Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ทิสโก้ : NSL คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 32.00 บาท

593

 

• NSL : ผลประกอบการที่แข็งแกร่งทั้งในด้านรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น
NSL มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในทุกด้าน
NSL รายงานกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 127 ล้านบาท ใน 1Q (เพิ่มขึ้น 68% YoY และเพิ่มขึ้น 25% QoQ) ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของรายได้หลักที่ 23% YoY และอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงถึง 21.0% โดยแนวโน้มน่าจะคงอยู่ใน 2Q24 เนื่องจากเป็นฤดูกาล และการประหยัดต่อขนาดที่ใหญ่ขึ้น ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบที่คงที่ การขาดทุนจากการร่วมทุนก็ลดลงเหลือ 0.2 ล้านบาทในไตรมาสนี้ จาก 3 ล้านบาท QoQ เนื่องจาก NSL Bake a Wish มีกำไรเล็กน้อย (เปรียบเทียบกับขาดทุน 2.1 ล้านบาทในปี 2023) ทั้งนี้ เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2024F ขึ้น 16% เป็น 467 ล้านบาท และปรับมูลค่าที่เหมาะสมขึ้นเป็น 32.00 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ยอดขายและกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ยอดขายอยู่ที่ 1.35 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY โดยได้แรงหนุนจากผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ของ NSL ที่เติบโต 18% YoY สู่ระดับ 1.19 พันล้านบาท และกลุ่มธุรกิจแบรนด์และการค้าของ NSL ที่พุ่งขึ้น 725% YoY สู่ระดับ 82 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ใหม่ โปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และการเน้นยอดขายผ่านพาร์ทเนอร์ ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายในกลุ่มเบเกอรี่ ประกอบกับการควบคุมต้นทุน และการประหยัดจากขนาดการผลิตที่มากขึ้น รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบต่ำ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นขยายสูงสุดใหม่ที่ 21% จากช่วงปกติ 18-19% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดีที่ 9.4% เทียบกับ 9.8% ใน 1Q23 ส่งผลให้ EBIT อยู่ที่ 161 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 64% YoY และ 25% QoQ)

แนวโน้มที่สดใสสำหรับ 2Q24F ; ปรับประมาณการกำไรปี 2024 เพิ่มขึ้น 16%
หลังจากผลประกอบการ 1Q24 ที่แข็งแกร่ง เราได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2024-2025 ขึ้น 16%/15% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น เราปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของยอดขายปี 2024 เป็น 19% (จากเดิม 15%) และอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 19.9% (จากเดิม 18.5%) ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากแนวโน้มใน 2Q23 ยังคงมั่นคงจากการประหยัดต่อขนาดที่สูงขึ้น และแรงผลักดันของรายได้จากการส่งออกที่เติบโต

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ NSL ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 32.00 บาท จากการประเมินมูลค่าเชิงสัมพันธ์
เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมปรับมูลค่าที่เหมาะสมขึ้นเป็น 32.00 บาท (จากเดิม 27.50 บาท) โดยอ้างอิงจากกำไรสุทธิประมาณการปี 2024 ที่ 1.56 บาทต่อหุ้น และอัตราส่วนราคาต่อกำไรที่ 20.6 เท่า โดยปัจจัยเสี่ยงหลักประกอบด้วย 1) ข้อตกลง MOU ร่วมกับ CPALL 2) ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบ และ 3) ความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ใหม่

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้