) ยอดขายยางมะตอยลดลง 41% YoY และ 17% QoQ จากอุปสงค์ในประเทศที่ซบเซา และราคายางมะตอยลดลง 12% QoQ และ 2) อัตรากำไรขั้นต้นยางมะตอยลดลงจาก 20.5% และ 9.6% เหลือ 6.3% จากราคายางอ่อนตัวลง และขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยง 27 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างก็ลดลง 33% QoQ แม้จะเพิ่มขึ้น 382% YoY เนื่องจากรายได้งานก่อสร้างลดลง 17% จากมูลค่า backlog ลดลง โดยอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 5.4% เป็น 4.3%

เราคาดว่าผลประกอบการของ TASCO จะดีขึ้นตั้งแต่ 2Q เป็นต้นไป เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศน่าจะขยายตัวได้ดีขึ้น
เราคาดการณ์ว่า 1Q จะเป็นจุดต่ำสุดของผลประกอบการในปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศน่าจะกลับมาฟื้นตัวใน 2Q24 หลังการเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2024 ของรัฐบาล โดยงบประมาณสำหรับการบำรุงรักษาถนนได้รับการจัดสรรเพิ่มขึ้น 20% ขณะที่งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2025 จะเริ่มในเดือนตุลาคม ดังนั้น กำไรของ TASCO จึงน่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในช่วง 2Q-4Q24F

คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ TASCO โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 18.90 บาท
แม้ผลประกอบการใน 1Q จะอ่อนแอ แต่เรายังคงประมาณการกำไรไว้เช่นเดิม เนื่องจากคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ 2Q เป็นต้นไป ดังนั้น มูลค่าที่เหมาะสมของเราอยู่ที่ 18.90 บาท ซึ่งคำนวณจากค่า PER ปี 2024 ที่ 11 เท่า (อ้างอิงจากค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังของหุ้น) จึงยังคงเดิม เมื่อพิจารณาว่ายังมี upside ราว 17% จากมูลค่าที่เหมาะสม รวมถึงการคาดการณ์ว่ากำไรจะฟื้นตัวในช่วง 2Q เป็นต้นไป ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ TASCO โดยมีความเสี่ยงหลักได้แก่ ปริมาณยางมะตอยที่ขาย ราคายางมะตอย และส่วนต่างราคาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้